ระวังเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดหนัก พื้นที่ระบาด 30 จังหวัด (กำแพงเพชร เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ น่าน พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอนลำพูน สุโขทัย อุทัยธานี อุตรดิตถ์ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม เลย สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี สระบุรี ฉะเชิงเทรา ตราด ปราจีนบุรีสระแก้ว กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี) จำนวน 50,485 ไร่
เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลทำลายต้นข้าวทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยการดูดกินน้ำเลี้ยงทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัย บริเวณโคนต้นข้าวระดับเหนือผิวน้ำ ทำให้เซลส์ท่อน้ำท่ออาหารเสียหายต้น ข้าวแสดงอาการใบเหลืองแห้งลักษณะคล้ายถูกน้ำร้อนลวก แห้งตายเป็นหย่อม ๆ เรียกอาการไหม้ (Hopperburn) โดยทั่วไปพบอาการไหม้ในระยะข้าวแตกกอถึงระยะออกรวง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลยังเป็นพาหะนำเชื้อไวรัส โรคใบหงิก (Rice raggedstunt) มาสู่ต้นข้าว ทำให้ต้นข้าวมีอาการแคระแกร็น ต้นเตี้ย ใบสีเขียวแคบและสั้น ใบแก่ช้ากว่าปกติ ปลายใบบิดเป็นเกลียว
แนวทางป้องกันกำจัด
1) เริ่มจากการใช้พันธุ์ต้านทาน และไม่ควรปลูกพันธุ์เดียวติดต่อกันเกิน 4 ฤดูปลูก
2) ควรหมั่นตรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันกำจัดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
3) ควรกำจัดวัชพืชรอบ ๆ แปลง เนื่องจากเป็นแหล่งอาศัยของเพลี้ยเช่นเดียวกัน
4) การใส่ปุ๋ยไนโตรเจนมากเกินความจำเป็น เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดได้
5) ใช้เชื้อราบิวเวอเรีย อัตรา 1 กก. (เชื้อสด) ต่อน้ำ 20 ลิตร
6) การใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัด เมื่อพบจำนวนเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลมากกว่า 10 ตัวต่อกอ ปัจจุบันสารที่มีประสิทธิภาพสูง ได้แก่ สารไพมีโทรซีน (กลุ่ม 9B) และสารฟลอมิคามิค (กลุ่ม 29) รองลงมา ได้แก่ สารบูโพรเฟซิน (กลุ่ม 16), สารอิทิโพล (กลุ่ม 2) สารในกลุ่ม 4 เช่น ไดโนทีฟูแรน อิมิดาคลอพริด ไทอะมีโทแซม และสารในกลุ่ม 1 เช่น ไอโซโพคาร์บ ฟีโนบูคาร์บ เป็นต้น
เทคนิคการพ่นสาร ควรเน้นพ่นไปยังส่วนโคนของต้นข้าว ดังนั้นผู้พ่นควรกดหัวฉีดลงให้มากที่สุดขณะพ่นสารหรือการใช้โดรนพ่นสารจึงเหมาะสมในการควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ในพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรงอาจมีการผสมสาร 2กลุ่มกลไกลการออกฤทธิ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ตัดวงจรการระบาดไปก่อน (แต่ควรดูความเข้ากันได้ของสารทางกายภาพและประสิทธิภาพด้วย) และไม่ควรใช้สารเคมีชิดเดียวกันต่อเนื่องเกิน 3 ครั้ง
***ห้ามใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่ทำให้เกิดการเพิ่มระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (Resurgence) เช่น สารกลุ่ม3บางตัว (ไพรีทรอยด์) และกลุ่ม 1 บางตัว (ออแกโนฟอสเฟสและคาร์บาเมต) และกลุ่ม 6 อะบาเมกติน นอกจากนี้สามารถสังเกตุได้ที่ฉลากมุมซ้ายบนจะเขียนว่าห้ามใช้ในนาข้าว