ถาม-ตอบทุกหมวดหมู่
แสดง 1 - 20 จาก 966
หน้า
- การย้ายออกจากทะเบียนการเกษตรเราสามารถย้ายเองได้ไหมย้ายออนไลน์ได้ไหมคะหรือต้องหัวหน้าครัวเรือนแจ้งย้ายออกให้เท่านั้นนักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 4 กันยายน 2567กรณีผู้ยื่นคําร้องเป็นสมาชิกในครัวเรือน สามารถยกเลิกการเป็นสมาชิกของตนเองได้ โดยแนบสําเนาบัตรประจําตัวประชาชนของผู้ยื่นคําร้อง พร้อมรับรองสําเนา และเอกสารอื่น (ถ้ามี) กรณีที่หัวหน้าครัวเรือนไม่สามารถมาด้วยตนเอง ให้ทําหนังสือมอบอํานาจได้ หรือสามารถแจ้งที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ขึ้นทะเบียนได้เลยค่ะ
อ่านต่อ - สวัสดีครับ ขอสอบถามตลาด-แหล่งรับซื้อมะละกอแขกนวลภาคอีสานในจังหวัดอุดรธานีครับนักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 23 กรกฎาคม 2567ตลาดอุดรเมืองทอง เกษตรกรสามารถเข้าร่วมกลุ่มตลาดเมืองทองเจริญศรี จ.อุดรธานี ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/568700640394003/ ตลาดเมืองทองเจริญศรีอุดรธานี โทร. 081 954 4441, 0 4224 1977 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Udonmuangthong.Market/?locale=th_TH
อ่านต่อ - ถ้าเป็นดินดานเอามาถมที่ จอบขุดไม่ลง น่าจะเป็นดินก้นบ่อ ต้องปลูกอะไร ยังไง ดีครับ ฝนตกลงมาไม่ซึมลงไปเลยนักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 23 กรกฎาคม 2567รบกวนพิจารณาตามนี้ค่ะ 1. ดินดานที่พบบนพื้นที่ดอน ถ้าเป็นชั้นดานแข็งที่มีแนวสัมผัสหินแข็งและเป็นดินตื้น ควรใช้ประโยชน์เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ปลูกป่าทดแทน หรือปลูกพืชไร่ที่มีระบบรากสั้น ในกรณีที่พบชั้นดานอยู่ตื้น ถ้าจะปลูกไม้ผลควรมีการปรับปรุงเฉพาะหลุมเพื่อให้รากพืชสามารถหาน้ำและอาหารได้ 2. ดินดานที่พบในที่ลุ่ม มีความเหมาะสมในการทำนา แต่ต้องจัดการดินโดยปรับระดับพื้นที่ให้สม่ำเสมอ การปรับคันนาเพื่อการกักเก็บน้ำ และการปรับปรุงดินด้วยอินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และปุ๋ยพืชสด 3. ถ้าเป็นชั้นดานที่เกิดจากการใช้ประโยชน์ การจัดการดินต้องไถระเบิดดินดาน การเพิ่มอินทรียวัตถุ การเตรียมดินอย่างถูกวิธี เช่น ไม่ไถพรวนบ่อย หรือไม่ไถพรวนขณะที่ดินเปียกเกินไป เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามควรมีการปรับปรุงบำรุงดินด้วยอินทรียวัตถุควบคู่ไปกับการจัดการดินเพื่อให้ดินมีโครงสร้างดีขึ้น ลดความหนาแน่นรวมของดินเพื่อให้รากพืชสามารถเจริญเติบโตได้ดีขึ้น
อ่านต่อ - นวัตกรรมที่ช่วยฟื้นฟูดินหลังจากเผาตอซังข้าวมีอะไรบ้างนักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 23 กรกฎาคม 2567การปรับปรุงดิน สามารถทำได้โดยหว่านพืชปุ๋ยสดก่อนปลูกข้าวแล้วไถกลบในระยะออกดอก เนื่องจากมีธาตุอาหารสูงสุด หรือใช้ร่วมกับน้ำหมักชีวภาพ และปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน สำหรับดินเปรี้ยวการใส่ปูนจะทำให้สภาพดินเหมาะสมต่อการปลูกเพิ่มขึ้นค่ะ หลังจากปรับปรุงดินแล้ว ควรงดการเผาตอซังและใช้การไถกลบตอซังเพื่อปรับปรุงดินและเพิ่มผลผลิตข้าวในรอบถัดไป สามารถอ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้จาก ข้อมูลเพิ่มเติมและภาพประกอบ ด้านล่าง
อ่านต่อ - พื้นที่ดินถมเก่าซึ่งเป็นดินลูกรังก้นบ่อ ตอนนี้แข็งมาก สมควรจะปลูกต้นอะไรครับ แต่ถมสูงแค่ 0.80 ม. สามารถขุดลงไปถึงดินเดิมได้ (แต่ต้องเอาน้ำแช่ไว้ 2 วัน) กว่าจะขุดได้ถึงดินเดิม ผมขุดกว้าง ยาว 0.50 ม. แต่เวลาโรยปุ๋ยผิวดินรอบต้นที่จะปลูก ปุ๋ยคงไม่ซึมลง ต้องปลูกต้นอะไรดีครับ ขอบคุณครับนักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 18 กรกฎาคม 2567ก่อนอื่นควรปรับปรุงดินก่อนปลูกพืชนะคะ โดยปฏิบัติดังนี้ หลักการปรับปรุงดินลูกรังเพื่อปลูกพืช ในการปรับปรุงบำรุงดินลูกรังเพื่อปลูกพืชเพื่อเพิ่มผลผลิต โดยการเพิ่มอินทรียวัตถุ สามารถทำได้โดย 1. การไถกลบฟางข้าว และรดด้วยปุ๋ยอินทรีย์น้ำอัตรา 5 ลิตร/ไร่ หมักทิ้งไว้ ช่วยให้ฟางย่อยสลายเร็วขึ้นเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดิน 2. ใส่ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก อัตรา 2-4 ตัน/ไร่ คลุกเคล้ากับดินในแปลงปลูกพืช หรือในบริเวณหลุมปลูกไม้ผล ในอัตราเฉลี่ย 25-50 กิโลกรัมต่อหลุม 3. ปลูกพืชปุ๋ยสด เช่น ปอเทือง ถั่วพุ่ม ถั่วพร้า แล้วไถกลบลงดิน ในช่วงออกดอก (อายุประมาณ 50-60 วัน หลังปลูก) ก่อนปลูกพืชหลักทุกชนิดเพิ่มอินทรีย์วัตถุ ทำให้ดินร่วนซุย การถ่ายเทอากาศดีการระบายน้ำดีดินมีความอุดมสมบรูณ์เพิ่มขึ้น ส่วนพืชที่ปลูก สามารถพิจารณาการใช้ประโยชน์ดินลูกรัง ดังต่อไปนี้ ดินลูกรังเป็นดินที่มีข้อจำกัดต่าง ๆ มาก การแก้ไขปัญหาเพื่อใช้ประโยชน์จากดินนี้อาจทำได้หลายแนวทาง คือ 1. การทำทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์เหมาะกับดินลูกรังที่พบในที่ดอนและมีหน้าดินหนาเกิน 15 ซม.ขึ้นไป 2. การปลูกพืชไร่ ดินลูกรังที่มีหน้าดินหนา ประมาณ 20 ซม. มีการระบายน้ำดีปานกลาง ไม่มีน้ำท่วมขังในฤดูฝน สามารถปลูกพืชไร่ได้ปลายชนิด เช่น ข้าว ฟ่าง ถั่วลิสง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง และพืชรากตื้นอื่น ๆ แต่ควรมีการบำรุงรักษาความอุดมสมบรูณ์ของดินโดยการใส่ปุ๋ยและการรักษาความชื้นของดินโดยใช้วัสดุคลุมดิน 3. การปลูกไม้ผลและไม้โตเร็ว ดินลูกรังจะไม่จับกันเป็นชั้นแน่นมากนัก สามารถปลูกไม้ผลและไม้โตเร็ว เช่น มะม่วง มะม่วงหิมพานต์ มะขาม ยูคาลิปตัส กระถิน สะเดา ขี้เหล็กบ้าน น้อยหน่า พุทรา และไผ่ ส่วนยางพาราสามารถปลูกได้ในบริเวณที่มีปริมาณฝนมากกว่า 1,400 มม./ปี 4. การทำนา ดินลูกรังที่พบในที่ราบหรือที่ราบต่ำที่มีหน้าดินลึกประมาณ 15 ซม. และมีการระบายน้ำเลวในช่วงฤดูฝนมีน้ำขังแฉะเป็นเวลานาน ควรใช้ปลูกข้าวและมีการใส่ปุ๋ยซึ่งจะช่วยให้ข้าวมีผลผลิตคุ้มค่ากับการลงทุน อย่างไรก็ตาม ดินลูกรังที่มีหน้าดินตื้น ไม่ควรใช้ในการเพาะปลูกพืชที่ต้องมี การไถพรวนดิน เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด หากไม่จำเป็นจึงไม่ควรนำมาใช้ในการเพาะปลูกแต่ควรปล่อยให้เป็นพื้นที่ป่าไม้ตลอดไป
อ่านต่อ - ขอสอบถามว่าต้นอะไรครับ มีประโยชน์หรือไม่ครับนักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 15 กรกฎาคม 2567ได้ส่งภาพไปสอบถามกับทางผู้เชี่ยวชาญจากภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แจ้งว่าเป็นวัชพืชใบกว้าง ชื่อต้นผักเป็ด สกุล Alternanthera ในบางพื้นที่ทานแบบผักบุ้ง นำไปแกงได้ มีสรรพคุณทางยาบ้างค่ะ เป็นพื้นล้มลุก ขึ้นไว ตายยากพอสควร
อ่านต่อ - หัวไชเท้ามีลักษณะแบบนี้เกิดจากอะไรหรอครับ เป็นหัวไชเท้าที่หั่นไปใช้ครึ่งนึงแล้วเก็บไว้นานแล้วครับ แล้วจะนำมาใช้อีกก็เป็นแบบในภาพครับรศ.ดร.รวี เสรฐภักดีตอบเมื่อ 11 กรกฎาคม 2567ตอบคุณ DOS น่าจะมาจากสาเหตุจากการเก็บเก็บรักษา ทั้งนี้เพราะส่วนหัวคือรากยังมีชีวิต ก็จะมีการเติบโตตามอายุที่เพิ่มขึ้น อาจจะพบเสี้ยน (Fiber) ตามอายุที่มากขึ้นได้ด้วยครับ และอาจมีการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ด้วย เท่าที่สังเกตุจากภาพที่ส่งมาบริเวณตรงกลางเริ่มเปลี่ยนสี
อ่านต่อ - สวัสดีค่ะ ขอสอบถามค่ะ จุดสีขาว ๆ นี้คืออะไรคะ พบบนลูกมะกอก เอาน้ำฉีดออกก็กลับมาใหม่อย่างรวดเร็ว แล้วเป็นโทษต่อพืชเรามั้ยคะ ขอบคุณค่ะรศ.ดร.รวี เสรฐภักดีตอบเมื่อ 11 กรกฎาคม 2567ลักษณะเหมือนกับเป็นยางที่ขับออกมาจากตัวผล ไม่ใช่แมลงศัตรู และไม่ทราบว่าได้รดน้ำสม่ำเสมอรึเปล่า อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้ฝนตกชุก ความชื้นในอากาศสูง ต้นคายน้ำไม่ค่อยออก เลยหาช่องทางขับน้ำส่วนเกินซึ่งก็มีน้ำยางไหลออกมาด้วยครับ
อ่านต่อ - จะรบกวน ถามว่าเจ้า Knotweed นี้เป็นวัชพืชตระกูลใกล้เคียงกับถั่วลิสงนามั้ยคะ และกำจัดยังไงได้บ้างคะนักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 10 กรกฎาคม 2567ตอบ คุณป้าอ๋อ ไม่ค่ะ Knotweed หรือ Knot grass, Couchgrass บางครั้งก็เรียกว่าหญ้าชะกาดน้ำเค็ม หรือสะกาดน้ำเค็ม เป็นวัชพืชใบแคบ ส่วนถั่วลิสงนาเป็นวัชพืชใบกว้างค่ะ การป้องกันกำจัด ทำได้โดย วิธีเขตกรรม 1. ไถดะเพื่อกลบทำลายหญ้าชะกาดน้ำเค็มซึ่งมักขึ้นจากไหล ตั้งแต่ได้รับฝนแรก แต่หากยังขึ้นมาได้อีกอาจต้องไถซ้ำ หากยังมีหลงเหลืออยู่ให้เก็บทำลายไหลและลำต้นให้หมด ขณะที่คราดทำเทือก 2. นาหว่านข้าวแห้ง - เมื่อเริ่มมีฝนหรือจะเริ่มทำนาโดยการหว่านข้าวแห้ง หรือนาหยอดก็ตาม ควรรอให้หญ้าชะกาดน้ำเค็มที่งอกจากเมล็ดขึ้นมาพอสมควรก่อนแล้วจึงทำการไถดะ - หลังจากนั้นเว้นช่วงให้มีฝนตกและหญ้าแพรกงอกมาอีก แล้วจึงไถแปร - และหากจะคราดควรจะทิ้งให้หญ้าชะกาดน้ำเค็มงอกมา อีกครั้ง หลังจากนั้นจึงหว่านข้าวแห้งและคราดกลบ สารกำจัดวัชพืช - ประเภทก่อนวัชพืชงอก เช่น ออกซาไดอะซอน, เพนดิเมทาลิน - ประเภทหลังวัชพืชงอก เช่น โพรพานิล
อ่านต่อ - มีสูตรสมุนไพรไล่แมลงที่ใช้ได้ครอบคลุมแมลงศัตรูพืชทุกชนิดไหมคะ หนูอยากลดละเลิกการฆ่าสัตว์ เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ปกติใช้ชีวภัณฑ์เคมีค่ะ หรือมีวิธีอื่นใดในการป้องกันแมลงศัตรูพืชอีกไหมคะ หาสูตรตามอินเทอร์เน็ตไม่ค่อยมั่นใจค่า ขอบพระคุณค่านักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 10 กรกฎาคม 2567สูตรสมุนไพรตามที่เกษตรกรแจ้งไม่มีนะคะ เพราะศัตรูพืชแต่ละชนิดก็จะมีการป้องกันกำจัดที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นแนะนำให้ศึกษาจากหนังสือ : การเตรียมและการใช้พืชสมุนไพรในการป้องกันและกำจัดศัตรูพืช (กดลิงก์ได้จากข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่าง)
อ่านต่อ - หนูขอรบกวนอีกคำถามนะคะ ต้นจำปูนใบมีลักษณะแบบนี้ เกิดจากอะไรคะ ขอบพระคุณค่านักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 10 กรกฎาคม 2567อาการขอบใบแห้ง ย่าจะเกิดจากผ่านช่วงแล้งมาแล้วให้น้ำไม่พอ ส่วนอาการที่กลางใบน่าจะมาจากโรคพืชค่ะ
อ่านต่อ - สวัสดีค่ะ ต้นพุดแตรงอนของหนูใบมีลักษณะดังนี้ เกิดจากอะไรคะ ขอบพระคุณค่านักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 10 กรกฎาคม 2567น่าจะเป็นอาการโรคไหม้ ค่ะ
อ่านต่อ - ต้นนี้คือต้นอะไรคะนักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 8 กรกฎาคม 2567ลักษณะคล้ายต้นถั่วลิสงนา เป็นวัชพืชในนา แต่ก็สามารถนำมามาเป็นใช้พืชอาหารสัตว์ได้ ใช้สำหรับเลี้ยงโค กระบือ ม้า หรือปลูกแล้วปล่อยให้สัตว์แทะเล็ม และในงานจัดสวนยังใช้เป็นพืชคลุมดินได้อีกด้วยค่ะ ทั้งนี้ ถ้ามีรูปดอกหรือภาพที่ชัดเจนกว่านี้จะช่วยให้ระบุชนิดได้แม่นยำขึ้นค่ะ
อ่านต่อ - สวัสดีค่ะท่านอาจารย์และท่านผู้รู้ทุกท่าน วันนี้หนูมีเรื่องมารบกวนขอความรู้อีกค่ะ หนูต้องการจะปลูกต้น ปีบ หอมหมื่นลี้ และ จำปูน แต่หนูหาข้อมูลเรื่องสภาพดินที่เหมาะสมในอินเทอร์เน็ตไม่เจอ และไม่พบเรื่องโรคและแมลงศัตรูพืชด้วยค่ะ หนูรบกวนขอความรู้ด้วยนะคะ และอยากศึกษาเกี่ยวกับไม้หอมอื่นๆอีก มีแหล่งความรู้แนะนำหนูไหมคะ หนูอยากอนุรักษ์พันธ์ไม้หอมโบราณไว้ ขอบพระคุณค่ะนักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 10 มิถุนายน 2567ปีบ : ปลูกได้ในสภาพดินที่มีธาตุอาหารต่ำ ไม่ต้องการการดูแลรักษามาก ระบบรากดี จึงสามารถปลูกได้ดีในพื้นที่แห้งแล้ง หอมหมื่นลี้ : ควรปลูกในดินร่วนโปร่งที่สามารถระบายน้ำได้ดี ปลูกได้ดีในพื้นที่สูง อุณหภูมิต่ำ จำปูน : ขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิดที่มีความอุดมสมบูรณ์ และระบายน้ำได้ดี ชอบดินที่มีความชุ่มชื้นระบายน้ำได้ดี ส่วนโรคและศัตรูพืช ไม่มีเอกสารระบุตามชนิดพืชที่แน่นอน ทั้งนี้แนะนำให้ลองศึกษาจากเอกสารโรคและแมลงศัตรูป่าไม้ ได้จากไฟล์แนบด้านล่าง : Forest diseases and pests และข้อมูลไม้หอมอื่น ๆ ศึกษาได้จากข้อมูล ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง ได้ที่ http://clgc.agri.kps.ku.ac.th/old-fragrant.html และ http://clgc.agri.kps.ku.ac.th/new-fragrant.html และ http://clgc.agri.kps.ku.ac.th/nanasara.html
อ่านต่อ - รบกวนสอบถามโรคและแมลงศัตรูพืชของมะเขือพวงค่ะ อีบุคที่เคยแนบมาให้มีแต่ข้อมูลของมะเขือยาวและมะเขือม่วงค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้านะคะนักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 6 มิถุนายน 2567ข้อมูลจาก ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ระบุว่าโดยปกติมะเขือพวงเป็นพืชในวงศ์มะเขือ ที่ปลูกง่าย โตเร็ว ไม่มีปัญหาเรื่องโรคพืชและแมลงศัตรูพืชแต่อย่างใด กรณีที่ผ่านสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมอาจพบไวรัสที่มีสาเหตุมาจากเพลี้ยจักจั่นบ้าง หรืออาจพบแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยไฟ แมลงหวี่ขาวยาสูบ สามารถใช้ชื้อบิวเวอเรียและเมตาไรเซี่ยมในการป้องกันกำจัดได้ค่ะ นอกจากนี้อาจพบศัตรูพืชในแต่ละช่วงบ้าง ดังนี้ โรคราสนิม (Powdery Mildew) ช่วงที่สภาพอากาศร้อนชื้น มักเป็นราสีขาวที่เกาะอยู่บนใบ ทำให้ใบมะเขือพวงมีลักษณะขาวโปร่ง และทำให้ใบแห้งและร่วง โรคกุ้งแห้ง (Blossom End Rot) เกิดจากขาดแคลเซียมในดิน หรือการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่ช่วงการเจริญเติบโต ส่งผลให้ลักษณะปลายผลมะเขือพวงเน่าเปื่อย แมลงเจาะลำต้น (Stem Borers) มักกัดเจาะลำต้นและทำให้มะเขือพวงเสียหาย แมลงกัดกินใบ (Leaf-eating Insects) เช่น หนอนผีเสื้อ หนอนแมลง หนอนกินใบ ซึ่งสามารถทำลายใบมะเขือพวงได้และก่อให้เกิดความเสียหายในการเจริญเติบโตของพืช
อ่านต่อ - ขอสอบถามครับ ไม่ทราบว่าต้นอะไร มีประโยชน์มั้ยครับนักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 4 มิถุนายน 2567ภาพทางด้านซ้ายคล้ายพืชหัววงศ์ขิง เช่น ขิง ขมิ้น ข่า ทั้งนี้ต้องรอจนเป็นดอก จึงจะจำแนกชนิดได้ ส่วนภาพด้านขวาคล้ายทั้ง ไทรใบยาว/ไทรใบดาบ รำเพยและยี่โถ (ถ้าเป็นรำเพยและยี่โถให้สังเกตว่า เมื่อเด็ดใบจะมียางสีขาว) และวัชพืชหลายชนิด คงต้องรอให้โตอีกสักนิด และเห็นดอกจึงจะบ่งชนิดได้ค่ะ
อ่านต่อ - กรณีสมุดเกษตรกรหมดอายุต้องแจ้งทางไหนคะ แล้วมีเบอร์โทรติดต่อทางที่ดินของอำเภออมก๋อยมั้ยคะนักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 29 พฤษภาคม 2567สำนักงานที่ดินอำเภออมก๋อย ติดต่อได้ที่ โทร. 0 5346 7202 ส่วนการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร กรณีเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งปรับปรุงได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ - ติดต่อที่ สํานักงานเกษตรอําเภอ (สํานักงานเกษตรอําเภอออมก๋อย โทร. 0 5346 7063) - แจ้งผ่านแอปพลิเคชัน Farmbook - แจ้งผ่านระบบ e-Form ได้ที่ https://efarmer.doae.go.th โดยปฏิบัติตามขั้นตอนในภาพประกอบด้านล่าง *กรณีเกษตรกรรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ หรือเกษตรกรรายใหม่ - ให้ยื่นเอกสารที่สํานักงานเกษตรอําเภอที่ตั้งแปลงที่ทํากิจกรรมการเกษตรอยู่ หากมีแปลงที่ทํากิจกรรมการเกษตรหลายพื้นที่หลายอําเภอ ให้ยื่นที่สํานักงานเกษตรอําเภอที่ตั้งแปลงหลัก (อําเภอที่มีจํานวนแปลงมากที่สุด) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ทาง Facebook ทางอินบ็อกซ์ Facebook Digital DOAE ได้ที่ https://web.facebook.com/digitaldoae/ จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเลขทะเบียนเกษตรกรให้ หรือ โทร.สอบถามข้อมูลโดยตรง ได้ที่ โทร. 0 2579 3926 หรือที่ไลน์ @yzd6514b โดยเจ้าหน้าบริการตอบข้อมูล เวลา 08.00-16.30 น. ในวันและเวลาราชการค่ะ
อ่านต่อ - อยากทราบรหัสทะเบียนเกษตรกร ที่สมุดเล่มเขียวครับนักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 28 พฤษภาคม 2567แนะนำให้เกษตรกร โทร.สอบถามข้อมูลโดยตรง ได้ที่ โทร. 0 2579 3926 หรือที่ไลน์ @yzd6514b หรือแจ้งชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน เหตุผลที่ต้องการเลขรหัส และข้อมูลด้านการเกษตร พืชที่ปลูก เนื้อที่ปลูก และเขียนกำกับว่าใช้เพื่อขอข้อมูลเกษตรกร หรือติดต่อผ่านช่องทาง Facebook ทางอินบ็อกซ์ Facebook Digital DOAE ได้ที่ https://web.facebook.com/digitaldoae/ ได้อีกช่องทางหนึ่งค่ะ
อ่านต่อ - บรรจุภัณฑ์นี้ทำมาจากอะไรครับนักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.ตอบเมื่อ 28 พฤษภาคม 2567กาบหมากค่ะ
อ่านต่อ - อยากรบกวนสอบถามเกี่ยวกับประโยชน์ของการคลุมดิน และความแตกต่างของวัสดุคลุมดินค่ะรศ.ดร.รวี เสรฐภักดีตอบเมื่อ 20 พฤษภาคม 2567การใช้วัสดุคลุมแปลงที่ปลูกพืชนั้น เกษตรกรของไทยได้มีการใช้มาเป็นเวลานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ฟางในแปลงที่ปลูกกระเทียมและหอมหัวใหญ่ทางภาคเหนือ การใช้วัสดุอื่น ๆ ก็ได้มีการใช้บ้าง ซึ่งขึ้นอยู่ปริมาณของชนิดวัสดุนั้น ๆ ที่จะสามารถจัดหาได้ ในบทความนี้จึงขอใช้โอกาสนี้กล่าวถึงประโยชน์ที่ได้รับและคุณสมบัติของวัสดุที่นำมาใช้สำหรับคลุมแปลงปลูกพืชอายุสั้น ประโยชน์ของการคลุมแปลง (Mulching) 1. เพื่อป้องกันการสูญเสียความชื้นจากผิวดิน ซึ่งเป็นการช่วยอนุรักษ์น้ำให้พืชปลูก 2. ช่วยให้ความชื้นในดินอยู่ในระดับสม่ำเสมอมากขึ้น 3. เพื่อป้องกันปัญหาของดินเค็มอันเนื่องมาจากการระเหยของน้ำจากผิวดินที่เกิดจาก Capillary water (เป็นช่องเล็ก ๆ ที่จะพาน้ำจากระดับล่างขึ้นมายังผิวดิน) ที่จะนำเกลือจากระดับล่างขึ้นมายังผิวดินชั้นบนที่เป็น Root zone เมื่อน้ำระเหยออกไป ก็จะทิ้งเกลือ (Na+) เมื่อมีการระเหยน้ำต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณ Na ที่สะสมอยู่ในระดับมากขึ้นจนพืชไม่สามารถทนทานได้ 4. เพื่อป้องกันวัชพืช 5. ป้องกันโรคเน่าคอดิน (Damping off) ในต้นกล้าที่เกิดจากแรงกระแทกของเม็ดน้ำกับผิวดินและต้นกล้า วัสดุที่ใช้สำหรับคลุมแปลง (Mulching materials) มีหลายชนิดด้วยกัน A. ฟางข้าว (Rice straw) เป็นวัสดุธรรมชาติที่อาจกล่าวได้ว่า "ดีที่สุด" ทั้งนี้เพราะ - วัสดุหาง่าย - ราคาไม่แพง - เส้นฟางอุ้มน้ำไม่สูง น้ำเคลื่อนที่ผ่านเส้นฟางลงสู่ผิวดินได้ง่าย - การจัดการปูวัสดุกระทำได้รวดเร็ว - อายุการใช้งาน ~3-4 เดือน เมื่อเกิดการสลายตัว แปลงก็จะได้อินทรียวัตถุุ (organic matters) ช่วยบำรุงดินเป็นอานิสงส์ด้วย B. แกลบ (Rice husk) ไม่แนะนำให้ใช้เป็นวัสดุคลุมดินเนื่องจากแกลบมีความสามารถในการอุ้มน้ำสูง จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พบว่าแกลบจะดูดน้ำไว้เกือบทั้งหมด น้ำไม่สามารถผ่านลงไปถึงผิวดินได้ แต่แกลบเหมาะสำหรับใช้เป็นวัสดุคลุกไปกับดินก่อนปลูกพืชนอกเหนือจากความสารถในการอุ้มน้ำได้สูงมากแล้ว แกลบยังมีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมอีกสิ่งหนึ่งคือ มีค่าของ Cation Exchange Capacity (CEC) สูง จึงมีความสามารถในการดูดซับประจุบวก (+) ธาตุอาหารที่จำเป็นจำหรับพืชนั้นกว่าครึ่งหนึ่งเป็นประจุ + แกลบจึงช่วยดูดซับ (Adsorb) ธาตุอาหารส่วนหนึ่งไว้ที่ผิวก่อนที่จะทะยอยปลดปล่อยออกมาในภายหลัง ซึ่งเท่ากับเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการให้ปุ๋ยโดยตรง C. วัสดุธรรมชาติอื่นๆ เช่น เปลือกถั่ว หญ้าคา หญ้าอื่นๆ ขึ้นอยู่กับปริมาณวัสดุที่มีมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม การใช้หญ้าเป็นวัสดุต้องระวังอย่าใช้ในระยะที่ออกดอกเนื่องจากจะเมล็ดติดมาด้วย D. ผ้าพลาสติกชนิดบาง สามารถใช้ปิดคลุมผิวดินได้เราจะโดยมีคุณสมบัติดังนี้ - อนุรักษ์น้ำได้ดีเยี่ยม - ป้องกันวัชพืชได้เป็นอย่างดี - ปูได้ง่าย - ปูได้ง่าย ต้องวางระบบน้ำหยดก่อนปูผ้าพลาสติกนี้ - ราคาไม่แพง การใช้ผ้าพลาสติกนี้ ต้องระมัดระวังอย่าให้ต้นกล้าสัมผัสถูกชิ้นส่วนของผ้าพลาสติกเนื่องจากมีอุณหภูมิที่สูงมาก (>50 C) ทำให้ต้นพืชตายนึ่งได้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ในสภาพพื้นราบที่ไม่มีอากาศหนาวจัดสามารถใช้วัสดุชนิดใดก็ได้ แต่กรณีพื้นที่สูง ที่~500-800 เมตร เช่นที่ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ ของ จ.อุทัยธานี การปลูกพืชผักในช่วงฤดูหนาว แนะนำให้ใช้เป็นผ้าพลาสติก เนื่องจากต้นพืชผักนานาชนิดที่ปลูกและใช้ฟางคลุม ผลปรากฏว่า มีการเจริญเติบโตที่ไม่ดี อาจเป็นเพราะว่า การใช้ผ้าพลาสติกคงมีผลต่ออุณหภูมิของดินที่อุ่นกว่านั่นเอง จึงมีผลทำให้พืชผักเจริญเติบโตได้ดีกว่า *ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก 108 คำถามกับคำถามร้อยแปด โดย รศ.ดร. รวี เสรฐภักดี คำถามที่ 86 ของชุดที่ I (I -86/108) เรื่อง "ว่าด้วยเรื่องของวัสดุที่ใช้สำหรับคลุมแปลงในช่วงระยะเวลาสั้น"
อ่านต่อ
แสดง 1 - 20 จาก 966
หน้า