ข่าวสาร
F01 การผลิตพืช
28 สิงหาคม 2568
โครงการตามแนวพระราชดำริ: การผลิตกล้วยไม้สกุลวานิลลาเชิงพาณิชย์

ความสำคัญและถิ่นกำเนิด
วานิลลา (Vanilla sp.) เป็นพืชในวงศ์กล้วยไม้ (Orchidaceae) มีถิ่นกำเนิดในประเทศเม็กซิโกและแถบอเมริกากลาง ปัจจุบันมีรายงานสายพันธุ์มากกว่า 200 ชนิด กระจายพันธุ์อยู่ในเขตร้อนชื้นระหว่างเส้นรุ้งที่ 20 องศาเหนือและใต้ของเส้นศูนย์สูตร อย่างไรก็ตาม มีเพียง 3 สายพันธุ์ที่มีคุณค่าทางการค้า ได้แก่
- Vanilla planifolia (Andrews.) วานิลลาพันธุ์การค้า
- Vanilla pompona วานิลลอน 
- Vanilla tahaitensis วานิลลาตาฮิติ
*ในเชิงพาณิชย์ สายพันธุ์ที่นิยมปลูกมากที่สุดคือ Vanilla planifolia หรือวานิลลาพันธุ์การค้า เนื่องจากให้ผลผลิตและคุณภาพที่เป็นที่ต้องการของตลาดโลก

วานิลลาพื้นเมืองของประเทศไทย ประเทศไทยมีวานิลลาพื้นเมืองขึ้นกระจายอยู่ 4 สายพันธุ์ ได้แก่
1. พลูช้าง (Vanilla siamensis Rolfe ex Kownie)
2. เอาะลบ (Vanilla albida Blume)
3. สามร้อยต่อใหญ่ (Vanilla pilifera Holttum)
4. เถางูเขียว (Vanilla aphylla* Blume)
ทั้งนี้ ประเทศไทยรู้จักการนำวานิลลาพันธุ์การค้าเข้ามาทดลองปลูกมากว่า 30 ปี โดยดำเนินการผ่านสถานีทดลองของกรมวิชาการเกษตร

การวิจัยและพัฒนาโดยมูลนิธิโครงการหลวง มูลนิธิโครงการหลวงเริ่มศึกษาวิจัยการปลูกวานิลลาพันธุ์การค้าตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 โดยความร่วมมือกับ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ซึ่งมีผลการศึกษาเด่นดังนี้
- ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงป่าเมี่ยง (อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่)
ทดลองปลูก V. planifolia ภายใต้ร่มเงาต้นไม้และโรงเรือนพรางแสง 50-70% พบว่าสามารถเจริญเติบโตได้ดี ให้ดอกในปีที่ 3 ของการปลูก โดยออกดอกเร็วกว่าวานิลลาพื้นเมืองประมาณ 1 เดือน
การจัดการค้างและวัสดุคลุมดิน
ทดลองเปรียบเทียบค้างมีชีวิต (เช่น ต้น Facultalia ตระกูลถั่ว) กับค้างซีเมนต์ พบว่าค้างซีเมนต์เหมาะสมกว่าสำหรับการผลิตเชิงการค้า ส่วนวัสดุคลุมดิน (กาบมะพร้าว พืชตระกูลถั่ว และหญ้า) ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญต่อการเจริญเติบโต

การบ่มฝักวานิลลา
นำวิธีการบ่มแบบมาดากัสการ์ (ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน: Killing, Sweating, Slow drying, Conditioning) มาปรับใช้ สามารถทำให้ฝักมีกลิ่นหอม สีช็อกโกแลตเข้ม เนื้อฝักนุ่ม ความชื้น 30–40% และมีปริมาณสารวานิลลินเฉลี่ย 2.21% ใกล้เคียงกับมาตรฐานสากล

- ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง (อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่)
ปี พ.ศ. 2549 ได้ทดลองปลูกในโรงเรือนพลาสติกที่ระดับความสูง 1,200 เมตร พบว่าวานิลลาให้ผลผลิตต่อเนื่องทุกปี มีสารวานิลลินสูงถึง 2.40% อย่างไรก็ตาม ระยะสุกแก่ของฝักใช้เวลานาน 12 เดือน ทำให้การจัดการตัดแต่งต้นหลังเก็บเกี่ยวมีข้อจำกัด

การขยายผลสู่การผลิตเชิงพาณิชย์
จากผลการวิจัย มูลนิธิโครงการหลวงได้ขยายผลสู่เกษตรกรบนพื้นที่สูง โดยสนับสนุนทั้งโรงเรือนพลาสติกและโรงเรือนพรางแสง ได้แก่
- เกษตรกร 8 รายที่ศูนย์ขุนวาง (โรงเรือนพลาสติก)
 - เกษตรกร 4 รายที่ศูนย์ม่อนเงาะ (โรงเรือนพรางแสง)
- ผลผลิตถูกจำหน่ายในรูปฝักวานิลลาบ่ม และพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น น้ำเชื่อมวานิลลา น้ำเลมอนวานิลลา และฟักทองวานิลลา

ปัจจุบัน ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหลายแห่งทำหน้าที่เป็นแหล่งเรียนรู้การผลิตวานิลลา ได้แก่ ศูนย์ขุนวาง ศูนย์ป่าเมี่ยง ศูนย์ตีนตก ศูนย์ม่อนเงาะ และพื้นที่ขยายผลที่บ้านโป่งคำ จ.น่าน

แนวทางวิจัยในอนาคต การพัฒนาการผลิตวานิลลาเชิงพาณิชย์ในประเทศไทยยังคงต้องมุ่งเน้นงานวิจัยในประเด็นสำคัญ ได้แก่
- การลดระยะเวลาการบ่มฝัก
- การปรับปรุงพันธุ์ให้ต้านทานโรคเน่าจากเชื้อรา
- การพัฒนาพันธุ์ที่สามารถผสมเกสรด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งแรงงานคน

การวิจัยและพัฒนาเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะยกระดับการผลิตวานิลลาเชิงพาณิชย์ของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับมาตรฐานสากล

งานวิจัยล่าสุดเผย! ทีมวิจัยไทยประสบความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต วานิลลา พืชเครื่องเทศมูลค่าสูงอันดับ 2 ของโลก รองจากหญ้าฝรั่น 🇹🇭💚
👉 วานิลลาพันธุ์ Vanilla planifolia สามารถปลูกได้ดีในสภาพโรงเรือนของไทย
👉 การใช้ปุ๋ยอินทรีย์และสูตรเคมีที่เหมาะสม ช่วยกระตุ้นการเติบโตและออกดอก
👉 เป็นก้าวสำคัญสู่การลดการนำเข้า และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรบนพื้นที่สูง
💡 “จากงานวิจัย…สู่โอกาสใหม่ของเกษตรกรไทย”
🌱 วานิลลาไทยกำลังมาแรง! งานวิจัยชี้ว่า Vanilla planifolia เติบโตได้ดีในไทย สร้างโอกาสใหม่ให้เกษตรกร ลดการนำเข้า 🚀

โครงการ “วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตวานิลา” (2559–2562) มีเป้าหมายเพื่อหาวิธีปลูกและจัดการวานิลลาที่ให้ผลผลิตสูงและคุณภาพดี โดยทดลองปลูกพันธุ์ Vanilla planifolia ในสภาพโรงเรือนทดลอง ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตาก

ด้านการให้ปุ๋ย พบว่า วานิลาสามารถเจริญเติบโตได้ดีเมื่อใช้ปุ๋ยสูตร 27-11-11, 46-0-0 และปุ๋ยอินทรีย์ โดยปุ๋ยอินทรีย์ 1 กก./ต้น/เดือน ส่งผลให้มีจำนวนดอกมากที่สุด ขณะที่ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 ก็ช่วยกระตุ้นการออกดอกได้

ด้านการตัดแต่งฝัก: แม้จะยังไม่สามารถทดลองได้ครบ เนื่องจากต้นวานิลายังไม่เข้าสู่ระยะให้ผลผลิต แต่ข้อมูลที่ได้ถือเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการวิจัยต่อไป

ปัจจุบัน วานิลลาเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง เป็นที่ต้องการของตลาดโลกและในประเทศไทย แต่การผลิตในประเทศยังไม่เพียงพอ การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตจึงเป็นทางเลือกสำคัญในการลดการนำเข้าและสร้างรายได้ใหม่ให้เกษตรกร

 

งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ผู้สนใจสามารถอ่านข้อมูลงานวิจัยฉบับเต็ม จาก โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตวานิลา : Study of Vanilla production technology โดย กรมวิชาการเกษตร ได้ที่ https://kasets.art/htX8hQ

การศึกษาวัสดุปลูกต่าง ๆ ต่อการเจริญเติบโตของกล้วยไม้วานิลลาพันธุ์แพลนิโฟเลีย คลิกอ่านได้ที่ https://maejovision.mju.ac.th/?p=7992


แหล่งที่มา

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
https://www.tistr.or.th/tistrblog/?p=4217&cpage=1
© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู