ช่วงนี้สภาพอากาศมีฝนตกตอนกลางคืนและแดดจัดตอนกลางวัน เหมาะต่อการระบาดของโรคใบไหม้หรือใบจุดตาเสือ ทุกระยะการเจริญเติบโตของเผือก ควรเฝ้าระวังและป้องกันอย่างใกล้ชิด
อาการของโรค
บนใบ
- เริ่มพบจุดสีน้ำตาลฉ่ำน้ำ ขนาดเล็ก
- จุดจะขยายใหญ่เป็นวงซ้อนกันคล้ายดวงตา
- ช่วงเช้าหรืออากาศชื้นจะเห็นหยดสีส้มบริเวณแผล
- หากรุนแรง แผลจะขยายติดกัน ทำให้ใบไหม้ เหี่ยว ม้วนพับ และแห้ง หรือเน่าเมื่อมีฝนพรำ
บนก้านใบ
- พบจุดสีน้ำตาลฉ่ำน้ำ ขนาดเล็ก
- ขยายเป็นแผลยาวรี สีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม
- ทำให้ก้านใบช้ำ ใบเหี่ยว ก้านหักง่าย
ผลกระทบ
แปลงที่เป็นโรครุนแรงจะมีจำนวนใบลดลง ส่งผลต่อคุณภาพและปริมาณผลผลิต และเชื้ออาจเข้าทำลายหัวเผือก ทำให้หัวเน่า
แนวทางป้องกันกำจัด
1. ตรวจแปลงปลูกสม่ำเสมอ เมื่อพบโรคให้พ่นสารป้องกันกำจัดโรคพืช เช่น
- ไดเมโทมอร์ฟ 50% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 10-20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
- ไพราโคลสโตรบิน 25% อีซี อัตรา 15 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร
- อีทาบอกแซม 10.4% เอสซี อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร
*พ่นให้ทั่วทั้งต้น ทั้งใบและก้าน ทุก 5-7 วัน
2. หลังเก็บเกี่ยวในแปลงที่มีโรคระบาด
- เก็บซากพืชไปเผาทำลายนอกแปลง
- หลีกเลี่ยงการปลูกเผือกซ้ำ ควรปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียน
การป้องกันในฤดูถัดไป
1. หลีกเลี่ยงปลูกเผือกในพื้นที่ที่เคยมีการระบาด
2. ไถพรวนดิน ใส่ปูนขาว และตากดินไว้นานกว่า 2 สัปดาห์
3. ใช้พันธุ์ต้านทาน เช่น พันธุ์ พจ.06
4. ใช้ส่วนขยายพันธุ์จากแหล่งที่ปลอดโรค
5. จัดระยะปลูกให้เหมาะสม ไม่ปลูกชิดเกินไป เพื่อลดการแพร่ระบาด