ถาม-ตอบ
การผลิตพืช
ถามเมื่อ 12 กรกฎาคม 2564
ต้นกานพลูถ้าปลูกที่ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ปลูกได้ไหม และดอกจะออกตามปกติไหม

ตอบ คุณ Boonchai t สามารถปลูกได้ค่ะ แต่พื้นที่เหมาะสมในการปลูกควรมีลักษณะพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้น ฝนตกชุกตลอดปี มีความชื้นสูง เช่น ภาคใต้และภาคตะวันออกของประเทศ เช่น จันทบุรี ตราด ชุมพร ระนอง ลองปรับปรุงดินให้เหมาะสมก่อนปลูกก็ช่วยให้เจริญเติบโตได้ดีขึ้นค่ะ กานพลูเป็นพืชเมืองร้อนเจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีลักษณะร่วน (Loams) มีความอุดมสมบูรณ์สูง หน้าดินลึก ลาดเท (Slope) เล็กน้อย ปริมาณอินทรียวัตถุสูง และระบายน้ำดี อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นอกจากดิน ลักษณะดังกล่าวแล้วดินร่วนเหนียว (Clayey loans) ดินร่วนทราย (Sandy loans) ก็สามารถปลูกได้ผลดี วิธีปลูก การปลูกกานพลูนิยมใช้เมล็ดปลูกมากกว่าการตอนกิ่ง ต่อกิ่ง หรือชำกิ่งอ่อน เพราะจะทำให้รากกานพลูแข็งแรงมากกว่า แต่การปลูกด้วยเมล็ดจะต้องระมัดระวังการเลือกใช้เมล็ดเพราะเมล็ดกานพลูสูญเสียความงอกได้เร็วมากๆ ดังนั้นควรเลือกใช้เมล็ดที่เก็บใหม่ที่สุกและมีสีดำเท่านั้น วิธีการปลูกคือ - นำเมล็ดเก็บใหม่ไปแช่น้ำ 3 ชั่วโมง หลังจากครบ 3 ชั่วโมง ให้ลอกเอาเนื้อหุ้มเมล็ดออก และนำไปเพาะในกระบะเพาะ - หลังจากที่ต้นกานพลูงอกสูง 5-7 ซม. (ประมาณ 7 วัน) ให้ย้ายต้นกานพลูลงถุงชำ - หมั่นรถน้ำ ดูแลกานพลูจนอายุ 12 เดือน (ต้นสูง 50 ซม.) - เตรียมดินปลูกด้วยหลุมขนาด 50*50*50 ซม. ตากดิน 7 วัน เพื่อกำจัดโรคและแมลงบางส่วน - ใส่ปุ๋ยคอก 5 กก. รองก้อนหลุมที่เตรียมไว้ - ย้ายต้นกานพลูลงหลุม และกลบดิน - ทำไม้ค้ำเพื่อป้องกันลม และใส่ใบมะพร้าวหรือใช้วัสดุอื่นสร้างร่มเงาให้ในระยะแรก การดูแลกานพลู สภาพแวดล้อม กานพลูเป็นพืชที่เติบโตได้ดีในเขตร้อนชื้นและชอบความชื้นสูง ชอบพื้นที่ที่มีฝนตกสม่ำเสมอตลอดปี หรือมีปริมาณน้ำฝนประมาณ 2,000 – 3,000 มิลลิเมตรต่อปี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 24 – 25 องศาเซลเซียส แสง กานพลูนิยมปลูกร่วมกับต้นไม้อื่นๆ เช่น ต้นจันทน์เทศ ต้นหมาก เพื่อช่วยพรางแสงหรือให้ร่มเงา เพราะหากปลูกกานพลูในที่โล่งแจ้ง มีแสงมาก จะทำให้กิ่งกานพลูแห้งง่าย จนถึงอายุ 3 ปี จึงจะไม่ต้องอาศัยร่มเงา น้ำ ควรมีการให้น้ำในระยะแรกที่มีการปลูก ในหน้าแล้งหรือช่วงที่ฝนทิ้งช่วง ดิน กานพลูชอบดินร่วนปนทราย หน้าดินลึกมีอินทรรีย์วัตถุสูง มีการระบายน้ำได้ดี หากระบายน้ำได้ไม่ดีจพทำให้กานพลูสลัดใบและชะงักการเติบโต ความเป็นกรดของดินที่ต้องการอยู่ที่ 5.5-6.5 ph ปุ๋ย กานพลูควรให้ปุ๋ยหลังจากปลูกได้ประมาณ 4 เดือน ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักอัตราต้นละ ½ – 1 ปี๊บ และเมื่อต้นกานพลูอายุ 2 ปี ควรใส่ปุ๋ยคอก 1-3 ปี๊บต่อต้น ร่วมกับปุ๋ยสูตร 15-15-15 ปริมาณ 1-2.5 กก./ต้น ใส่ปีละ 2-3 ครั้ง การตัดแต่งกิ่ง กานพลูไม่มีกานตัดแต่งทรงพุ่ม ยกเว้นในกรณีที่มีกิ่งกระโดงต้องตัดทิ้ง เพื่อให้ลำต้นมีต้นหลักเพียงต้นเดียว จะทำให้ทรงพุ่มแผ่ออกได้ดีดว่า และทำให้ผลผลิตสูงขึ้น การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชในแปลงปลูกทุก 4 เดือน โดยการถากหรือใช้เครื่องตัดหญ้า กานพลูจะถูกรบกวนได้ง่ายด้วยแมลง เพลี้ยหอยกานพลู ด้วยการดูดกินน้ำเลี้ยงที่กิ่ง ยอด และช่อดอก ซึ่งทำให้ผลผลิตลดลง สามารถใช้การป้องกันกำจัดศัตรูธรรมชาติด้วย แมลงเบียน Metophycus bearuensis การเก็บเกี่ยว ผลผลิตกานพลูสดเฉลี่ย 6–10 กก.ต่อต้นต่อปี หรือประมาณ 150–250 กก. ต่อไร่ กานพลูสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อ 5-6 ปีขึ้นไป จะออกดอกช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน และจะเก็บเกี่ยวได้ช่วง ธันวาคม – มกราคม ใช้เวลาตั้งแต่ออกดอกถึงเก็บเกี่ยวดอกตูมเป็นเวลาประมาณ 4 – 5 เดือน และหากปล่อยให้ดอกเจริญเป็นผล ผลจะสุกประมาณเดือนพฤษภาคมสามารถให้ผลผลิตสูงสุดเมื่อประมาณ 15-20 ปี และมีผลจนถึงอายุ 60 ปี การเก็บเกี่ยวดอกตูม ระยะเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม คือ เมื่อดอกเริ่มเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดง มีสีชมพูเรื่อๆ ดอกตูมเกินไปหรือบานจะมีคุณภาพไม่ดีสรรพคุณทางยาลดลงมาก และควรเลือกเก็บทีละดอกเพราะแต่ละดอกจะมีอายุไม่เท่ากัน และระมัดระวังไม่ให้กิ่งบอบช้ำ เพราะหากกิ่งได้รับการกระทบกระเดือนจะทำให้ออกดอกได้น้อย หรือไม่ออกดอกเลย


คำถามแนะนำสำหรับคุณ

© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู