แจ้งเตือน

แจ้งเตือน
ภัยจากการเกษตร
ระวังโรคไข้ดิน
วันที่ 10 มิถุนายน 2568
แจ้งเตือน
อุตุนิยมวิทยา
 พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร ระหว่างวันที่ 6 – 12 มิ.ย. 2568

 

⚠️ ช่วง 7 – 12 มิ.ย. เกษตรกรทั่วประเทศโปรดระวัง!
🌊 ฝนตกหนักถึงหนักมาก + ฝนสะสม เสี่ยง น้ำท่วมฉับพลัน และ น้ำป่าไหลหลาก
📍 โดยเฉพาะ ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด
⛵ ทะเลอันดามันคลื่นแรง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง เพื่อลดความเสี่ยง!


อ่านต่อ
วันที่ 6 มิถุนายน 2568

ข่าวสาร

ข่าวสาร
การค้า/การตลาด
ขอเชิญร่วมงานเสวนาฟรี! จากสวนบนดาดฟ้าสู่จานอาหาร: กำหนดอนาคตของไทยด้วยเมล็ดพันธุ์ผักเพื่อความยั่งยืน” ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568
ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านเมล็ดพันธุ์ผักของประเทศไทย (Veg-SeedHub) ขอเชิญผู้สนใจร่วมงานเสวนาในหัวข้อ จากสวนบนดาดฟ้าสู่จานอาหาร: กำหนดอนาคตของไทยด้วยเมล็ดพันธุ์ผักเพื่อความยั่งยืนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 (Thailand Research Expo 2025)📅 วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2568🕘 เวลา 08.4
อ่านต่อ
วันที่ 10 มิถุนายน 2568
ข่าวสาร
การผลิตพืช
สวนปาล์มน้ำท่วมขัง ผลผลิตน้อย ควรทำอย่างไร
การปลูกปาล์มน้ำมันได้รับรับความนิยมมากขึ้น พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันก็เพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคของไทย แม้แต่ภาคใต้เองที่มีการปลูกปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจอยู่แล้วก็ยังมีการขยายพื้นที่ปลูกอย่างต่อเนื่อง   หนึ่งในโซนที่เห็นได้ชัดเจนคือพื้นที่ลุ่ม หรือที่นา เมื่อเปลี่ยนจากนาข้าวมาเป็นปาล์มน้ำมัน กลับทำให้เกษ
อ่านต่อ
วันที่ 9 มิถุนายน 2568
ข่าวสาร
การประมง/การเพาะเลี้ยง
เศรษฐศาสตร์การพัฒนา
กรมประมงเดินหน้าพัฒนา พะเยาโมเดล ต่อยอดเลี้ยงปลาในนาข้าว หวังสร้างแหล่งอาหารและรายได้อย่างยั่งยืน
กรมประมง โดยสำนักงานประมงจังหวัดพะเยา ร่วมกับ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา จัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้ด้านการเพาะพันธุ์ปลาด้วยชุดเพาะฟักแบบเคลื่อนที่ (Mobile hatchery) ให้แก่กลุ่มประมงชุมชนในตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา เมื่อวันที่ 27–28 พฤษภาคม 2568 กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการน
อ่านต่อ
วันที่ 29 พฤษภาคม 2568

ถาม-ตอบ

ถาม-ตอบ
ปรับปรุงพันธุ์พืช
สอบถามเรื่องการเก็บเมล็ดกระเจี๊ยบแดงสายพันธุ์ซูดาน อยากทราบว่าทำไมถึงสามารถเก็บเมล็ดทำพันธุ์ได้ มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ขอบคุณครับ
นักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.
ตอบเมื่อ 9 มิถุนายน 2568
เนื่องจากกระเจี๊ยบแดงพันธุ์ซูดานเป็นพันธุ์ผสมเปิด ไม่ใช่พันธุ์ลูกผสม จึงสามารถเก็บเมล็ดจากฝักแก่ไปปลูกในฤดูกาลถัดไปได้ โดยไม่เสื่อมคุณภาพมากนัก และกระเจี๊ยบแดงส่วนใหญ่มีกลไกการผสมเกสรแบบผสมตัวเอง ทำให้เมล็ดที่ได้จากต้นแม่มีลักษณะใกล้เคียงเดิม มีลักษณะทางพันธุกรรมคงตัว โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่ผ่านการปรับปรุงพันธุ์มาอย่างต่อเนื่อง ลักษณะที่ดีจะได้รับการถ่ายทอดอย่างสม่ำเสมอ ข้อดีคือ ประหยัดต้นทุน ไม่ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ใหม่ทุกปี ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมได้ดี ทนร้อน ทนแล้ง คัดเลือกพันธุ์เองได้ สามารถเลือกต้นที่แข็งแรง ดอกใหญ่ เมล็ดดก เพื่อเก็บไว้ทำพันธุ์เองได้ ลดการพึ่งพาบริษัทเมล็ดพันธุ์ ข้อเสียและข้อควรระวัง คือ พันธุกรรมอาจแปรปรวน หากมีการผสมข้ามกับพันธุ์อื่น หรือแมลงนำเกสรไปผสมข้ามสายพันธุ์ คุณภาพเมล็ดอาจเสื่อมถ้าเก็บไม่ถูกวิธี (เช่น ความชื้นสูง เชื้อรา) ต้องมีความรู้ในการคัดเลือกต้นแม่พันธุ์ และการเก็บรักษาเมล็ด ส่วนในด้านคุณสมบัติอื่น ๆ ข้อดี คือ กลีบเลี้ยงใหญ่ สีแดงสด ให้ผลผลิตดี เหมาะสำหรับการแปรรูป เช่น น้ำกระเจี๊ยบ, ชา กลิ่นหอม รสเปรี้ยวเด่น เป็นที่ต้องการของตลาดสมุนไพรและกลุ่มผู้บริโภค มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีสารแอนโทไซยานิน วิตามินซี โพลีฟีนอล ฯลฯ ทนแล้ง ปลูกได้ดีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและในดินค่อนข้างแห้ง ปลูกง่าย โตเร็ว ข้อจำกัด คือ ไม่ทนทานกับการเข้าทำลายของหนอนเจาะฝัก เพลี้ยแป้ง ไม่ทนน้ำขัง หากปลูกในพื้นที่ระบายน้ำไม่ดีรากอาจเน่า แม้ทนแล้ง แต่ถ้าได้รับน้ำน้อยเกินไปในช่วงออกดอก/ติดฝัก ผลผลิตจะลดลง กลีบเลี้ยงบางเมื่อแก่จัด หากเก็บช้าอาจส่งผลต่อคุณภาพและต้นทุนการขนส่ง เหมาะกับการเก็บในช่วงเวลาที่เหมาะสม
อ่านต่อ
ถามเมื่อ 6 มิถุนายน 2568
ถาม-ตอบ
การเพาะเลี้ยง
แนะนำอัตราส่วนของ ตะไคร่น้ำ:อาหารกุ้งบด:รำ หน่อยครับผมจะทำงานวิจัย
นักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.
ตอบเมื่อ 9 มิถุนายน 2568
ไม่แน่ใจว่าต้องการใช้สำหรับเลี้ยงสัตว์น้ำชนิดใด ขอแนะนำสูตรอาหารเบื้องต้นที่มีอัตราส่วนที่อ้างอิงจากงานวิจัยและปรับใช้ในงานทดลอง ดังนี้ แนะนำให้ผสมสาหร่ายขนาดเล็ก (Microalgae) ในสูตรอาหารสัตว์น้ำที่ 2–10% เพื่อช่วยในการเจริญเติบโต ⇨ ปรับใช้จริง ตะไคร่น้ำ 5–10% รำข้าว 10–20% อาหารกุ้งบด 70–85% 📋 สรุปสูตรแนะนำเบื้องต้น (อ้างอิงงานวิจัย): สูตร ตะไคร่น้ำ รำข้าว อาหารกุ้งบด A 10% (Spirulina) 20% 70% B 5% (Schizochytrium) 15% 80% C 5–10% (General algae) 10–20% 70–85% หมายเหตุ - สูตร A เหมาะกับสัตว์น้ำขนาดเล็ก (Nauplii/post‑larvae) - สูตร B ใช้ Biofloc เพิ่มประสิทธิภาพน้ำและอาหาร - สูตร C เป็นสูตรกลางที่ทดลองได้ตั้งแต่ Juvenile ขึ้นไป การผสมสูตรอาหารจากตะไคร่น้ำ (เช่น สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินหรือสาหร่ายเซลล์เดียว) กับอาหารกุ้งบดและรำข้าว เพื่อนำไปใช้ในการทดลองเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น กุ้งหรือปลา สามารถกำหนดอัตราส่วนได้ตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย เช่น เพื่อทดสอบผลต่อการเจริญเติบโต การกินอาหาร หรือคุณภาพน้ำ โดยอัตราส่วนที่แนะนำเบื้องต้น ได้แก่ 🔹 สูตรพื้นฐาน (เหมาะสำหรับทดลองเบื้องต้น) ตะไคร่น้ำ : อาหารกุ้งบด : รำข้าว 1 : 1 : 1 (โดยน้ำหนัก) ใช้เมื่อต้องการทดสอบผลโดยไม่มีส่วนใดโดดเด่นเกินไป ให้ค่าทางโภชนาการพอเหมาะ มีไฟเบอร์ โปรตีน และพลังงาน 🔹 สูตรเน้นโปรตีนจากตะไคร่น้ำ ตะไคร่น้ำ : อาหารกุ้งบด : รำข้าว 2 : 1 : 1 เหมาะกับการทดลองว่าสาหร่ายมีผลต่อการเจริญเติบโตหรือสุขภาพสัตว์น้ำอย่างไร ควรระวังการเน่าเสียถ้าเก็บไว้นาน 🔹 สูตรประหยัด (ลดปริมาณอาหารกุ้ง) ตะไคร่น้ำ : อาหารกุ้งบด : รำข้าว 2 : 0.5 : 1.5 ใช้รำข้าวมากขึ้นเพื่อลดต้นทุน เหมาะกับการศึกษาผลของอาหารต้นทุนต่ำ หมายเหตุ - ตะไคร่น้ำควรเก็บเกี่ยวใหม่ สด หรืออบแห้งให้สะอาด - อาหารกุ้งบดควรเลือกสูตรโปรตีน 30–40% - รำข้าวใช้รำละเอียด ไม่ขึ้นรา * อัตราส่วนเหล่านี้สามารถปรับได้ตามชนิดของสัตว์น้ำที่เลี้ยง (เช่น กุ้งก้ามกราม ปลานิล ฯลฯ)
อ่านต่อ
ถามเมื่อ 6 มิถุนายน 2568
ถาม-ตอบ
โรคพืช
วิธีการที่ดีที่สุดในการกำจัดโรครากเน่าโดยไม่ทำให้ดินเสีย มีวิธีไหนบ้างครับ
นักเอกสารสนเทศ สำนักหอสมุด มก.
ตอบเมื่อ 21 พฤษภาคม 2568
ไม่ทราบว่า เป็นอาการโรครากเน่าในพืชชนิดใด กรณีโรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน จะมีเชื้อราสาเหตุโรคคือ Phytophthora palmivora เชื้อราจะเริ่มเข้าทำลายระบบราก ทำให้รากต้นทุเรียนเน่าเป็นสีน้ำตาล เมื่อรากเน่ามากขึ้นใบทุเรียนระดับปลายกิ่งจะแสดงอาการซีดเหลือง ชะงักการเจริญเติบโตและใบร่วงในเวลาต่อมา ใบระดับโคนกิ่งจะร่วงช้ากว่าบริเวณปลายกิ่ง ลักษณะอาการเน่าที่โคนจะปรากฏจุดฉ่ำน้ำและมักมีน้ำเยิ้มออกมา เมื่อใช้มีดถากดูจะพบว่ามีน้ำไหลทะลักออกมา เนื้อเยื่อเปลือกและเนื้อไม้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มแสดงอาการเน่าลุกลามรอบโคนต้นทำให้ทุเรียนใบร่วงหมดต้น ยืนต้นตายในเวลาต่อมา ในภาพที่มีความชื้นสูงและมีฝนตกชุก เชื้อราสามารถแพร่กระจายเข้าทำลายกิ่ง ใบ และ ผล บนต้นทุเรียนได้ แพร่กระจายโดยทางลม น้ำ ดิน ใบ กิ่งพันธุ์ และผล โดยส่วนมากเชื้อราแพร่ระบาดทำลายผ่านทางรากในสภาพดินที่มีการระบายน้ำไม่ดี มีน้ำขัง และลุกลามสู่โคนต้น แต่ในฤดูฝนที่มีลมพายุและสภาพอากาศความชื้นสูงจะแพร่ระบาดทางลมเข้าทำลายใบ กิ่ง และผลได้ การป้องกันกำจัด ทำได้โดย 1. หมั่นติดตาม สำรวจโรครากเน่าและโคนเน่าในสวน 2. ตรวจวิเคราะห์และปรับปรุงบำรุงดินโดยใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยเคมี และปูนขาว (ตามอัตราคำแนะนำหลังจากการตรวจวิเคราะห์ดิน) เพื่อให้ดินมีสภาพเป็นดินดีทั้งทางด้านกายภาพ ชีวภาพ และเคมี (pH = 6.5) 3. จัดทำร่องระบายน้ำในบริเวณสวนที่มีพื้นที่ต่ำ เพื่อไม่ให้มีน้ำท่วมขัง 4. ตัดแต่ง กิ่ง ใบ ดอก และผลที่เป็นโรค ออกนอกแปลงนำไปฝังกลบลึกๆ 5. เมื่อพบอาการของโรคในระยะเริ่มต้นหรือมีอาการเล็กน้อยให้รีบทำการรักษา 6. ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดโรค เช่น metalaxyl (เชื้อโรคส่วนมากดื้อต่อสารนี้แล้ว) (เมธามอร์ป), fosetyl aluminum (วอแรนต์), bordeaux mixture, copper oxychloride (คอปเปอร์-ไฮ), dimethomorph (โทมาฮอค), pyraclostrobin, myclobutanil + kresoxim methyl (เออร์กอน) เป็นต้น *อ้างอิงข้อมูลจาก ผศ.ดร.อุดมศักดิ์ เลิศสุชาตวนิช ภาควิชาโรคพืช คณะเกษตร ม.เกษตรศาสตร์ กรณีเป็นในไม้ยืนต้น หรือต้นไม้ใหญ่ชนิดอื่น สามารถอ่านแนวทางป้องกันกำจัดได้จาก ภาพประกอบด้านล่างค่ะ
อ่านต่อ
ถามเมื่อ 21 พฤษภาคม 2568

คลังความรู้

แหล่งความรู้อื่นๆ
ปุ๋ย
การแปรรูปวัสดุเหลือใช้เกษตร
หนังสือ การผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากขยะด้วยไส้เดือน
เนื้อหาเด่น * ความรู้พื้นฐานเรื่องไส้เดือนดินและการจำแนกสายพันธุ์ * ประโยชน์ของไส้เดือนดินต่อระบบนิเวศและเกษตรกรรม * ขั้นตอนการเลี้ยงไส้เดือนเพื่อกำจัดขยะอินทรีย์ในระดับครัวเรือนและชุมชน * เทคนิคการผลิตปุ๋ยหมักและน้ำหมักจากมูลไส้เดือน * ตัวอย่างจริงจากการวิจัยในไทย โดยเฉพาะสายพันธุ์ท้องถิ่น “ขี้ตาแร่” ที่ปรับตัวได้ดีและให้ผลผลิตสูง เหมาะสำหรับ * เกษตรกรที่ต้องการลดการใช้ปุ๋ยเคมี * ผู้สนใจเกษตรอินทรีย์และสิ่งแวดล้อม * ครู นักเรียน นักศึกษา สายชีววิทยา–เกษตร * คนเมืองที่อยากเริ่มเลี้ยงไส้เดือนในบ้านแบบง่าย ๆ หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงให้ความรู้ทางวิชาการอย่างลึกซึ้ง แต่ยังเปิดโลกทัศน์ใหม่เกี่ยวกับการจัดการขยะ การลดต้นทุนเกษตร และการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนผ่าน “สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่” อย่างไส้เดือน 📍ห้ามพลาด! สำหรับผู้ที่สนใจเกษตรธรรมชาติและการเปลี่ยนของเหลือใช้ให้เป็นคุณค่าที่จับต้องได้🌿📖
โพสต์เมื่อ 28 พฤษภาคม 2568
แหล่งความรู้อื่นๆ
ศัตรูพืช
แมลงศัตรูปาล์มน้ำมันที่สำคัญ
อินโฟกราฟิก แสดงแมลงศัตรูปาล์มน้ำมันที่สำคัญ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ การระบาด อาการของพืชเมื่อถูกศัตรูพืชเข้าทำลาย ภาพประกอบ เช่น หนอนหน้าแมว หนอนปลอกเล็ก ด้วงกุหลาบ ด้วงแรด
โพสต์เมื่อ 21 พฤษภาคม 2568
แหล่งความรู้อื่นๆ
การผลิตพืช
โครงสร้างของพืช
คู่มือเกษตรกร: การผลิตปาล์มน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ
ชื่อหนังสือ: คู่มือเกษตรกร: การผลิตปาล์มน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เขียน: ธีระพงศ์ จันทรนิยม จัดพิมพ์โดย: ศูนย์วิจัยและพัฒนาการผลิตปาล์มน้ำมัน สังกัด: คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปีที่พิมพ์: กรกฎาคม 2562 จำนวนหน้า: 128 หน้า ISBN: 978-616-271-308-8 🟢 จุดเด่นของหนังสือ หนังสือเล่มนี้เป็นคู่มือสำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกปาล์มน้ำมันอย่างถูกต้องและได้ผลผลิตคุ้มค่า โดยเนื้อหาเน้นการอธิบาย - อย่างเป็นระบบ เข้าใจง่าย และนำไปใช้ได้จริง ครอบคลุมตั้งแต่ - ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของปาล์มน้ำมัน - การเตรียมพื้นที่ปลูก การเลือกพันธุ์ การเพาะกล้า และการจัดการสวนในแต่ละช่วงอายุ - การให้ปุ๋ย การเก็บเกี่ยว รวมถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพทะลายปาล์ม - โรคและศัตรูพืชที่พบบ่อย พร้อมแนวทางการป้องกันและแก้ไข - เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเกษตรกรรายใหม่และรายเก่า ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุนในระยะยาว
โพสต์เมื่อ 21 พฤษภาคม 2568
© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู