สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (ARDA) เผยความสำเร็จของ ศูนย์แปรรูปเก๊กฮวย-คาโมมายล์อบแห้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงสะโง๊ะ จ.เชียงราย โดยได้รับทุนสนับสนุนตั้งแต่ปี 2556 เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรบนพื้นที่สูงหันมาปลูกพืชสมุนไพรแทนฝิ่น

จากปัญหาสูญเสียผลผลิต สู่เทคโนโลยีช่วยเพิ่มรายได้
ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผอ. ARDA กล่าวว่า โครงการพัฒนากระบวนการแปรรูปดอกเก๊กฮวยและคาโมมายล์ นำโดย รศ.ดร.ฤทธิชัย อัศวราชันย์ คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร ม.แม่โจ้ เริ่มต้นด้วยเกษตรกรเพียง 20 ครัวเรือน บนพื้นที่ 3 ไร่ โดยพบปัญหาการสูญเสียผลผลิตถึง 850 กิโลกรัมต่อรอบการผลิต คิดเป็นมูลค่ากว่า 17,000 บาท

ในปี 2562 ทีมวิจัยได้พัฒนา เครื่องอบแห้งระบบถาดหมุนและโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ ควบคุมอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี IoT ช่วยลดการสูญเสียผลผลิตกว่า 70% ส่งผลให้ราคาผลผลิตสดปรับตัวสูงขึ้น โดย

• เก๊กฮวย เพิ่มจาก 30 เป็น 50 บาท/กก.
• คาโมมายล์ เพิ่มจาก 50 เป็น 75 บาท/กก.

ปัจจุบันมีเกษตรกรเข้าร่วม 853 ครัวเรือน บนพื้นที่ 67 ไร่ สามารถแปรรูปดอกไม้สมุนไพรได้ถึง 2-3 ตันต่อวัน สร้างรายได้เฉลี่ย 80,000 บาทต่อไร่ต่อรอบการผลิต

ขยายตลาดสู่ผลิตภัณฑ์สุขภาพและตลาดส่งออก
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงสะโง๊ะได้กลายเป็น ฮับแปรรูปเก๊กฮวยและคาโมมายล์ใหญ่ที่สุดในไทย ผลผลิตถูกส่งต่อไปยัง มูลนิธิโครงการหลวงและบริษัทดอยคำ เพื่อพัฒนาเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ป้อนตลาดในประเทศและส่งออก

รศ.ดร.ฤทธิชัย กล่าวเสริมว่า การสนับสนุนงานวิจัยตลอด 12 ปี ทำให้เกษตรกรจากเดิมมีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน ก้าวสู่ระดับ 100,000-120,000 บาทต่อไร่ พร้อมยกระดับโรงอบให้ได้มาตรฐาน GAP ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

ARDA พร้อมขับเคลื่อนเกษตรไทยด้วยนวัตกรรม
ดร.วิชาญ ผอ. ARDA กล่าวปิดท้ายว่า อนาคตเกษตรไทยอยู่ที่การสร้างมูลค่าเพิ่ม ไม่ใช่แค่ขายวัตถุดิบ ARDA พร้อมสนับสนุนการวิจัยเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยและผลักดันสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลก