ข่าวสาร
Q02 การแปรรูปอาหาร
11 กันยายน 2562
มข.โชว์เมนูแปรรูปจิ้งหรีด ทั้งคุกกี้-ข้าวเกรียบ-น้ำพริกตาแดง จากจิ้งหรีดผง

มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) โดย ผศ.ดร.สมสมร แก้วบริสุทธิ์ ภาควิชาประมง คณะเกษตรศาสตร์ และคณะ วิจัยหาทางแปรรูปจิ้งหรีด ซึ่งทำได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารคาวหรืออาหารหวาน อย่างน้ำพริกจิ้งหรีด ข้าวเกรียบจิ้งหรีด คุกกี้จิ้งหรีด
       เริ่มแรกมีการทำวิจัยเรื่องการเลี้ยงแมลงเพื่อการบริโภคของภาควิชากีฎวิทยา จากนั้น มข.ได้ออกไปอบรมให้เกษตรกรที่อยู่รายรอบ ทำให้เกิดอุตสาหกรรมเลี้ยงจิ้งหรีดขึ้น บางโรงที่เลี้ยงจิ้งหรีดมีกำลังผลิตถึงวันละ 1-2 ตันต่อวัน กระจายขายอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออันเป็นพื้นที่ที่คนนิยมกินแมลง แล้วส่งไปขายที่ภาคกลาง สมุทรสาคร ที่เป็นแหล่งซื้อแมลงที่ใหญ่มาก จิ้งหรีดสามารถนำมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าได้ แต่ก่อนจับจิ้งหรีดมาแปรรูปควรงดอาหาร 24 ชั่วโมง หรือเปลี่ยนอาหารที่จิ้งหรีดกิน โดยเปลี่ยนจากหัวอาหารมาเป็นอาหารธรรมชาติ เช่น ฟักทองและผัก 2-3 วันก่อนจับ เพื่อให้จิ้งหรีดถ่ายมูลออกหมดและทางเดินอาหารสะอาด วิธีการนี้สามารถลดกลิ่นหัวอาหารไม่พึงประสงค์ในจิ้งหรีดได้ จากนั้นนำจิ้งหรีดไปล้างอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก การล้างน้ำนี้อาจใช้น้ำธรรมดาที่มีคุณภาพเทียบเท่าน้ำบริโภค หรืออาจใช้น้ำคลอรีนความเข้มข้น 100 ppm. แล้วจึงนำจิ้งหรีดไปต้มในน้ำเดือด 5 นาที สะเด็ดน้ำร้อนแล้วบรรจุถุงทันที ไม่ควรนำจิ้งหรีดที่สุกสะอาดนี้ไปล้างน้ำซ้ำอีก
       หลังจากนั้นนำน้ำแข็งโปะทับถุงบรรจุจิ้งหรีดทันทีเพื่อให้อุณหภูมิลดลงอย่างรวดรวดเร็ว หากบรรจุจิ้งหรีดในถุงปริมาณมากความเย็นจะเข้าถึงจิ้งหรีดที่อยู่ตรงกลางได้ช้า ผู้ผลิตควรพิจารณาใช้ถุงขนาดใหญ่ขึ้นแล้วเกลี่ยจิ้งหรีดให้กระจายเพื่อให้ถุงแบนลง ความเย็นจะเข้าถึงจิ้งหรีดที่อยู่ด้านในได้ง่าย หากต้องการเก็บรักษาจิ้งหรีดต้มควรเก็บในสภาพแช่เย็นหรือแช่แข็ง หากไม่มีตู้แช่ควรดองน้ำแข็ง การเก็บจิ้งหรีดต้มสุกในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 4-6 องศาเซลเซียส สามารถเก็บได้ 5-7 วัน หากดองน้ำแข็งจะมีอายุ 7-10 วัน จิ้งหรีดที่ผ่านการต้มและบรรจุอย่างถูกสุขลักษณะอาจมีอายุการเก็บรักษาในน้ำแข็งยาวนานถึง 15 วัน อัตราส่วนของน้ำแข็งต่อปริมาณจิ้งหรีดที่แนะนำ คือ 2 ต่อ 1 โดยน้ำหนัก (น้ำแข็ง 2 ก.ก.ต่อจิ้งหรีด 1ก.ก.) ควรมีการถ่ายน้ำที่เกิดจากการละลายของน้ำแข็งและเติมน้ำแข็งใหม่เป็นครั้งคราว ลักษณะการเทน้ำแข็งในถังเก็บ แนะนำให้เทนำแข็งที่ก้นถังก่อน แล้วเรียงถุงบรรจุจิ้งหรีดหนึ่งชั้น จากนั้นเทน้ำแข็งสลับกับถุงจิ้งหรีดไปเรื่อยๆ จนเต็มถัง การบรรจุถุงจิ้งหรีดสลับกับน้ำแข็งลักษณะนี้ทำให้ทำให้อุณหภูมิระหว่างการเก็บรักษาต่ำประมาณ 0-2 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เก็บจิ้งหรีดได้ยาวนานขึ้น อย่างไรก็ตามหากต้องการนำจิ้งหรีดไปแช่แข็ง ควรพิจาณาเลือกถุงบรรจุที่หนาและสามารถทนอุณหภูมิต่ำได้ดี การแช่แข็งเป็นการทำให้จิ้งหรีดมีอุณหภูมิต่ำลงกว่า -2 องศาเซลเซียส เมื่อจิ้งหรีดจะอยู่ในสภาพแข็งแล้ว ต้องเก็บไว้ที่ตู้แช่หรือโกดังที่มีอุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียสหรือต่ำกว่านี้จนกว่าจะถึงมือผู้บริโภค อายุการเก็บรักษาจิ้งหรีดในสภาพแช่แข็งประมาณ 6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นกับอุณหภูมิห้องเก็บ ผู้แปรรูปจิ้งหรีดแช่แข็งปริมาณมากควรพิจารณาใช้การแช่แข็งแบบบล๊อก (Block frozen) หากไม่แช่แข็งบล๊อกควรใช้การบรรจุถุงสุญญากาศเพื่อทำให้จิ้งหรีดอัดตัวกันแน่นเป็นก้อนแล้วจึงนำไปแช่แข็ง การแช่เยือกแข็งทั้งสองแบบนี้สามารถลดการแตกหักของตัวและขาจิ้งหรีดหลังการละลาย ทำให้ตัวจิ้งหรีดสมบูรณ์สวยงาม
       ผศ.ดร. สมสมรระบุว่า สาเหตุที่ชาวบ้านนิยมเลี้ยงจิ้งหรีดเป็นอันดับหนึ่งเนื่องจากเลี้ยงง่าย ผลผลิตคาดเดาได้ เพราะมีความสม่ำเสมอ แต่ก็มีบางช่วงที่เลี้ยงแล้วราคาจะตกลง โดยเฉพาะช่วงที่แมลงออกเยอะๆ อย่างหน้าฝนและหน้าร้อน นี่เองจึงเป็นปัญหาที่ทำให้ต้องหาทางแก้ เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้ เลยพัฒนาเป็นจิ้งหรีดผงแล้วแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ น้ำพริก แล้วนำไปใส่ในคุกกี้ใส่ในข้าวเกรียบด้วย เพื่อเพิ่มโปรตีนให้กับเด็ก พร้อมทำเป็นบะหมี่ ซึ่งพอทำออกมาแล้วก็ไปสอนชาวบ้าน”
       หลังจากมีการทำจิ้งหรีดผงปรากฏว่ามีผู้ประกอบการสนใจ แต่ไม่อยากจะทำเอง อยากจะให้เกษตรทำให้ ในขณะที่เกษตรกรเองต้องการที่จะเลี้ยงอย่างเดียวเพราะได้เงินง่าย ไม่อยากเสียเวลาไปกับการแปรรูป เกษตรกรมักนิยมแปรรูปตอนที่จิ้งหรีดราคาตกต่ำเท่านั้น ซึ่งอันที่จริงแล้วจิ้งหรีดผงอยู่ในกระแสโลก เพราะมีการรณรงค์ให้กินแมลงเนื่องจากเป็นแหล่งโปรตีนที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่มีราคาถูก ผศ.ดร.สมสมรให้ข้อมูลอีกว่า พอทำเป็นจิ้งหรีดผงแล้วนำไปใส่ในคุกกี้ ฝรั่งในเมืองไทยที่เห็นลู่ทางทำเงินก็ติดต่อให้เกษตรกรอบจิ้งหรีดทำเป็นจิ้งหรีดผงส่งไปที่ภูเก็ต จากนั้นทำเป็นโปรตีนในช็อคโกแลต เป็นโปรตีนแท่งสำหรับนักปีนเขา ส่วนบ้านเราทำใส่ข้าวเกรียบให้เด็กไทยกิน


แหล่งที่มา

เทคโนโลยีชาวบ้าน
https://www.technologychaoban.com/marketing/article_3782
© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู