ข่าวสาร
E14 เศรษฐศาสตร์การพัฒนา
23 มีนาคม 2563
สศก. เผยแผนมาตรการเยียวยาแรงงานคืนถิ่น จากผลกระทบไวรัสโควิด-19

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก) กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เน้นย้ำการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรและแรงงานผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด 19 พร้อมได้เปิดเผยถึงแนวทางมาตรการเยียวยาแรงงานผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด 19

โดย สศก. เตรียมเสนอ โครงการ “แรงงานคืนถิ่น พลิกฟื้นผืนดินเกษตรไทยด้วยศาสตร์พระราชา” เพื่อเป็นอาชีพทางรอดสำหรับการเยียวยา เน้นการทำการเกษตรผสมผสานแบบพอเพียง เพื่อให้สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ภายใน 7-10 วัน เป็นทางรอดและสร้างภูมิคุ้มกันในภาวะปัญหาเศรษฐกิจจากวิกฤติโรคร้ายโควิด19 นี้ โดยเน้นการปฏิบัติอย่างมีสติ คิดและทำเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้จิตมีสมาธิ สามารถทบทวนแก้ไขปัญหา หลุดกับดักที่ประสบอยู่ จากนั้นค่อยเรียนรู้และขยายผลสู่การทำการเกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อให้สามารถเลี้ยงตนเองและสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้อย่างพอเพียงและยั่งยืน พลิกฟื้นชีวิตด้วยศาสตร์พระราชา

ด้าน นายเชิดชัย จิณะแสน เศรษฐกิจการเกษตรอาสา (ศกอ.) อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ และประธานศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (ศพก) ระดับประเทศ และปราชญ์ชาวบ้านด้านเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง กล่าวเพิ่มเติมว่า พร้อมจะถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้ลงมือทำการเกษตร ด้วยการใช้ศาสตร์พระราชา มากว่า 20 ปี รวมถึงประสบการณ์ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่สังคมมากกว่า 13 ปี ร่วมกับ สศก. และหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้กับแรงงานคืนถิ่นและผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด 19 โดยยินดีนำศูนย์ ศพก. เข้าร่วมโครงการนำร่อง ร่วมกับ สศก. จัดทำหลักสูตรเพื่อพัฒนาและขยายผลสู่แรงงานคืนถิ่นที่สนใจทำการเกษตรผสมผสาน ตั้งแต่ขั้นต้น ขั้นกลาง สู่การเกษตรยั่งยืน เบื้องต้นในศูนย์การเรียนรู้ จะประกอบด้วย 9 ฐานเรียนรู้หลัก ได้แก่ ฐานเริ่มต้นการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ฐานพิพิธภัณฑ์ชาวนา ฐานที่อยู่อาศัย ฐานการทำประมงเพาะเลี้ยง ฐานการเลี้ยง ปศุสัตว์ ฐานปลูกพืชสวนครัว ฐานการปลูกไม้ผล ฐานการปลูกสวนป่า ไม้เศรษฐกิจ อาทิ พะยูง และสัก เป็นต้น และฐานทำนา

เลขาธิการ สศก. กล่าวเพิ่มเติมว่า จะเร่งจัดทำร่างโครงการแล้วเสนอปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้ความเห็นชอบ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาร่วมดำเนินการกับ สศก. และกรมส่งเสริมการเกษตร (กสก.) รวมทั้ง สำนักงานการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กรณีหากต้องใช้ที่ดินของ ส.ป.ก. ในการเร่งขยายผลการฝึกอบรมสร้างความรู้ผ่านไปยัง ศพก. ทั่วประเทศ 882 ศูนย์ และศูนย์เครือข่ายกว่า 10,000 ศูนย์ทั่วประเทศ เพื่อเป็นทางรอดและสร้างภูมิคุ้มกันในสภาวะปัญหาเศรษฐกิจจากวิกฤติโรคร้ายโควิดครั้งนี้

นอกจากนี้ สศก. ยังได้เตรียมเสนอโครงการที่สำคัญอีก 2 โครงการ ประกอบด้วย 1) โครงการบัณฑิตจิตอาสาร่วมพัฒนาสหกรณ์ไทย โดยมีเป้าหมายให้นิสิต นักศึกษาจบใหม่ในระดับปริญญาตรี ที่หางานทำยากในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เข้ามามีส่วนร่วมฝึกอบรมและช่วยปฎิบัติงานจริง ณ หน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิสหกรณ์การเกษตร ทั่วประเทศ และ 2) โครงการสร้างผู้ประกอบการด้านการให้บริการทางการเกษตร Agri-business provider โดยมีกลุ่มเป้าหมายให้นิสิต นักศึกษาจบใหม่ หรือแรงงานผู้ถูกเลิกจ้าง ที่ต้องการเป็นผู้ประกอบการด้านการเกษตรสมัยใหม่เข้ารับการอบรมเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร Agri-tech and Inovation ณ ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเกษตร (Agri-tech and Innovation Center : AIC) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับสถาบันการศึกษา 77 จังหวัดทั่วประเทศไว้แล้ว เพื่อพัฒนาและต่อยอดไปสู่การประกอบอาชีพด้านการให้บริการทางการเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตร ก้าวสู่การทำการเกษตรแบบแม่นยำ Precision farming และการเป็น Smart farmer ต่อไป


แหล่งที่มา

เทคโนโลยีชาวบ้าน
เทคโนโลยีชาวบ้าน
© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู