ข่าวสาร
A01 การเกษตรทั่วไป
6 ตุลาคม 2564
"อิสราเอล" ชี้ เสพติด "น้ำตาลเทียม" อาจก่อโรคในระบบย่อยอาหาร

มหาวิทยาลัยเบนกูเรียนอิสราเอล เผย สารให้ความหวานที่มักใช้แทนน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิด อาจก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารในระยะยาว

มหาวิทยาลัยเบนกูเรียน (BGU) ของอิสราเอล เผยแพร่ผลการศึกษาในวารสารอินเตอร์เนชันนัล เจอร์นัล ออฟ โมเลคูลาร์ ไซเอนส์ (International Journal of Molecular Sciences) ระบุว่า คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยได้ทดสอบสารให้ความหวาน 6 ชนิด ซึ่งได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) และพบว่าสารเหล่านี้แทรกแซงการสื่อสารของแบคทีเรียในร่างกาย แม้ว่าสารทั้งหกตัวจะไม่ได้ฆ่าแบคทีเรีย แต่มีสาร 3 ตัว ได้แก่ แอสปาร์แตม ซูคราโลส และแซกคาริน ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการสื่อสารของแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาหรือโรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร โดยคณะนักวิจัยได้ใช้แบคทีเรียเรืองแสงเพื่อทดสอบสารให้ความหวาน เนื่องจากความสามารถเรืองแสงของแบคทีเรียเหล่านี้จะลดลง หากการสื่อสารของแบคทีเรียถูกรบกวน

ทางคณะนักวิจัยอธิบายว่า สารให้ความหวานทำลายกิจวัตรการสื่อสารของแบคทีเรีย ซึ่งอาจนำไปสู่การทำลายเสถียรภาพของจุลินทรีย์ในลำไส้ “งานวิจัยของเราผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารทบทวนการใช้สารให้ความหวาน” คณะนักวิจัยกล่าวสรุป

Tips!

ด้วยเทรนด์สุขภาพ ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาเลือกบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่เป็น Sugar-free (ไม่ใส่น้ำตาล) และใส่สารให้ความหวานแทนน้ำตาลกันมากขึ้น ที่รู้จักกันดีคือ “แอสปาแตม” ที่เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารกันมาอย่างยาวนาน แต่ที่เห็นกันบ่อย ๆ ในระยะหลัง คือ “ซูคราโลส” ซึ่งก็เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่พบเห็นได้บ่อยเมื่อพลิกดูฉลากโภชนาการหลังผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ

แอสปาแตม
เป็นสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลที่นิยมนำมาใส่ในอาหารและเครื่องดื่มแทบจะทุกชนิด ยกเว้นแต่พวกเบเกอรี่ ขนมอบ เพราะจะสลายได้เมื่อถูกความร้อนสูง และจะสูญเสียความหวานไป แอสปาแตมเป็นสารให้ความหวานกลุ่มที่ไม่ใช่น้ำตาลจริง แต่มีความหวานเหมือนกับน้ำตาลทราย (ซูโคลส) แต่จะหวานคาปากนานกว่า และมีระดับความหวานสูงกว่าน้ำตาลทราย ถึง 180-200 เท่า ดังนั้น แม้ว่าจริงๆ แล้วมันจะให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ต่อกรัม แต่ปริมาณที่ใส่ลงไปในอาหารให้เกิดความหวานนั้น ใช้เพียงแค่เล็กน้อยก็หวานแล้ว จึงมักจะถือกันว่าแทบจะไม่ต้องนับแคลอรี่ที่แอสปาแตมในอาหารนั้น

ซูคราโลส
ซูคราโลสเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่มีความหวานมากกว่าน้ำตาล 600 เท่า จึงใช้ในปริมาณน้อยกว่าน้ำตาลมาก ให้ความหวานใกล้เคียงกับน้ำตาล แต่ไม่มีรสขมติดลิ้น ละลายในน้ำได้ดี ใช้ปรุงอาหารและขนมทุกชนิดที่ต้องใช้ความร้อนสูงและไม่สูญเสียความหวาน

แซ็กคาริน (Saccharin) หรือขัณฑสกร
สารให้ความหวาน (Sweetener) ที่เป็นสารสังเคราะห์ ถูกค้นพบและใช้ในอาหารมาควบคู่กันกับไซคลาเมต (Cyclamate) ทนต่อความร้อน ละลายในน้ำได้ดี ขัณฑสกรให้ความหวาน (relative sweetness) มากกว่าน้ำตาลทราย (Sucrose) ถึง 300-700 เท่า ใช้เป็นสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล (Sugar substitute) ให้รสหวานจัด และติดลิ้น บางคนอาจรู้สึกได้รสขมด้วยถ้าใช้ในปริมาณมาก สารนี้ไม่ให้พลังงาน จึงเป็นที่ใช้กันแพร่หลายในอาหารควบคุมน้ำหนักพลังงานต่ำ รวมทั้งในน้ำอัดลมและน้ำหวานต่างๆ แต่สำหรับในประเทศไทยไม่อนุญาตให้ใช้ขัณฑสกรในเครื่องดื่ม ทนต่อความร้อน/ละลายในน้ำได้ดี/หวานมากกว่าน้ำตาลประมาณ 450 เท่า

อ้างอิงข้อมูลจาก 
https://www.bangkokbiznews.com/news/964285
https://www.sanook.com/health/25511/
http://www.foodnetworksolution.com

แหล่งที่มา

กรุงเทพธุรกิจ
https://www.bangkokbiznews.com/news/964285
© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู