1. ควรรอให้หน้าดินแห้งจึงค่อยปรับปรุงพื้นที่ หากพื้นที่ยังคงมีน้ำขังเป็นบางจุด ควรทำทางระบายน้ำให้น้ำออกจากพื้นที่โโยเร็ว เช่น ขุดร่องระบายน้ำ 30-50 เซนติเมตร
2. หากน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ควรพักฟื้นดินสักระยะหนึ่ง โดยปล่อยให้พื้นที่ดินว่าง ให้วัชพืชขึ้นตามธรรมชาติ หรือปลูกพืชคลุมดินเพื่อฟื้นฟูสภาพดิน
3. การเตรียมแปลงปลูกหลังดินแห้ง ควรไถพรวนดินในระยะที่พร้อมกับวัชพืชเริ่มขึ้น ใช้เครื่องมือที่มีขนาดเล็กและไถพรวนน้อยครั้ง เพื่อไม่ทำให้ดินอัดแน่นยิ่งขึ้น หรืออาจหว่านหรือหยอดเมล็ดเปิดหลุมกลบโดยไม่ต้องพรวน
4. สมุนไพรยืนต้นควรใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่า และพรวนดินเพื่อให้รากพืชแตกใหม่ได้ดี และตัดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่งและแตกใบใหม่ได้เร็วขึ้น
5. จัดระบบปลูกพืชสมุนไพรแบบผสมผสาน พืชสมุนไพรอายุสั้นร่วมกับพืชสมุนไพรยืนต้น หรือปลูกสมุนไพรร่วมกับพืชอายุสั้นอื่น ๆ เช่น พืชผัก หรือพืชไร่อายุสั้น
6. การจัดการโรคที่สำคัญ ได้แก่ โรครากเน่าและโคนเน่า ที่เกิดจากเชื้อรา ควรใส่ปูนขาวหรือโดโลไมท์ อัตราปูนขาว 200 กก./ไร่
7. การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว ต้องระมัดระวังให้ผลผลิตสมุนไพรแห้งสนิท สะอาด ไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์
8. ชนิดสมุนไพรที่ปลูกหลังน้ำลด ควรคำนึงด้านการนำไปใช้ประโยชน์ในครัวเรือน เช่น เป็นอาหาร ยาสามัญ เป็นประการแรก ประการต่อมาคำนึงถึงความต้องการของผู้ซื้อ และตลาด
การฟื้นฟูพืชสมุนไพรหลังน้ำลด
ศูนย์วิทยบริการเพื่อส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร
https://esc.doae.go.th/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9F%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9F%E0%B8%B9%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B8%8A%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1/