ข่าวสาร
F30 ปรับปรุงพันธุ์พืช
27 ธันวาคม 2564
ลำไยยักษ์ 'จัมโบ้' ผลใหญ่ เมล็ดลีบ

ลำไยยักษ์พันธุ์ "จัมโบ้" ลำไยสายพันธุ์ใหม่ที่กรมวิชาการเกษตรได้มีหนังสือรับรองพันธุ์ขึ้นทะเบียนกรมวิชาการเกษตร ลำไยอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ได้จากการกลายพันธุ์มาจากการเพาะเมล็ด (คาดว่าน่าจะกลายมาจากพันธุ์ดอ) เป็นพันธุ์ที่เหมาะต่อการบริโภคสด ผลมีขนาดใหญ่มาก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 เซนติเมตร มีขนาดผลใหญ่กว่าลำไยเกรด A ที่ส่งขายยังต่างประเทศถึง 2 เท่า เป็นลำไยที่เนื้อหนาแข็งและแห้งไม่แฉะน้ำ, มีความหวานเฉลี่ย 13-15 เปอร์เซ็นต์บริกซ์ ที่น่าสนใจคือเมล็ดลีบเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เมล็ดลีบเกือบทุกผล และได้มีการตั้งชื่อว่าพันธุ์ "จัมโบ้" (JUMBO) จากข้อมูลเดิมเจ้าของลำไยพันธุ์จัมโบ้นี้ อยู่ที่ จ.ลำพูน เป็นต้นที่ได้จากการปลูกด้วยเมล็ดและกลายพันธุ์มาดี

อ้างอิงภาพจาก https://www.technologychaoban.com/agricultural-technology/article_31803

ลักษณะของการติดผลของลำไยพันธุ์นี้อยู่ในระดับปานกลางก็จริง มีจำนวนผล 15-20 ผลต่อช่อ, ลักษณะผลจะกลมแป้น ผิวเปลือกเรียบมีสีน้ำตาลปนเหลือง เปลือกหนาประมาณ 1.3 มิลลิเมตร ในธรรมชาติจะออกดอกในช่วงเดือนมกราคมและเก็บเกี่ยวผลผลิตในเดือนสิงหาคม เนื่องจากเป็นลำไยที่พบเปอร์เซ็นต์เมล็ดลีบในช่อค่อนข้างสูงมาก (แทบเรียกได้ว่า 100 เปอร์เซ็นต์) ใน 1 ช่อ พบว่าผลลำไย ยักษ์พันธุ์จัมโบ้นั้นมีเมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นพันธุ์ลำไยที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก รสชาติเหมือนลำไยพันธุ์ดอคือรสชาติหวาน มีเนื้อแห้งและกรอบ ขนาดผลใหญ่ 3-4 ซม. ต้นมีการเจริญเติบโตเร็ว

วิธีบังคับให้ออกนอกฤดูกาลโดยใช้สารโพแทสเซียมคลอเรต ก็สามารถบังคับให้ลำไยออกดอกได้ดีทุกปีตามที่ต้องการ ลำไยยักษ์พันธุ์จัมโบ้ตอบสนองสารโพแทสเซียมคลอเรตได้ดีมาก ทำให้ลำไยพันธุ์นี้สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ในบ้านเราและบังคับให้ออกดอกได้ด้วยสารสารโพแทสเซียมคลอเรตได้อย่างง่ายดาย ที่ผ่านมาสวนคุณลีได้ผลิตผลลำไย "ยักษ์จัมโบ้" ออกสู่ตลาด จำหน่ายออกจากสวนได้ กก.ละ 200-300 บาททีเดียวมีคนสนใจสั่งซื้อจำนวนมาก

การปลูกลำไย ให้ไถดินหรือขุดหลุมลึกประมาณ 30 เซนติเมตร ตากดินไว้ 10-25 วัน พรวนย่อยดินอีก 1-2 ครั้ง วิธีการปลูก ระยะปลูก มีหลายระยะขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น การจัดการโดยใช้เครื่องจักรก็จะใช้ระยะปลูกที่กว้างระหว่างแถวและต้น 88 เมตร หรือ 108 เมตร เป็นต้น ส่วนถ้ามีพื้นที่น้อย ต้องการจำนวนต้นที่เยอะสามารถควบคุมทรงพุ่มได้ก็จะปลูกระยะถี่ลงมา เช่น ระยะ 75 เมตร หรือ 6x6 เมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายดีแล้วอัตรา 1-3 กิโลกรัมต่อหลุม โดยผสมกับหน้าดิน ใส่ลงหลุม พูนดินสูงจากปากหลุมประมาณ 15 เซนติเมตร ก่อนปลูกขุดหลุมให้มีขนาดเท่าถุงของต้นกล้าพันธุ์ บริเวณก้นถุงใช้มีดคมกรีดจากก้นถุงขึ้นมาปากถุงทั้งสองด้านแล้วดึงถุงพลาสติกออกระวังอย่าให้ตุ้มดินแตก จากนั้นวางต้นลงหลุมกลบดินให้แน่น ปักไม้หลักและผูกเชือกยึดต้นเพื่อป้องกันต้นกล้าโยก รดน้ำให้ชุ่มพรางแสงให้จนกระทั่งแตกยอดอ่อน อย่างน้อย 1 ครั้ง จึงค่อยเอาซาแรนพรางแสงออก


แหล่งที่มา

นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 27 ธ.ค. 2564
© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู