ปลูกกล้วยน้ำว้าเขียวตัดใบขายได้ตลอดทั้งปี กำไรทะลุหลักหมื่นต่อไร่

การปลูกกล้วยตัดใบเป็นอาชีพที่ทำเงินได้ดีสำหรับเกษตรกรไทย โดยเฉพาะในยุคที่มีการรณรงค์ลดการใช้พลาสติก ใบตองกล้วยซึ่งเป็นวัตถุดิบธรรมชาติจึงได้รับความนิยมในการนำไปใช้ห่อขนม ทำกระทง ถาด พานใบตอง หรือใช้ในงานประดิษฐ์ต่างๆ เช่น บายศรี และกระทงดอกไม้
มีการแบ่งใบกล้วยเป็น 2 ประเภทหลัก
1. กล้วยน้ำว้า ใบสีเขียวอ่อน หนาไม่มากและเปราะบาง เหมาะสำหรับห่อขนมขนาดเล็ก
2. กล้วยตานี มีหลายชนิด แต่ที่นิยมปลูกเพื่อขายใบคือ กล้วยตานีหม้อ เพราะมีใบใหญ่ หนา และทนทานต่อสภาพอากาศและโรคพืช
ในตำบลย่านมัทรี อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ มีแปลงใหญ่กล้วยตัดใบ ซึ่งเป็นแปลงเดียวในจังหวัดที่เกษตรกรรวมตัวกันปลูกกล้วยน้ำว้าดง (น้ำว้าเขียว) โดยตั้งกลุ่มแปลงใหญ่กล้วยตัดใบ เพื่อขยายตลาดและลดการพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง

การปลูกและดูแลรักษา
เกษตรกรจะปลูกหน่อพันธุ์กล้วย และเมื่อต้นกล้วยมีอายุ 7-8 เดือน จะเก็บเกี่ยวใบกล้วย โดยตัดใบและแยกออกจากก้าน มัดใบเป็นชุดละ 10 พับ น้ำหนัก 10 กิโลกรัม การเก็บเกี่ยวต้องทำในช่วงเช้า 06.00-08.00 น. หรือช่วงเย็น 17.00-18.00 น. เพื่อป้องกันไม่ให้ใบกล้วยแตกจากความชื้น
ต้นทุนการผลิต
- ปีแรก ต้นทุนการปลูกกล้วยประมาณ 9,875 บาท/ไร่
- ปีถัดไป ต้นทุนเก็บเกี่ยวเฉลี่ย 13,933.75 บาท/ไร่
- ผลผลิตเฉลี่ย 3,360 กิโลกรัม/ไร่/ปี
- ราคาขาย: 8-10 บาท/กิโลกรัม หรือ 11-14 บาท/กิโลกรัมในช่วงขาดแคลน (ฤดูแล้ง)
- รายได้จากการขายใบกล้วย: เฉลี่ย 26,880 บาท/ไร่/ปี
- กำไรเฉลี่ย 12,946.25 บาท/ไร่/ปี
การขายและตลาด
ใบกล้วยจะถูกขายให้พ่อค้าคนกลางร้อยละ 85 และส่วนที่เหลือจะขายตรงไปยังตลาด เช่น ตลาดสี่มุมเมือง ซึ่งสามารถขายได้ในราคาสูงกว่าผ่านพ่อค้าคนกลางประมาณ 3-4 บาท/กิโลกรัม

หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลูกกล้วยตัดใบ สามารถติดต่อ นางนารี ลอยบัณฑิต โทร. 08 5730 9552 หรือสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 12 นครสวรรค์ โทร. 0 5680 3525