แจ้งเตือนทุกหมวดหมู่

แสดง 1 - 20 จาก 277
หน้า
  • แจ้งเตือน
    ศัตรูพืช
    แจ้งเตือนภัยทางการเกษตร: การเข้าทำลายของเพลี้ยอ่อนในข้าวโพด

    ⚠️ สถานการณ์: ขณะนี้พบการระบาดของเพลี้ยอ่อนในแปลงข้าวโพด ซึ่งแม้ปกติจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง แต่หากมีปริมาณมากอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของผลผลิต

    🛑 ลักษณะความเสียหาย

    • เพลี้ยอ่อนจะเกาะเป็นกลุ่มและดูดกินน้ำเลี้ยงจากยอด กาบใบ โคนใบ และกาบฝัก
    • พบมากบริเวณช่อดอก ส่งผลให้ช่อดอกไม่บาน ติดเมล็ดน้อย และเมล็ดแก่เร็วผิดปกติ
    • การขับถ่ายน้ำหวานของเพลี้ยทำให้เกิดราดำปกคลุมต้นและฝัก ส่งผลต่อคุณภาพข้าวโพดหลังการเก็บเกี่ยว

    🚨 แนวทางป้องกันและกำจัด
    ✅ หมั่นตรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ข้าวโพดกำลังมีเกสรตัวผู้และสภาพอากาศแห้งแล้ง
    ✅ หากพบการระบาดเฉพาะจุด ควรพ่นสารกำจัดแมลงเฉพาะบริเวณที่มีเพลี้ยอ่อนระบาด เพื่อลดผลกระทบต่อแมลงที่เป็นประโยชน์
    ✅ สารป้องกันกำจัดแมลงที่แนะนำ ได้แก่ มาลาไทออน, คาร์บาริล, ไบเฟนทริน หรือ ไดอะซินอน
    ✅ ใช้มาตรการควบคุมแบบผสมผสาน เพื่อลดการพึ่งพาสารเคมี เช่น การปล่อยแมลงศัตรูธรรมชาติ เช่น แมลงช้างปีกใส และเต่าทอง

    📢 คำแนะนำ: เกษตรกรควรเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบการระบาดรุนแรงให้รีบดำเนินการป้องกันกำจัดเพื่อลดความเสียหายต่อผลผลิต

    🔍 หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ของท่าน


    อ่านต่อ
    วันที่ 21 มีนาคม 2568
  • แจ้งเตือน
    ศัตรูพืช
    ระวังหนอนกินใต้ผิวเปลือกในลองกอง

    สภาพอากาศในช่วงนี้อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน มีฝนตกและลมแรงในบางพื้นที่ เตือนผู้ปลูกลองกองในระยะ ติดผลอ่อน รับมือหนอนกินใต้ผิวเปลือก หนอนกัดกินทำลายอยู่ใต้ผิวเปลือก ลึกระหว่าง 2-8 มิลลิเมตร ตามกิ่งและลำต้น ทำให้ต้นเป็นปุ่มปม เมื่อหนอนระบาดมากจะทำให้กิ่งแห้งและตาย ถ้าหนอนกัดกินตาดอกจะทำให้ตาดอกถูกทำลายและผลผลิตลดลง

    แนวทางป้องกันกำจัด
    ใช้ไส้เดือนฝอย (Steinernema carpocapsae) อัตรา 50 ล้านตัวต่อน้ำ 20 ลิตร 1 ต้น ใช้น้ำ 2-3 ลิตร พ่น 2 ครั้ง ห่างกัน 15 วัน ควรพ่นไส้เดือนฝอยในตอนเย็น (หลังเวลา 17.00 น.) เพื่อหลีกเลี่ยงแสงอาทิตย์ ในกรณีมีอากาศแห้งแล้ง ควรพ่นน้ำเปล่าให้ความชุ่มชื้นก่อนพ่นไส้เดือนฝอย

     


    อ่านต่อ
    วันที่ 18 มีนาคม 2568
  • แจ้งเตือน
    ศัตรูพืช
    ระวังเพลี้ยแป้งในพริกไทย

    สภาพอากาศในช่วงนี้อากาศเย็นและมีความชื้นสูงในตอนเช้า อากาศร้อนในตอนกลางวัน เตือนผู้ปลูกพริกไทยในระยะติดผล ผลแก่ เก็บเกี่ยว รับมือเพลี้ยแป้งดูดกินน้ำเลี้ยงบริเวณช่อผล หลังใบ กิ่งปาง (กิ่งแขนง) ราก ยอด และลำต้น ส่วนที่ยังอ่อนอยู่ ส่วนที่ถูกทำลายจะงอหงิก บิดเบี้ยว หากการระบาดรุนแรงช่อผลแห้งและหลุดร่วง ผลผลิตเสียหาย กิ่งปาง (กิ่งแขนง) และยอดจะแห้งตาย

    แนวทางป้องกันกำจัด
    1. หากพบระบาดเล็กน้อยให้ตัดส่วนที่ถูกทำลายทิ้ง
    2. ถ้าระบาดรุนแรงพ่นด้วยโพรไทโอฟอส 50% EC อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร


    อ่านต่อ
    วันที่ 18 มีนาคม 2568
  • แจ้งเตือน
    ศัตรูพืช
    ไรแดงแอฟริกัน
    วันที่ 18 มีนาคม 2568
  • แจ้งเตือน
    ศัตรูพืช
    ไรแดง ศัตรูมันสำปะหลัง
    วันที่ 18 มีนาคม 2568
  • แจ้งเตือน
    โรคพืช
    ระวังโรคแอนแทรคโนส หรือโรคใบไหม้สีน้ำตาล หรือโรคกิ่งแห้ง หรือโรคผลแห้ง ในกาแฟโรบัสต้า

    สภาพอากาศในช่วงนี้มีฝนตก และฝนตกหนักบางพื้นที่ (ภาคใต้) เตือนผู้ปลูกกาแฟโรบัสต้า ในระยะเตรียมต้น (ระยะการเจริญโตทางใบ) รับมือโรคแอนแทรคโนส หรือโรคใบไหม้สีน้ำตาล หรือโรคกิ่งแห้ง หรือโรคผลแห้ง (เชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides, Colletotrichum coffeanum)
    อาการที่ใบ: พบได้ทั้งใบอ่อนและใบแก่ ลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาล เมื่ออาการรุนแรงแผลจะขยายขนาดเป็นแผลใหญ่ ทำให้ใบแห้งไหม้ทั้งใบ
    อาการที่กิ่ง: เกิดอาการไหม้บนกิ่งเขียว ทำให้ใบเหลืองและร่วง กิ่งเหี่ยวและแห้งทั้งกิ่ง

    แนวทางป้องกันกำจัด
    1. รักษาระดับร่มเงาให้เหมาะสม เพื่อรักษาระดับความชื้น เป็นการป้องกันการเกิดโรค
    2. หมั่นตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ ตัดแต่งกิ่ง ใบ และส่วนที่เป็นโรค นำไปทำลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช แมนโคเซบ 80% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ เบโนมิล 50% WP อัตรา 20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร


    อ่านต่อ
    วันที่ 18 มีนาคม 2568
  • แจ้งเตือน
    อุตุนิยมวิทยา
    พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร ระหว่างวันที่ 12 – 18 มีนาคม 2568


    ⚠️ ระยะนี้ประเทศไทยตอนบน อากาศร้อน-ร้อนจัด กับมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงบางแห่ง
    ⚠️ ช่วงวันที่ 12-13 มี.ค. 2568 และ 16-17 มี.ค. 2568 ประเทศไทยตอนบน/ภาคใต้ตอนบน จะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง
    ☀️ อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยเฉพาะช่วงกลางวัน 🌡💦 หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ดื่มน้ำบ่อย ๆ
    ลดความเสี่ยงลมแดด!
    🚫 ระวังการเกิดอัคคีภัยและไฟป่า
    🚫 ระวังศัตรูพืชจำพวกหนอน
    💦 เพิ่มการให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม
    📢 เกษตรกรเฝ้าระวัง โรงเรือน พืชผล สัตว์เลี้ยง และติดตามพยากรณ์อากาศใกล้ชิด

     

     

     


    อ่านต่อ
    วันที่ 12 มีนาคม 2568
  • แจ้งเตือน
    อุตุนิยมวิทยา
     พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร ระหว่างวันที่ 10 – 16 มีนาคม 2568


    ⚠️ในระยะนี้ประเทศไทยตอนบน อากาศร้อน-ร้อนจัด กับมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงบางแห่ง
    ⚠️ในช่วงวันที่ 12 -13 มี.ค. ประเทศไทยตอนบน/ภาคใต้ตอนบน จะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง
    ☀️อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยเฉพาะช่วงกลางวัน 🌡💦 หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ดื่มน้ำบ่อยๆ ลดความเสี่ยงลมแดด!
    🚫 ระวังการเกิดอัคคีภัยและไฟป่า
    🚫 ระวังศัตรูพืชจำพวกหนอน
    💦 เพิ่มการให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม
    📢 เกษตรกรเฝ้าระวัง โรงเรือน พืชผล สัตว์เลี้ยง และติดตามพยากรณ์อากาศใกล้ชิด
    📌 ติดตามการพยากรณ์อากาศฉบับสมบูรณ์ได้ที่ 👉 https://www.tmd.go.th/media/agro/7day/2568/agronews_30_68.pdf


    อ่านต่อ
    วันที่ 10 มีนาคม 2568
  • แจ้งเตือน
    อุตุนิยมวิทยา
    กรมอุตุฯ เตือนพายุฤดูร้อน 6-8 มี.ค. 2568 ระวังฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง-ลูกเห็บตก 

    กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 1 เตือนพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 6-8 มีนาคม 2568 ส่งผลกระทบต่อภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและภาคตะวันออก โดยลักษณะของพายุจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางพื้นที่ และอาจเกิดฟ้าผ่าได้ 

    สาเหตุของพายุฤดูร้อน พายุฤดูร้อนครั้งนี้เกิดจากมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากจีน ที่แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนและพายุฝนฟ้าคะนอง

    ข้อควรระวังและคำแนะนำ 
    - หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง 
    - ระวังอันตรายจากลมแรงและฟ้าผ่า 
    - เกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้พืชผล และเตรียมรับมือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตและสัตว์เลี้ยง 
    - ดูแลสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

    ประชาชนสามารถติดตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาได้ทาง 

    🔗 เว็บไซต์ www.tmd.go.th

    📞 โทรศัพท์ 0 2399 4012-13 หรือ 1182 (ตลอด 24 ชั่วโมง) 

    โปรดติดตามข่าวสาร และเตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อนล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัย! ⛈⚡


    อ่านต่อ
    วันที่ 4 มีนาคม 2568
  • แจ้งเตือน
    โรคพืช
    ศัตรูพืช
    ระวังโรคพุ่มไม้กวาดในลำไย

    โรคพุ่มไม้กวาดในลำไย (Witches'broom)
    เชื้อสาเหตุโรค : ไฟโตพลาสมา (Phytoplasma)
    แมลงพาหะ : เพลี้ยจักจั่นสีน้ำตาล ไรกำมะหยี่ลำไย
    ลักษณะการทำลาย
    เริ่มแรกส่วนที่เป็นตาเกิดอาการใบยอดแตกฝอย มีลักษณะคล้ายพุ่มไม้กวาด ใบมีขนาดเล็กเรียวยาวม้วนบิดเป็นเกลียวมีขนละเอียดปกคลุมแข็งกระด้างไม่คลี่ออก ถ้าเป็นช่อดอกจะแตกเป็นพุ่มฝอยดอกแห้งไม่ติดผล ถ้าไม่รุนแรงก็จะออกช่อชนิดติดใบปนดอกและช่อสั้น ๆ ซึ่งอาจติดผลได้น้อยประมาณ 4-5 ผล ถ้าเป็นโรครุนแรง ดอกลำไยที่เกิดขึ้นจะแตกกิ่งเป็นฝอย มีใบชนิดไม่คลี่อยู่มาก ลำไยที่เป็นโรครุนแรงต้นจะโทรม ออกดอกติดผลน้อย


    อ่านต่อ
    วันที่ 3 มีนาคม 2568
  • แจ้งเตือน
    ศัตรูพืช
    เตือนภัยการเกษตร ระวังการระบาดของเพลี้ยไฟพริกในทุเรียน

    สภาพอากาศช่วงนี้อากาศเย็นในตอนเช้า มีหมอกในบางพื้นที่ และอากาศร้อนในตอนกลางวัน เตือนผู้ปลูกทุเรียนในระยะแทงช่อดอก-พัฒนาผล ควรระวังการระบาดของเพลี้ยไฟพริก

    ช่วงเวลาระบาด เพลี้ยไฟจะระบาดรุนแรงในช่วงแล้ง ระหว่างเดือนธันวาคม-พฤษภาคม

    ลักษณะการทำลาย
    เพลี้ยไฟพริกทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยใช้ปากเขี่ยและดูดกินน้ำเลี้ยงส่วนอ่อนของพืช ใบอ่อนหรือยอดอ่อนชะงักการเจริญเติบโต แคระแกร็น ใบโค้ง แห้งหงิกงอ และไหม้ ดอกแห้ง ดอกและก้านดอกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแคระแกร็น และร่วงได้ ผลอ่อนชะงักการเจริญเติบโต หนามเป็นแผลและเกิดอาการปลายหนามแห้ง ผลไม่สมบูรณ์และแคระแกร็น

    แนวทางป้องกันกำจัด
    สำรวจการระบาดของเพลี้ยไฟในระยะแตกใบอ่อน ดอก และผลอ่อน หากพบเพลี้ยไฟระบาดเล็กน้อยให้ตัดส่วนที่ถูกทำลายทิ้ง เมื่อพบเพลี้ยไฟระบาดรุนแรง ใช้สารฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพ เช่น อิมิดาโคลพริด 10% SL หรือ ฟิโพรนิล 5% SC พ่นเมื่อพบเพลี้ยไฟเฉลี่ยมากกว่า 1 ตัวต่อยอด ช่อ หรือผล และไม่ควรใช้สารฆ่าแมลงชนิดใดชนิดหนึ่งซ้ำติดต่อกันหลายครั้ง


    อ่านต่อ
    วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
  • แจ้งเตือน
    ศัตรูพืช
    ระวังหนอนเจาะฝักถั่วในถั่วเหลือง

    🚨 ประกาศแจ้งเตือนภัยทางการเกษตร 🚨 เรื่อง ระวังหนอนเจาะฝักถั่วในถั่วเหลือง

    📅 สภาพอากาศในช่วงนี้
    ☀️ อากาศเย็นในตอนเช้า มีหมอกในบางพื้นที่
    🔥 อากาศร้อนในตอนกลางวัน

    ⚠️ เตือนภัยเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลือง
    พบการระบาดของ หนอนเจาะฝักถั่ว ในระยะ ออกดอกและติดฝักอ่อน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิต ลดลงมากกว่า 40%

    🔍 ลักษณะการเข้าทำลาย
    🔸 หนอนเจาะเข้าไปกัดกินเมล็ดภายในฝักหลังฟักออกจากไข่
    🔸 หนอนขนาดใหญ่สามารถย้ายไปกัดกินฝักอื่น ๆ ได้
    🔸 หนอนจะชักใยดึงฝักมาติดกัน ทำให้เมล็ดเสียหาย

    🛑 แนวทางป้องกันและกำจัด
    ✅ พ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชดังนี้:
    - ไตรอะโซฟอส 40% EC อัตรา 50 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร
    - แลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน 2.5% EC อัตรา 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร
    ✅ พ่น 1-2 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างกัน 7-10 วัน

    📢 โปรดติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อป้องกันความเสียหายต่อผลผลิต


    อ่านต่อ
    วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
  • แจ้งเตือน
    ศัตรูพืช
    ระวังหนอนม้วนใบถั่วเหลือง

    🚨 ประกาศแจ้งเตือนภัยทางการเกษตร 🚨
    เรื่อง ระวังหนอนม้วนใบถั่วเหลือง

    📅 สภาพอากาศในช่วงนี้
    ☀️ อากาศเย็นในตอนเช้า มีหมอกในบางพื้นที่ และอากาศร้อนในตอนกลางวัน

    ⚠️ เตือนภัยสำหรับผู้ปลูกถั่วเหลือง
    ระยะเวลาที่ควรระวัง ระยะออกดอก และระยะติดฝักอ่อน
    พบการระบาดของหนอนม้วนใบถั่วเหลืองที่อาจส่งผลกระทบต่อผลผลิต

    🔍 ลักษณะการเข้าทำลาย
    1. หนอนที่ฟักออกจากไข่ใหม่ ๆ จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ชักใยบาง ๆ คลุมตัวไว้ แล้วกัดกินผิวใบ
    2. เมื่อหนอนโตขึ้นจะกระจายออกไปทั่วทั้งแปลง สร้างใยยึดใบพืชจากขอบใบของใบเดียวเข้าหากัน หรือยึดใบมากกว่า 2 ใบ เข้าหากัน
    3. หนอนจะอาศัยกัดกินอยู่ในห่อใบนั้นจนหมด และเคลื่อนย้ายไปทำลายใบอื่นต่อไป

    🛑 แนวทางป้องกันและแก้ไข
    พ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช
    - แลมบ์ดาไซฮาโลทริน 2.5% EC อัตรา 10 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร
    - ไตรอะโซฟอส 40% EC อัตรา 40 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร

    ช่วงเวลาที่ควรพ่น
    1. พ่นเมื่อใบถูกทำลาย 30% ก่อนออกดอกจนถึงระยะฝักยังเขียว
    2. หรือใบถูกทำลาย 60% หลังดอกบาน 4 สัปดาห์

    📢 โปรดติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อป้องกันความเสียหายต่อผลผลิต

     


    อ่านต่อ
    วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
  • แจ้งเตือน
    ศัตรูพืช
    ระวังมวนถั่วเหลือง

    🚨 ประกาศแจ้งเตือนภัยทางการเกษตร 🚨 เรื่อง ระวังมวนถั่วเหลือง

    📅 สภาพอากาศในช่วงนี้ อากาศเย็นในตอนเช้า มีหมอกในบางพื้นที่ และอากาศร้อนในตอนกลางวัน

    ⚠️ เตือนภัยสำหรับผู้ปลูกถั่วเหลือง ระยะเวลาที่ควรระวัง ระยะออกดอก - ระยะติดฝักอ่อน

    🔍 ลักษณะการเข้าทำลาย
    - ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยของมวนถั่วเหลืองจะดูดน้ำเลี้ยงจากใบ ลำต้น ดอก และฝักของถั่วเหลือง
    - ฝักอ่อนที่ถูกทำลายจะลีบและร่วงหล่น ส่งผลให้ผลผลิตลดลง

    📢 โปรดติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อป้องกันความเสียหายต่อผลผลิต

     


    อ่านต่อ
    วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
  • แจ้งเตือน
    ศัตรูพืช
    ระวังหนอนกระทู้ผักในถั่วเหลือง

    🚨 ประกาศแจ้งเตือนภัยทางการเกษตร 🚨
    เรื่อง ระวังหนอนกระทู้ผักในถั่วเหลือง

    📅 สภาพอากาศในช่วงนี้ อากาศเย็นในตอนเช้า มีหมอกในบางพื้นที่ และอากาศร้อนในตอนกลางวัน

    ⚠️ เตือนภัยสำหรับผู้ปลูกถั่วเหลือง
    ระยะเวลาที่ควรระวัง ระยะออกดอก-ระยะติดฝักอ่อน

    🔍 ลักษณะการเข้าทำลาย
    - หนอนกระทู้ผักเข้าทำลายตั้งแต่ระยะต้นกล้าไปจนถึงช่วงออกดอกและติดฝัก
    - ระยะตัวอ่อนแรกเริ่มจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม แทะกินผิวใบด้านล่างจนเหลือแต่เส้นใบ ทำให้ใบแห้งและเปลี่ยนเป็นสีขาว
    - เมื่อโตขึ้น หนอนจะแยกย้ายกันออกไปกัดกินใบทั่วทั้งแปลง โดยเริ่มจากขอบใบแล้วกัดกินเข้าไปด้านใน ส่งผลให้ต้นถั่วเหลืองอ่อนแอและผลผลิตลดลง

    🛑 แนวทางป้องกันและแก้ไข
    ควบคุมการระบาดของหนอนกระทู้ผักโดยวิธีดังนี้

    วิธีการควบคุม

    สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช

    อัตราส่วนต่อน้ำ 20 ลิตร

    ชีววิธี

    เชื้อไวรัสของหนอนกระทู้ผัก

    50 มิลลิลิตร

    สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช

    แลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน 2.5% EC

    10 มิลลิลิตร

    สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช

    ไตรอะโซฟอส 40% EC

    40 มิลลิลิตร

    สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช

    คลอร์ฟลูอาซูรอน 5% EC

    20      มิลลิลิตร

    📌 คำแนะนำในการพ่นสาร
    -
    พ่นเชื้อไวรัสของหนอนกระทู้ผัก 1 - 2 ครั้ง เมื่อพบการระบาด
    - พ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชเมื่อพบว่าใบถูกทำลาย 30% ในระยะก่อนออกดอกจนถึงระยะฝักยังเขียว หรือ 60% หลังดอกบาน 4 สัปดาห์

    📢 โปรดเฝ้าระวังแปลงปลูกอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อป้องกันความเสียหายต่อผลผลิต

     


    อ่านต่อ
    วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
  • แจ้งเตือน
    ศัตรูพืช
    ระวัง! เพลี้ยไฟพริกระบาดในพืชตระกูลส้ม

    🚨 ประกาศแจ้งเตือนภัยศัตรูพืช 🚨 ระวัง! เพลี้ยไฟพริกระบาดในพืชตระกูลส้ม

    📢 เตือนเกษตรกรผู้ปลูกพืชตระกูลส้ม (มะนาว มะกรูด ส้มโอ ส้มเขียวหวาน) ในระยะออกดอก-ติดผลอ่อน รับมือการระบาดของ เพลี้ยไฟพริก ที่กำลังสร้างความเสียหายต่อผลผลิต

    🌡 สถานการณ์สภาพอากาศ อากาศเย็นในตอนเช้า มีหมอกบางพื้นที่ และร้อนจัดในช่วงกลางวัน เอื้อต่อการระบาดของเพลี้ยไฟพริก

    🔍 อาการทำลายของเพลี้ยไฟพริก

    ✅ ดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบอ่อน ทำให้ใบแคบกร้าน บิดงอ

    ✅ เข้าทำลายผลอ่อนหลังดอกร่วง เกิดแผลเป็นทางสีเทาเงิน

    ✅ ทำให้ผลแคระแกร็น บิดเบี้ยว ลดคุณภาพผลผลิต

    🛑 แนวทางป้องกำจัด

    ✅ ควบคุมการแตกยอด ออกดอก ติดผล ให้เป็นรุ่นเดียวกันเพื่อลดการใช้สารเคมี

    ✅ กำจัดผลอ่อนที่ถูกทำลายรุนแรง เพื่อลดการระบาดและช่วยให้ต้นฟื้นตัวเร็ว

    ✅ สำรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ หากพบการทำลายมากกว่า 50% ของยอดที่สำรวจ หรือ 10% ของผลที่สำรวจ

    ให้พ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช หมุนเวียนตามกลไกการออกฤทธิ์ ทุก 14 วัน เช่น

    🔹 สไปนีโทแรม 12% SC อัตรา 10 มล./น้ำ 20 ลิตร

    🔹 อีมาเมกตินเบนโซเอต 1.92% EC อัตรา 20 มล./น้ำ 20 ลิตร

    🔹 คลอร์ฟีนาเพอร์ 10% SC อัตรา 30 มล./น้ำ 20 ลิตร

    🔹 อิมิดาโคลพริด 70% WG อัตรา 15 กรัม/น้ำ 20 ลิตร

    🔹 ไซแอนทรานิลิโพรล 10% OD อัตรา 40 มล./น้ำ 20 ลิตร

    ⚠ หมายเหตุ ควรพ่นสารแบบหมุนเวียนตามกลไกการออกฤทธิ์ เพื่อลดการดื้อยาของเพลี้ยไฟพริก

    📌 ติดตามสถานการณ์และปฏิบัติตามคำแนะนำ เพื่อป้องกันผลผลิตเสียหายและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการศัตรูพืช 🚜🌱

     


    อ่านต่อ
    วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
  • แจ้งเตือน
    ศัตรูพืช
    ระวัง! เพลี้ยไฟพริกในกุหลาบ

    🚨 ประกาศแจ้งเตือนภัยศัตรูพืช 🚨 ระวัง! เพลี้ยไฟพริกในกุหลาบ

    🌡 สภาพอากาศในช่วงนี้ อากาศเย็นในตอนเช้า มีหมอกบางพื้นที่ และร้อนจัดในช่วงกลางวัน เอื้อต่อการระบาดของเพลี้ยไฟพริก

    📢 เตือนผู้ปลูกกุหลาบในระยะออกดอก รับมือการระบาดของ เพลี้ยไฟพริก

    🔍 อาการทำลายของเพลี้ยไฟพริก
    ✅ ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะใช้ปากเขี่ยดูดกินน้ำเลี้ยงจากบริเวณยอดอ่อน ทำให้ยอดอ่อนมีลักษณะหงิกงอ มีรอยสีน้ำตาลดำ เหี่ยวแห้ง
    ✅ ถ้าทำลายส่วนดอกจะทำให้ดอกแคระแกร็น หรือทำให้กลีบดอกมีสีน้ำตาลไหม้ ไม่ได้คุณภาพตามความต้องการของตลาด

    🛑 แนวทางป้องกันกำจัด
    พ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟพริกในแปลงกุหลาบ หรือพืชอาหารรอบ ๆ แปลง เมื่อพบการระบาด เช่น

    สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช อัตราส่วนต่อน้ำ 20 ลิตร
    สไปนีโทแรม 12% SC 10 - 20 มิลลิลิตร
    ไซแอนทรานิลิโพรล 10% OD 40 มิลลิลิตร
    คลอร์ฟีนาเพอร์ 10% SC 30 มิลลิลิตร
    ฟิโพรนิล 5% SC 30 มิลลิลิตร

     


    อ่านต่อ
    วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
  • แจ้งเตือน
    โรคพืช
    ประกาศแจ้งเตือนภัยโรคราแป้งในกุหลาบ

    📢 เตือนเกษตรกรผู้ปลูกกุหลาบ ทุกระยะการเจริญเติบโต รับมือ โรคราแป้ง (เชื้อรา Oidium sp.) ที่อาจระบาดในช่วงอากาศเย็นตอนเช้าและร้อนในตอนกลางวัน

    🌡 สภาพอากาศที่เอื้อต่อการระบาด: อากาศเย็นในตอนเช้า มีหมอกในบางพื้นที่ และอากาศร้อนในตอนกลางวัน อาจทำให้โรคนี้ระบาดได้ง่าย

    อ้างอิงภาพจาก https://myvilla.decorexpro.com/th/spasaem-rozy-ot-muchnistoy-rosy/

    🔍 อาการของโรคราแป้ง
    - พบเชื้อราลักษณะคล้ายผงแป้งสีขาวเกิดเป็นหย่อม ๆ บนใบอ่อน ดอกตูม และใบใต้ใบ
    - อาการเริ่มแรกจะเห็นเป็นรอยสีชมพูเข้ม
    - หากอาการรุนแรง จะพบผงสีขาวทั่วทั้งต้น ทำให้ใบและดอกบิดเบี้ยว เสียรูปทรง
    - ใบจะเหลืองแล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แห้งกรอบและร่วง

    🛑 แนวทางป้องกันกำจัด
    - ตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบอาการของโรคให้ตัดแต่งและเก็บส่วนที่เป็นโรคเพื่อนำไปทำลายนอกแปลงปลูก
    - พ่นสารป้องกันโรคพืช เมื่อพบการระบาด เช่น เบโนมิล 50% WP อัตรา 30-40 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือเฮกซะโคนาโซล 5% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นทุก 5-7 วันเพื่อป้องกันการระบาดขยายตัว
    ** หลีกเลี่ยงการใช้สารกลุ่มซัลเฟอร์ เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการไหม้ที่กุหลาบ

    📌 ติดตามและปฏิบัติตามคำแนะนำ เพื่อป้องกันไม่ให้โรคราแป้งสร้างความเสียหายต่อกุหลาบและช่วยรักษาคุณภาพการเจริญเติบโตของต้นกุหลาบ

     


    อ่านต่อ
    วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
  • แจ้งเตือน
    ศัตรูพืช
    ประกาศแจ้งเตือนภัยแมลงหวี่ขาวยาสูบในมะเขือเทศ

    📢 เตือนเกษตรกรผู้ปลูกมะเขือเทศ ทุกระยะการเจริญเติบโต ระวังแมลงหวี่ขาวยาสูบที่กำลังระบาดในสภาพอากาศเย็นตอนเช้าและร้อนตอนกลางวัน

    🌡 สภาพอากาศที่เอื้อต่อการระบาด อากาศเย็นในตอนเช้า มีหมอกในบางพื้นที่ และอากาศร้อนในตอนกลางวัน ซึ่งเป็นสภาพที่เหมาะสมสำหรับการระบาดของแมลงหวี่ขาวยาสูบ

    🔍 อาการของการทำลายจากแมลงหวี่ขาวยาสูบ
    - ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบ ทำให้ใบหงิกงอและเหี่ยวแห้ง
    - ต้นมะเขือเทศแคระแกร็น เติบโตได้ไม่เต็มที่
    - เป็นพาหะนำโรคไวรัสที่สามารถทำลายผลผลิต

    📌 ติดตามสถานการณ์และปฏิบัติตามคำแนะนำ เพื่อป้องกันการระบาดของแมลงหวี่ขาวยาสูบและรักษาผลผลิตมะเขือเทศให้มีคุณภาพดี 🥒🌱


    อ่านต่อ
    วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
  • แจ้งเตือน
    ศัตรูพืช
    ประกาศแจ้งเตือนภัยโรคใบไหม้ในมะเขือเทศ

    📢 เตือนเกษตรกรผู้ปลูกมะเขือเทศทุกระยะการเจริญเติบโต รับมือโรคใบไหม้ที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora infestans ซึ่งมักระบาดในสภาพอากาศเย็นตอนเช้าและมีหมอกในบางพื้นที่

    🌡 สภาพอากาศที่เอื้อต่อการระบาด อากาศเย็นตอนเช้าและร้อนตอนกลางวัน โดยเฉพาะในสภาพที่มีความชื้นสูงหรือมีหมอกจะช่วยให้โรคลุกลามได้เร็ว

    🔍 อาการของโรคใบไหม้
    เริ่มต้นที่ใบล่าง พบแผลฉ่ำน้ำสีเขียวหม่นคล้ายถูกน้ำร้อนลวก
    ✅ แผลจะขยายเป็นสีน้ำตาลตรงกลาง และขอบแผลฉ่ำน้ำมีสีดำ
    ✅ ด้านใต้ใบพบเชื้อราสาเหตุโรคสีขาว
    ✅ หากโรคลุกลามจะทำให้ใบไหม้แห้งเป็นสีน้ำตาลและร่วง
    ✅ โรคสามารถทำลายลำต้น กิ่ง และผล ทำให้ลำต้นเหี่ยวเฉา และผลเน่า

    🛑 แนวทางป้องกันและกำจัด
    หลีกเลี่ยงการปลูกมะเขือเทศ ในพื้นที่ที่เคยมีการระบาดของโรค
    ✅ ไถพลิกดิน และตากแดด 1-2 สัปดาห์ เพื่อลดปริมาณเชื้อโรคในดิน
    ✅ ปรับระยะปลูก ให้โปร่ง และตัดแต่งใบล่างเมื่อปลูกแบบยกค้าง
    ✅ ควบคุมการให้น้ำ หลีกเลี่ยงการให้น้ำในตอนเย็น
    ✅ พ่นสารป้องกันโรคพืช เช่น

    • ไดเมโทมอร์ฟ 50% WG อัตรา 30-40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
    • ไซมอกซานิล + แมนโคแซบ 8% + 64% WP อัตรา 50-60 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
    • เมทาแลกซิล-เอ็ม + แมนโคเซบ 4% + 64% WG อัตรา 40-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
    • โพรพิเนบ + ไอโพรวาลิคาร์บ 61.3% + 5.5% WP อัตรา 40-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร

    พ่นทุก 5 วัน ให้ทั่วทั้งใบและใต้ใบ สลับสารต่าง ๆ เพื่อป้องกันการดื้อยา
    ✅ ถอนต้นที่เป็นโรครุนแรง และนำไปทำลายนอกแปลง
    ✅ ทำลายซากพืชหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งแพร่ระบาด

    📌 ติดตามและปฏิบัติตามคำแนะนำ เพื่อป้องกันไม่ให้โรคใบไหม้ทำลายผลผลิตมะเขือเทศ 🥒🍅


    อ่านต่อ
    วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
แสดง 1 - 20 จาก 277
หน้า
© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู