การเผาตอซังและเศษพืชหลังการเก็บเกี่ยวเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน เนื่องจากก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) และก๊าซเรือนกระจก ด้วยเหตุนี้ นักวิจัยจึงพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อช่วยย่อยสลายตอซังข้าวให้กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ โดยหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความสนใจคือการใช้จุลินทรีย์บาซิลลัส ซึ่งสามารถช่วยลดการเผาตอซัง เพิ่มคุณภาพดิน และส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืน
การวิจัยและผลการทดลอง ดร.วิเชียร ยงมานิต อาจารย์ประจำภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ร่วมมือกับมูลนิธิชัยพัฒนา และเครือข่ายนวัตกรรมการเกษตรระดับภูมิภาค (Regional Agriculture Innovation Network: RAIN) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ในการทดลองใช้จุลินทรีย์บาซิลลัสสำหรับย่อยสลายตอซังข้าว
ผลการทดลองภาคสนามแสดงให้เห็นว่า ภายในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ดินมีคุณภาพดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ปริมาณก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ลดลง และจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์เพิ่มขึ้นภายใน 7 วัน นอกจากนี้ ฟางข้าวยังย่อยสลายได้เร็วขึ้น ทำให้สามารถเตรียมดินสำหรับการเพาะปลูกรอบใหม่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
การประยุกต์ใช้ในแปลงนาออร์แกนิก จากการทดลองในแปลงนาข้าวออร์แกนิกที่อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี พบว่า การใช้จุลินทรีย์บาซิลลัสช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวได้ประมาณ 5% ลดการใช้ปุ๋ยเคมี และช่วยย่อยสลายฟางข้าวเป็นธาตุอาหารในดิน นอกจากนี้ ยังมีสายพันธุ์จุลินทรีย์พิเศษที่สามารถลดการปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพในการก่อภาวะโลกร้อนสูง
การพัฒนานวัตกรรมสู่ภาคเกษตรกรรม นวัตกรรมจุลินทรีย์บาซิลลัสที่ถูกพัฒนาขึ้นนี้อยู่ภายใต้การสนับสนุนของ RAIN และ SAS Group โดยมีการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ "Soil Digest" ซึ่งเป็นจุลินทรีย์สูตรเฉพาะสำหรับย่อยสลายตอซังข้าวหลังการเก็บเกี่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดปัญหาการเผา ลดมลพิษทางอากาศ และเพิ่มปริมาณสารอินทรีย์ในดิน ทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตและปรับปรุงคุณภาพดินเพื่อการเพาะปลูกในระยะยาว
นวัตกรรมจุลินทรีย์บาซิลลัสเป็นแนวทางที่มีศักยภาพในการลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 และก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มคุณภาพดินและลดการใช้ปุ๋ยเคมี ส่งเสริมเกษตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความสำเร็จของการวิจัยนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของภาคเกษตรกรรมไทยในการมุ่งสู่ความยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว