ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการพัฒนาห่วงโซ่การผลิตวัวเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรในภูมิภาคให้ก้าวหน้าและยั่งยืนยิ่งขึ้น
มุ่งยกระดับการผลิตวัวสู่อุตสาหกรรมที่เป็นระบบ
รายงานจากสำนักข่าวซินหัว ระบุว่าบันทึกความเข้าใจดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสร้างความทันสมัยในภาคการผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะการผลิตวัวที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ซึ่งรวมถึงมาตรฐานด้านการส่งออกสินค้า ทั้งสองประเทศจะเน้นการนำเข้าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์วัว และลูกวัวสายพันธุ์คุณภาพสูง เพื่อเลี้ยงให้สมบูรณ์พร้อมสำหรับการเข้าสู่ห่วงโซ่การผลิต นอกจากนี้ยังจะส่งเสริมให้เกษตรกรท้องถิ่นในพื้นที่เพาะปลูกพืชอาหารสัตว์ เพื่อสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานที่ครอบคลุมและยั่งยืน
จัดตั้งศูนย์ขยายพันธุ์และฟาร์มเลี้ยงวัวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในแผนความร่วมมือครั้งนี้ ไทยและลาวยังได้ตกลงที่จะจัดตั้งศูนย์ขยายพันธุ์วัวที่ทันสมัย มีเทคโนโลยีการเลี้ยงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขยายสายพันธุ์วัวที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาด โดยศูนย์ดังกล่าวจะทำหน้าที่สนับสนุนงานวิจัย พัฒนาเทคนิคการเพาะพันธุ์ และเชื่อมโยงฟาร์มเลี้ยงวัวในทั้งสองประเทศ เพื่อสร้างเครือข่ายการผลิตที่มีประสิทธิภาพ
ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากและอุตสาหกรรมการเกษตรร่วมกัน
โครงการนี้คาดว่าจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพด้านเศรษฐกิจให้แก่เกษตรกรในทั้งสองประเทศ โดยการเพิ่มรายได้จากการเลี้ยงวัวในระบบที่ได้มาตรฐาน ขณะเดียวกันยังจะช่วยสร้างงานในชุมชนเกษตรกรรม รวมถึงเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดส่งออกระดับสากล
สู่ความยั่งยืนในภูมิภาคและการสร้างเศรษฐกิจเกษตรที่แข็งแกร่ง
ผู้เชี่ยวชาญมองว่าความร่วมมือครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานเศรษฐกิจการเกษตรในภูมิภาคให้มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมปศุสัตว์ของทั้งสองประเทศไปสู่มาตรฐานระดับโลก
ด้วยความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างไทยและลาว การพัฒนาห่วงโซ่การผลิตวัวเชิงอุตสาหกรรมจึงไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของภาคการเกษตรในระดับภูมิภาคอีกด้วย