มะเขือเทศเชอรี่เป็นพืชที่เหมาะสำหรับการบริโภคสด โดยเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิระหว่าง 15-25 องศาเซลเซียส และช่วงแสงไม่เกิน 12 ชั่วโมงต่อวัน อย่างไรก็ตาม หากอุณหภูมิสูงกว่า 32.2 องศาเซลเซียส หรือ ต่ำกว่า 12.8 องศาเซลเซียส จะส่งผลให้ละอองเกสรเป็นหมันและไม่สามารถติดผลได้
เพื่อรับมือกับปัญหาภาวะโลกรวน ศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อน ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้ปรับปรุงพันธุ์มะเขือเทศเชอรี่ทิพย์ 2 พันธุ์ คือ KUKPS 01 และ KUKPS 02 ที่มีคุณสมบัติต้านทานโรคใบหงิกเหลืองและให้ผลผลิตคุณภาพสูง
ลักษณะเด่นของพันธุ์มะเขือเทศเชอรี่ทิพย์
-
พันธุ์ KUKPS 01
- ผลมีลักษณะรูปหัวใจ น้ำหนักเฉลี่ย 30.40 กรัม
- ให้ผลผลิต 3.73 ตันต่อไร่
- จำนวนผล 32-33 ผลต่อกิโลกรัม
- ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีแดง เนื้อหนา 4.80 มิลลิเมตร
- ต้านทานโรคใบหงิกเหลือง
-
พันธุ์ KUKPS 02
- ผลใหญ่กว่ามะเขือเทศเชอรี่ทั่วไป น้ำหนักเฉลี่ย 25.86 กรัม
- ให้ผลผลิต 3.20 ตันต่อไร่
- จำนวนผล 38-39 ผลต่อกิโลกรัม
- ผลลักษณะรูปหัวใจ เนื้อแน่น ความหนาเนื้อ 4.78 มิลลิเมตร
- ต้านทานโรคใบหงิกเหลือง
ข้อได้เปรียบ
มะเขือเทศทั้งสองพันธุ์นี้เหมาะสำหรับการบริโภคสด มีรสชาติอร่อย เนื้อแน่น และทนทานต่อโรค เหมาะสำหรับการเพาะปลูกในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง
เกษตรกรที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อาจารย์อัครชัย โสมกุล ศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โทร. 064-246-9551
การพัฒนาพันธุ์มะเขือเทศเชอรี่ทิพย์นี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมเกษตรกรไทยในการผลิตพืชคุณภาพสูงและต้านทานต่อภาวะโลกรวนอย่างยั่งยืน