ข่าวสาร
F01 การผลิตพืช
31 กรกฎาคม 2563
แนะวิธีปลูกสับปะรด 'MD2' ในถุงหรือในกระถาง

สับปะรดพันธุ์ "MD2" เป็นสับปะรดที่นิยมบริโภคสดทั่วโลก สับปะรดพันธุ์ "MD2" เป็นสับปะรดที่พัฒนาขึ้นที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งภายในและภายนอก เช่น ภายในคือเรื่องของรสชาติที่หวาน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เนื้อมีสีเหลืองเข้ม (คล้ายๆ กับสับปะรดพันธุ์ภูเก็ตหรือตราดสีทองบ้านเรา) เนื้อ ตัน แน่น และไม่เป็นโพรง น้ำหนักผลเฉลี่ย 1.7-1.8 กิโลกรัม จากข้อมูลพบว่ามีวิตามินซีสูงถึง 4 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับสับปะรดพันธุ์อื่น ๆ เมื่อทานแล้วไม่กัดลิ้น สามารถทำให้คนทานได้มากขึ้น ภายนอกเมื่อสับปะรด พันธุ์ "MD2" แก่ ผลแก่จะเปลี่ยนจากผิวสีเขียวเป็นสีเหลืองทองทั้งผล

สับปะรดพันธุ์ "MD2" นั้นมีการปลูกและดูแลเช่นเดียวกับการปลูกสับปะรดปัตตาเวียในบ้านเราทุกประการ เมื่อต้นสับปะรดมีอายุได้ 2-3 เดือน หลังการปลูกซึ่งจะเป็นช่วงของการสร้างราก ก็จะเริ่มให้ ปุ๋ยทางดินครั้งแรก ก็จะเป็นสูตรปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง (N) เช่น สูตร 15-5-20 หรือ 21-0-0 หรือบ้างก็ใช้สูตร 16-16-16 ตามความสมบูรณ์ของสภาพดินในพื้นที่นั้น ๆ การใส่ปุ๋ยให้ใส่ชิดโคนต้นอัตราประมาณ 20 กรัมต่อต้น ต้องระวังอย่าให้ปุ๋ยกระเด็นตกลงไปที่ยอดสับปะรด ซึ่งจะทำให้ยอดไหม้และเน่าได้ จากนั้นในเดือนที่ 4-6 ให้ใส่ปุ๋ยที่มีตัวท้ายสูง คือ โพแทสเซียม เช่น สูตร 15-5-20 อัตรา 20 กรัมต่อต้น ให้ใส่ปุ๋ยบริเวณกาบใบล่างของต้นสับปะรดได้เลย ควรใส่ปุ๋ยในขณะที่กาบใบมีน้ำอยู่อย่างพอเพียง หรือหลังจากมีการให้น้ำแก่ต้นสับปะรดแล้วมีน้ำค้างขังอยู่ที่กาบใบ จะทำให้ปุ๋ยละลายได้ดี การใส่ปุ๋ยเกษตรกรจะนิยมใช้ช้อนหรือกระบวยตักปุ๋ยใส่ที่กาบใบล่างได้เลย เป็นพืชชนิดเดียวที่สามารถใส่ปุ๋ยที่ต้นได้เลย แล้วเกษตรกรจะต้องใส่ปุ๋ยหรือฉีดพ่นสารเคมีให้สับปะรดในช่วงเย็นจนถึงค่ำจะดีที่สุด เพราะใบสับปะรดจะเปิดปากใบในช่วงกลางคืน แล้วจะปิดปากใบในตอนกลางวัน ปุ๋ยทางใบก็สามารถเสริมให้ต้นสับปะรดได้เดือนละ 1 ครั้ง ตามความเหมาะสม โดยจะเน้นปุ๋ยสูตรที่มีไนโตรเจนและโพแทสเซียมสูง และควรเพิ่มธาตุอาหารเสริมเช่น เหล็ก และ สังกะสี ลงไปด้วย หรือปุ๋ยทางใบบางสูตรก็ จะมีมาให้ สูตรปุ๋ยทางใบที่นิยมใช้ก็จะมีสูตร 23-0-25 หรือบ้างก็จะใช้ปุ๋ยผสม คือ ปุ๋ย ยูเรีย (46-0-0) อัตรา 500 กรัม บวกกับโพแทสเซียมซัลเฟต (0-0-50) อัตรา 500 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ก่อนที่จะบังคับให้สับปะรดออกดอก จากนั้นจะมีการใส่ปุ๋ยครั้งสุดท้ายในช่วงหลังการบังคับดอกประมาณ 3 เดือน ใส่ปุ๋ยบำรุงคุณภาพผลและลดปัญหาเรื่องโรค เนื้อแกน โดยจะใส่ปุ๋ยที่มีสูตรตัวท้ายสูงคือ โพแทสเซียม (K) เช่น โพแทสเซียมซัลเฟต(0-0-50) อัตรา 10 กรัมต่อต้น

การบังคับให้ออกดอก เมื่อต้นสับปะรดมีขนาดน้ำหนัก 2-2.5 กิโลกรัมต่อต้น ก็จะพร้อมที่จะบังคับให้ออกดอก ถ้าปลูกน้อยเช่นปลูกในกระถางหรือถุงดำก็ใช้การตักราด แต่ถ้าปลูกจำนวนมากจะนิยมฉีดพ่นด้วย สาร 'เอทิฟอน" อัตรา 30 ซีซี. บวกกับปุ๋ย ยูเรีย (46-0-0) อัตรา 300 กรัม โดยทั้งหมดจะผสมกับน้ำ ปริมาณ 20 ลิตร จะฉีดด้วยสูตรนี้ 2 ครั้งโดยแต่ละครั้งห่างกัน 5-10 วัน ช่วงเวลาที่เหมาะต่อการฉีดพ่นบังคับดอกคือ ช่วง 20.00-22.00 น. และสภาพอากาศ ควรจะมีอุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส จะทำให้การบังคับให้ต้นออกดอกค่อนข้างเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ หลังจากบังคับดอกแล้วอีก 40-45 วัน จะเริ่มเห็นสับปะรดเป็นจุดแดงอยู่ภายในยอด


แหล่งที่มา

เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู