มะขามหวาน พืชอัตลักษณ์ที่มีความโดดเด่น และมีมูลค่าประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ จากเดิมขายทั้งฝักแบบชั่งกิโลฯ เพื่อเพิ่มมูลค่าและตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้บริโภคที่ชอบความสะดวก การขายมะขามในยุคนี้จึงเปลี่ยนมาแกะเมล็ดออกแล้วขายเนื้อเน้นๆ ส่วนเมล็ดถูกทิ้งกลายเป็นขยะ เพื่อผลักดันให้ผลิตภัณฑ์อัตลักษณ์ในระดับชาติและนานาชาติ สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยด้านอุตสาหกรรมเครื่องสำอางเชื่อมโยงสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากร ภูมิปัญญาท้องถิ่นเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพรสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) จัดทำโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มของเหลือทิ้งพัฒนาเป็นสารสกัดจากเปลือกหุ้มเมล็ดมะขาม
เนื่องจากเปลือกหุ้มเมล็ดมะขามมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบฟีนอลลิกปริมาณใกล้เคียงกับสารสกัดจากเมล็ดองุ่น นอกจากจะมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ยังลดเบาหวาน ลดคอเลสเตอรอล ต้านการอักเสบ และลดการเสียหายของเยื่อหุ้มเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระ และป้องกันเอนไซม์ในเม็ดเลือดแดงไม่ให้ถูกทำลาย
จากคุณประโยชน์ดังกล่าว วว. จึงร่วมกับ หน่วยงานพันธมิตรในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ศึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดเมล็ดมะขามพร้อมดื่ม คุณสมบัติช่วยแก้ปัญหาอาการอ่อนเพลียกับผู้ใช้แรงงานและผู้ที่เสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย ส่วนเนื้อในเมล็ดมะขามนำมาทำแป้งในรูปของนาโนอิมัลชัน (Nanoemulsion) คุณสมบัติยับยั้งเซลล์เป้าหมายในชั้นใต้ผิวหนัง ลดการสร้างเม็ดสีผิว บำรุงผิวหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ผ่านการทำเลเซอร์