ข่าวสาร
H10 ศัตรูพืช
18 มิถุนายน 2568
กับดักแมลงพลังงานแสงอาทิตย์: นวัตกรรมเพื่อเกษตรยั่งยืนในนาข้าว KU
 
การจัดการศัตรูพืชในนาข้าวเป็นความท้าทายสำคัญในการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน การพึ่งพาสารเคมีอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของเกษตรกร กับดักแมลงพลังงานแสงอาทิตย์ จึงเป็นนวัตกรรมทางเลือกที่ช่วยลดการใช้สารเคมี ด้วยการใช้พลังงานสะอาดในการล่อและดักจับแมลงศัตรูพืชที่ออกหากินเวลากลางคืน บทความนี้นำเสนอหลักการทำงาน ประสิทธิภาพการควบคุมศัตรูพืช และผลกระทบเชิงบวกต่อระบบนิเวศในนาข้าว KU ที่มุ่งสู่เป้าหมาย เกษตรยั่งยืนและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
 
ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้นำอุปกรณ์กับดักแมลงที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ มาทดลองใช้ในแปลงปลูกข้าวสายพันธุ์ Rainbow Rice เพื่อควบคุมแมลงศัตรูพืชที่ออกหากินในช่วงกลางคืน เช่น ผีเสื้อหนอนห่อใบข้าว เพลี้ย และแมลงบั่ว โดยอาศัยแสงยูวีจากหลอดไฟล่อแมลงให้ตกลงในถ้วยเก็บซึ่งบรรจุน้ำไว้ เป็นวิธีที่ไม่ใช้สารเคมีและสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องด้วยพลังงานสะอาด
 

หลักการทำงานของกับดักแมลงพลังงานแสงอาทิตย์ 
- ใช้ หลอดไฟ LED ที่ปล่อยแสงล่อแมลงศัตรูพืชในเวลากลางคืน (โดยเฉพาะแมลงที่บินเข้าหาแสง เช่น เพลี้ย หนอนกอ แมลงปีกแข็งบางชนิด)
- ใช้ พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ จึงไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากสายส่ง
- แมลงที่บินเข้าหาแสงจะถูกล่อเข้าสู่ถังดักหรือแผ่นกาวภายในเครื่อง
- สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติตามช่วงเวลาการออกหากินของแมลงเป้าหมาย

ตัวอย่างการใช้งานในนาข้าว
- ติดตั้งกับดักแมลงใน พื้นที่วิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพในการควบคุมประชากรแมลงศัตรูพืช
- พบว่าสามารถลดความหนาแน่นของแมลงศัตรูพืช เช่น หนอนกอ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ได้เฉลี่ย 30-50% เมื่อเปรียบเทียบกับแปลงควบคุม
- ช่วยฟื้นฟูประชากรแมลงประโยชน์ เช่น ด้วงเต่ากินเพลี้ย แมงมุม และแมลงห้ำ
- เป็นแนวทางที่เกษตรกรสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในระดับไร่นาได้จริง

นวัตกรรมนี้ไม่เพียงช่วยลดต้นทุนการใช้สารกำจัดศัตรูพืชให้กับเกษตรกร แต่ยังช่วยลดการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมและเสริมสร้างระบบนิเวศในนาให้กลับมาสมดุล นอกจากนี้ยังส่งเสริมแนวทางการผลิตข้าวปลอดภัยที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
 
ก้าวเล็ก ๆ ของเทคโนโลยีจากคนรุ่นใหม่ กำลังกลายเป็นก้าวสำคัญของการเกษตรไทยสู่ความยั่งยืน

แหล่งที่มา

ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว Rice Science Center
https://www.facebook.com/Rice.sci.center
© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู