สังเกตจากภาพที่ส่งมาคล้ายอาการโรคใบด่างจุดวงแหวน ที่มีเพลี้ยไฟเป็นพาหะ นะคะ และช่วงนี้อากาศร้อนแห้งแล้งเป็นช่วงที่ระบาดได้ง่าย ส่วนแนวทางป้องกัน ทำได้ดังนี้ 1. ใช้พันธุ์ต้านทานโรค 2. ไม่นำเมล็ดพริกจากต้นที่เป็นโรคมาเพาะขยายพันธุ์ 3. ควรเพาะกล้าพริกในมุ้งกันแมลง และคัดเลือกกล้าพริกที่แข็งแรงและไม่เป็นโรคมาปลูก 4. หมั่นตรวจแปลงปลูก หากพบพริกที่แสดงอาการของโรคให้ถอนและนำไปทำลาย หรือฝังดินนอกแปลงทันที 5. หมั่นกำจัดวัชพืชในแปลงและรอบแปลงปลูก เพื่อลดแหล่งสะสมของเชื้อไวรัสและแมลงพาหะ เช่น สาบแร้งสาบกา กะเม็ง หญ้ายาง และกระทกรก 6. ไม่ปลูกพืชหมุนเวียนที่เป็นพืชอาศัยของเชื้อไวรัส เช่น มะเขือต่าง ๆ ยาสูบ แตงกวา ฟักทอง บวบเหลี่ยม และมะระจีน 7. เชื้อไวรัสสาเหตุโรคพืชยังไม่มีสารป้องกันกำจัดโดยตรง แต่ป้องกันการระบาดของโรคได้โดยพ่นสารกำจัดเพลี้ยไฟพริก ซึ่งเป็นพาหะนำโรคนี้ ได้แก่ สารสไปนีโทแรม 12% SC อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ไซแอนทรานิลิโพรล 10% OD อัตรา 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ คลอร์ฟีนาเพอร์ 10% SC อัตรา 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ สไปโรมีซิเฟน 24% SC อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ฟิโพรนิล 5% SC อัตรา 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ อีมาเมกตินเบนโซเอต 1.92% EC อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ อิมิดาโคลพริด 70% WG อัตรา 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร 8. หมั่นสำรวจเพลี้ยไฟบริเวณใต้ใบหรือตามส่วนอ่อนๆของพืช ถ้าพบเพลี้ยไฟ 5 ตัวขึ้นไป/ยอด ควรพ่นสารกำจัด 9. ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้พืชขาดน้ำ เพราะจะทำให้ พืชอ่อนแอ และเพลี้ยไฟพริกจะระบาดอย่างรวดเร็ว
ต้นพริกเป็นโรคอะไรครับ มีวิธีป้องกันและรักษาอย่างไร