หอยขมยักษ์รัตนะกำลังเป็นที่สนใจในวงการเกษตรและผู้ที่สนใจเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจมากขึ้น เนื่องจากหอยชนิดนี้มีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าหอยขมทั่วไปมาก และมีการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว ทำให้หลาย ๆ คนที่ต้องการสร้างรายได้เลี้ยงเป็นอาชีพทำเงิน
คุณเบียร์-พรพิรุณ วงษ์ละคร ได้เล็งเห็นช่องทางการสร้างรายได้จากการเลี้ยงหอยขมยักษ์รัตนะ จึงได้นำมาทดลองเลี้ยงจนประสบผลสำเร็จ พร้อมทั้งเพาะพันธุ์พ่อแม่พันธุ์ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งทำตลาดทางช่องทางออนไลน์ จนลูกค้าให้ความสนใจและสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง จนเวลานี้เรียกได้ว่าหอยขมยักษ์รัตนะที่ฟาร์มของคุณเบียร์ผลิตไม่ทันจำหน่ายกันเลยทีเดียว
คุณเบียร์เล่าว่า เดิมทีทำงานประจำ ต่อมาได้ตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่บ้านเกิด และทดลองทำอาชีพหลากหลาย อย่างเช่นรับงานฟรีแลนซ์ทั่วไปในช่วงระยะหนึ่ง พร้อมกับทดลองปลูกต้นไม้จำหน่ายทางออนไลน์เล็ก ๆ น้อย ๆ และเมื่อได้มามาทดลองทำงานทางเกษตรเรื่อย ๆ และอยากมีรายได้เสริมจากหลาย ๆ ช่องทาง ทำให้ได้มาศึกษาในเรื่องการเลี้ยงหอยขมยักษ์รัตนะ จนสามารถขยายพันธุ์ได้เร็วจนมองน่าจะสร้างรายได้เป็นอาชีพหลักได้
“ความพิเศษของหอยชนิดนี้ก็คือ หอยขมยักษ์รัตนะค่อนข้างที่จะมีตัวใหญ่ ขนาดตัวโตเต็มวัยจะเท่าไข่ไก่เลยค่ะ ไซซ์ประมาณสัก 15 ตัวต่อกิโลกรัม ส่วนในเรื่องของเนื้อหอยถึงตัวจะใหญ่เนื้อเขาก็จะไม่ได้เหนียว เนื้อทำอาหารกินได้ง่าย เนื้อมีติดหวาน ๆ นิดนึง อีกอย่างหนึ่งก็คือออกลูกเยอะ แล้วก็โตเร็ว ช่วงที่มาทดลองเลี้ยงทำให้ได้มองว่าอันนี้น่าจะเป็นจุดเด่นในการเลี้ยงขยายพันธุ์ เหมาะกับการสร้างรายได้ให้เรา”
การหาข้อมูลการเลี้ยงหอยขมยักษ์รัตนะให้ประสบผลสำเร็จนั้น คุณเบียร์เล่าว่า ในช่วงแรกศึกษาหาข้อมูลจากหลายที่มากพอสมควร ทั้งจากในกลุ่มคนเลี้ยง รวมไปถึงศึกษาข้อมูลไปถึงแหล่งพ่อแม่พันธุ์ที่คุณเบียร์ซื้อมาเลี้ยงในช่วงแรก เพราะหอยขมยักษ์รัตนะยังไม่เคยมีคนเลี้ยงในประเทศไทยมากนัก การศึกษาข้อมูลให้รอบด้านจึงเป็นสิ่งที่คุณเบียร์ให้ความสำคัญ
สำหรับอุปสรรคเริ่มแรกในการเลี้ยงนั้น คุณเบียร์บอกว่าหอยมีตายบ้างในช่วงแรก เกิดจากการลองผิดลองถูก อีกทั้งในเรื่องของการจัดการน้ำยังไม่ลงตัว พร้อมทั้งใส่ของที่อยู่ภายในบ่อให้เรียนแบบและดูเหมือนธรรมชาติมากที่สุด
“ต้นทางสายพันธุ์ที่นำมาเลี้ยงคือที่จังหวัดหนองคาย จะไปซื้อแม่พันธุ์จากที่นั่นเลยค่ะ เพราะว่าที่นั่นเขาจะเป็นต้นตำรับ แต่ว่าเราก็หาข้อมูลอื่นมาประกอบด้วย ว่ามันจะเลี้ยงแล้วคนเขาจะบริโภคกันแบบไหน ทำอาหารอะไรกินได้บ้าง เพื่อให้การทำตลาดประสบผลสำเร็จมากขึ้น สามารถขายได้หลากหลายช่องทาง”
การเลี้ยงหอยขมยักษ์รัตนะเลี้ยงไม่ยาก มีพื้นที่น้อยก็เลี้ยงได้ สำหรับการเลี้ยงหอยขมยักษ์รัตนะให้ได้คุณภาพ สามารถใช้พื้นที่รอบบ้านเลี้ยงได้ ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงภายในบ่อดิน ส่วนภาชนะที่ใช้เลี้ยงจะเน้นเป็นกะละมังหรือกระบะผสมปูนขนาด 220 ลิตร เพราะนอกจากใส่น้ำได้จำนวนมากแล้ว วัสดุประเภทนี้ยังค่อนข้างมีความคงทนและเคลื่อนย้ายได้ง่าย
“การปล่อยหอยจะปล่อยแบบไม่หนาแน่นมาก เลี้ยงแบบให้ออกลูกได้ภายในอ่าง โดยปล่อยแม่พันธุ์อายุประมาณ 6-8 เดือน 10 ตัวต่อบ่อ เมื่อออกลูกจะได้ไม่แออัดจนเกินไป ส่วนอาหารที่ให้กินจะเป็นตะไคร่น้ำเป็นหลัก จะหาจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติมาให้กินทุกวัน หรือบางครั้งจะเป็นอาหารกุ้งบดผสมกับรำ ให้กินประมาณ 3 วันครั้ง เพื่อเพิ่มโปรตีนค่ะ
หลังจากปล่อยแม่พันธุ์หอยขมยักษ์รัตนะลงในบ่อได้ประมาณ 2 อาทิตย์ เมื่อหอยเริ่มปรับตัวกับสภาพน้ำได้แล้ว จะเริ่มออกลูก โดยเฉลี่ยแล้วแม่พันธุ์ 10 ตัว ใน 1 เดือน จะได้ลูกหอยประมาณ 300-500 ตัว มีลักษณะตัวเล็กเท่าเมล็ดมะขาม ไซซ์จะคละๆ กันไป จากนั้นเลี้ยงต่อไปอีกประมาณ 2-3 อาทิตย์ หอยจะเริ่มได้ไซซ์ขนาดเท่าเหรียญบาท เลี้ยงจนมีอายุประมาณ 2-3 เดือนก็จะได้ไซซ์ขนาดที่ใหญ่ขึ้นพร้อมส่งจำหน่ายได้
“พอหอยเริ่มมีขนาดที่ใหญ่เท่ากับไซซ์เหรียญบาทนะคะ ลูกหอยจะเริ่มเป็นตัวขาว ๆ จะให้กินอาหารกุ้งทุก 3 วันครั้ง จะคอยสังเกตเรื่องอาหารด้วยว่าถ้าเขากินไม่หมด หรือเหลือเยอะเกินไปต้องดูดออก ป้องกันน้ำเน่า และปั๊มน้ำที่ใช้จะใช้แบบที่มีกรองน้ำด้วย พร้อมกับเปลี่ยนน้ำเดือนละครั้ง และจะมีระบบกรองน้ำหมุนเวียนอยู่แล้ว”
เน้นขายหอยขมยักษ์รัตนะผ่านทางช่องทางออนไลน์ สำหรับการทำตลาดเพื่อขายหอมขมยักษ์รัตนะนั้น สามารถทำตลาดและขายได้ 2 ประเภท คือ สามารถขายสำหรับนำไปเพื่อประกอบอาหารและขายเป็นพ่อแม่พันธุ์ ซึ่งในหอยขมยักษ์รัตนะ 1 ตัว ไม่ต้องแยกตัวผู้หรือตัวเมีย เพราะหอยชนิดนี้มี 2 เพศในตัวเดียวกัน เพราะฉะนั้นเมื่อซื้อไป 1 ตัวก็สามารถออกลูกได้เหมือนกัน
การทำตลาดเพื่อขายหอยขมในช่วงแรกนั้น คุณเบียร์จะเน้นขายผ่านทางช่องทางออนไลน์ โดยจะโพสต์ขายพันธุ์หอยทางเพจอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้ปัจจุบันมีลูกค้าที่เชื่อถือและสั่งซื้อหอยเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ จนบางช่วงผลิตไม่ทันขายกันเลยทีเดียว
“การโพสต์ขายของเราจะเน้นเป็นตัวของตัวเอง นำเสนอในเรื่องที่เหมือนเราตั้งคำถามแทนคนเลี้ยง แทนคนเลี้ยงมือใหม่ เพราะว่าเราอยากจะนำเสนอขั้นตอนวิธีการเลี้ยง แล้วก็อยากจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่อาจจะไม่เคยเลี้ยงเลย หรือคนที่อยากจะทำเป็นอาชีพเสริมอย่างนี้ค่ะ เราก็เลยจะเน้นนำเสนอเป็นสาระความรู้ เราก็ทำคลิปลงทุกวันเลย”
ราคาที่ขาย ขายตามอายุเดือน สามารถส่งทางไปรษณีย์ส่งขายได้ไกล โดยหอยขมยักษ์รัตนะที่ทำตลาดออนไลน์อยู่นั้น ชจะขายเป็นพ่อแม่พันธุ์อย่างเดียว เพราะหอยยังโตและมีจำนวนไม่มาก เพื่อขายสำหรับนำไปประกอบอาหาร ปัจจุบันที่ขายก็จะเป็นไซซ์เล็ก ๆ อายุตั้งแต่ 1-3 เดือน อายุ 1 เดือนขายอยู่ที่ราคาตัวละ 25 บาท อายุ 3 เดือนขายอยู่ที่ตัวละ 35 บาท ส่วนแม่พันธุ์อายุ 6-8 เดือน พร้อมออกลูกจะขายอยู่ที่ราคา 120 บาท
การขนส่งจะเป็นไปรษณีย์แบบ EMS เพราะหอยขมสามารถขนส่งทางไปรษณีย์ได้ เป็นสัตว์น้ำเมื่อแพ็กแล้วจะจำศีลและเจ้าหน้าที่จะดูแลอย่างดี คุณเบียร์บอกว่า ไกลสุดที่ลูกค้ามาสั่งซื้อ ยกตัวอย่างใต้สุดอย่างสุไหงโก-ลก และทางเหนืออย่างเชียงราย
“ปัจจุบันเราไม่ได้ขายทุกวัน ช่วงหลัง ๆ มานี่ เหมือนว่าความต้องการเยอะ บางไซซ์บางขนาดก็จะโตไม่ทัน บางช่วงก็จะต้องจองไว้ประมาณ 1-3 เดือน หรืออย่างแม่พันธุ์ต้องให้จองไว้ก่อน เพราะผลิตไม่ทันขาย รายได้เข้ามาต่อเดือนค่อนข้างดี เป็น 6 หลักค่ะ”
สำหรับมือใหม่สนใจอยากเลี้ยง คุณเบียร์แนะนำว่า หากจะเริ่มเลี้ยงหอยขมยักษ์รัตนะ สิ่งแรกต้องศึกษาหาข้อมูลให้มาก ๆ เพื่อเรียนรู้เทคนิคจากหลาย ๆ ฟาร์ม ส่วนในเรื่องของพื้นที่สามารถดูรอบบ้านตัวเองเอาตามความสะดวก เมื่อเลี้ยงจนประสบผลสำเร็จ หอยไม่ตาย โตได้ดี ในเรื่องของการทำตลาดก็จะตามมาอย่างแน่นอน
ท่านใดที่สนใจอยากเลี้ยงหอยขมยักษ์รัตนะ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณเบียร์-พรพิรุณ วงษ์ละคร หมายเลขโทรศัพท์ 06 4925 6244 หรือทางเพจฟาร์มหอยขมยักษ์