ข่าวสาร
D50 กฎหมาย
19 พฤศจิกายน 2562
กรมวิชาการเกษตร ผนึกกำลัง ดีเอสไอ ลงพื้นที่ 5 จุดบุกตัดตอนแหล่งผลิต ขาย สารชีวภัณฑ์ปลอม เสียหายกว่า 25 ล้านบาท

กรมวิชาการเกษตร ผนึกกำลัง ดีเอสไอ ลงพื้นที่ 5 จุด บุกสถานที่ผลิตและจำหน่ายสารชีวภัณฑ์อวดอ้างสรรพคุณกำจัดวัชพืชได้ผล เบื้องต้นพบผสม 2 สารเคมี พาราควอต และไกลโฟเซต ปิดฉากค่าเสียหายรวมกว่า 25 ล้านบาท เตรียมลากผู้กระทำผิดรับโทษตามกฎหมาย

นางสาวเสริมสุข  สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า  ตามที่กรมวิชาการเกษตรได้รับเรื่องร้องเรียนจากเกษตรกรว่ามีการขายสารชีวภัณฑ์สำหรับกำจัดวัชพืช  และศัตรูพืช ขายทางสื่อออนไลน์ต่างๆ เป็นจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการล่อซื้อสินค้าดังกล่าวเพื่อนำมาตรวจวิเคราะห์ เบื้องต้นพบฉลากที่ระบุเป็นสารชีวภัณฑ์กำจัดวัชพืชไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร   และยังพบหลายยี่ห้อมีส่วนผสมของสารเคมีกำจัดวัชพืชพาราควอทและไกลโฟเซต จึงได้สั่งการให้สารวัตรเกษตร กรมวิชาการเกษตรทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ  เข้าตรวจค้นแหล่งผลิตและจำหน่ายปุ๋ยและวัตถุอันตรายทางการเกษตรจำนวน 5 จุด ตามที่สืบทราบ โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจค้นกระจายไปตามจุดต่างๆ ได้แก่ อ.สามโคก  จ.ปทุมธานี อ.จอหอ จ.นครราชสีมา อ.พิมาย จ.นครราชสีมา และ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จำนวน 2 จุด จากการตรวจค้นพบของกลางที่กระทำผิดกฎหมายพบเป็นวัตถุอันตรายจำนวน 18 รายการ  และปุ๋ยจำนวน 36 รายการ ปริมาณรวมทั้งสิ้น 58.5 ตัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้จำนวนกว่า 25 ล้านบาท ประเด็นความผิดในครั้งนี้ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535  คือ ผลิตและจำหน่ายวัตถุอันตรายไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   ผลิตและจำหน่ายวัตถุอันตรายไม่ขึ้นทะเบียน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี   ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยไม่ขึ้นทะเบียนโทษมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 4 หมื่น–2 แสนบาท โดยเจ้าหน้าที่ได้อายัดของกลางไว้ทั้งหมดและรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป 

สารชีวภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช  จะต้องขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรโดยต้องผ่านการประเมินข้อมูลพิษวิทยา การขอนำเข้าหรือผลิตตัวอย่างเพื่อวิเคราะห์คุณภาพของผลิตภัณฑ์  และทำการทดลองประสิทธิภาพ   ซึ่งการกำหนดหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนดังกล่าวเพื่อให้เกษตรกรได้ใช้สารที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการกำจัดศัตรูพืช  ป้องกันไม่ให้ผลผลิตเสียหาย และที่สำคัญต้องเป็นสารที่มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม จึงขอเตือนเกษตรกรอย่าได้หลงเชื่อคำกล่าวอวดอ้างสรรพคุณต่างๆ   โดยก่อนที่จะซื้อสารชนิดใดมาใช้ก็ตามขอให้สังเกตุที่ฉลากต้องได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องจากกรมวิชาการเกษตร   หากสงสัยหรือทราบเบาะแสแหล่งผลิตและจำหน่ายปุ๋ย  หรือวัตถุอันตรายทางเกษตรที่ผิดกฎหมายขอให้แจ้งได้ที่กลุ่มสารวัตรเกษตร  กรมวิชาการเกษตร โทร.0-2 940-5434” 


แหล่งที่มา

กลุ่มประชาสัมพันธ์กรมวิชาการเกษตร
© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู