โรสแมรี่ (Rosemary): น้ำค้างแห่งท้องทะเล
โรสแมรี่เป็นพืชสมุนไพรพื้นเมือง วงศ์เดียวกับกะเพรา (Lamiaceae) มีถิ่นกำเนิดในเขตเมดิเตอร์เรเนียนที่แห้งแล้งและเขตพื้นที่ภูเขาของยุโรปใต้สู่เอเชียตะวันตก มีชื่อสามัญ (Common Name) คือ Rosemary ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) คือ Salvia rosmarinus หรือ Rosmarinus officinalis สำหรับชื่อสกุล Salvia มาจากภาษาละติน Salveo มีความหมายว่า เพื่อการรักษาหรือเพื่อสุขภาพ สำหรับชื่อชนิดพันธุ์ Rosmarinus มีความหมายว่า น้ำค้างแห่งท้องทะเล เป็นการอ้างอิงถึงที่อยู่อาศัยที่เจริญเติบโตใกล้กับทะเลหรือถิ่นกำเนิดของพืชชนิดนี้ โรสแมรี่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในสวนที่มีสภาพอากาศอบอุ่น
ลักษณะทั่วไป
โรสแมรี่เป็นไม้พุ่มย่อยที่เขียวชอุ่มตลอดปี กิ่งก้านตั้งตรง มีสีเทาซีด มีขนอ่อนเมื่อต้นยังอ่อน เมื่ออายุมากขึ้นลำต้นมีสีน้ำตาลและมีเนื้อไม้ ลักษณะทั่วไปมีดังนี้
- ลำต้น (Stems): ลักษณะลำต้นเป็นแบบทรงพุ่มเลื้อยและทรงพุ่มตรงสูง
- ทรงพุ่ม (Height): มีความสูงประมาณ 50-180 ซม. ความกว้างของทรงพุ่ม: 50-120 ซม.
- ใบ (Leaf): เป็นไม้ไม่ผลัดใบ เป็นใบเดียวรูปร่างคล้ายเข็ม ยาว 2-4 ซม. กว้าง 2-5 มล. ใบเขียวตลอดปี ด้านบนของใบมีสีเขียว ผิวใบมัน ด้านท้องใบเป็นสีขาวผิวใบสาก และมีขนปกคลุม ปลายใบมน เส้นกลางใบชัด ใบมีกลิ่นหอมมีเสน่ห์เฉพาะตัว ใบเรียงตรงข้ามเรียบง่าย คล้ายหนังเป็นเส้น ๆ
- ดอก (Flowers): มีดอกเล็ก ๆ สีฟ้าอ่อน สีม่วง สีชมพู หรือสีขาว ขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์ เจริญเติบโตเป็นกระจุกสองหรือสามดอกตามกิ่งก้าน ดอกเล็ก ๆ จะขึ้นเป็นกระจุกตามกิ่งก้าน หรือ Racemes (ช่อดอกไม้ที่มีดอกเล็ก ๆ แยกจากดอกใหญ่)
- ผล (Fruits): มีผลประกอบแบบ nutlets สีน้ำตาล
ทุกส่วนของพืชมีกลิ่นหอม ปัจจุบันนิยมปลูกเพื่อใช้เป็นไม้ประดับ ประกอบอาหาร เป็นยาและทำน้ำหอม
ปัจจัยสภาพแวดล้อม
- ความต้องการแสง (Sunlight): โรสแมรี่เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ปลูกที่มีแดดจัด แดดเต็มวันหรือแดดบางส่วนของวัน ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในร่ม จึงควรหลีกเลี่ยงการปลูกเลี้ยงในร่ม
- ความต้องการน้ำ (Water): ต้องการน้ำน้อยจนถึงปานกลาง เป็นพืชที่ทนแล้งหรือทนการขาดน้ำหลายวันติดต่อกันได้ โรสแมรี่ไม่ชอบน้ำจัด หรือน้ำมากเกินเพราะจะทำให้ ใบเน่าเหี่ยวลง ควรปลูกในกระถางเพราะควบคุมน้ำได้ดีกว่า ถ้าฝนตกติดต่อกันหลายวัน ให้ย้ายกระถางมาไว้ในร่ม ไม่ชอบความชื้นที่มากเกินไปเพราะจะทำให้เกิดเชื้อรา
โรสแมรี่เป็นพืชที่ทนทานต่อการตัดแต่งกิ่ง การตัดแต่งกิ่งจะช่วยให้เกิดการแตกกิ่งหรือยอดใหม่อย่างสม่ำเสมอ ต้นโรสแมรี่เป็นพืชที่ปรับตัวได้ดีและสามารถปลูกได้ในเกือบทุกพื้นที่ สามารถทนความเย็นได้เป็นอย่างดี เจริญเติบโตได้ดีที่อุณหภูมิกลางวัน 20-26 องศาเซลเซียส
- วัสดุปลูก: ควรเป็นดินที่มีการระบายน้ำดี อาจมีส่วนผสมของดินร่วนผสมดินทราย ดินมีพีเอช เป็นกรดเล็กน้อย จนถึงปานกลาง
การปลูก
สามารถปลูกได้ 2 แบบ คือ
- การปลูกแบบลงดิน: ทำการเตรียมดินโดยการยกร่องปลูก เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้สะดวก ระยะห่างระหว่างต้น 50 ซม. เหมาะสำหรับต้นที่มีอายุ 4 เดือนขึ้นไป ควรใช้วิธีการปักชำกิ่ง เพราะเป็นวิธีที่รวดเร็ว ไม่กลายพันธุ์ โรสแมรี่เจริญเติบโตได้ดีที่สุดในสภาพดินร่วนปนทรายระบายน้ำ แต่ก็สามารถปลูกได้ในดินร่วนปนดินเหนียว (มีดินเหนียวไม่เกิน 25 % ) ค่า pH ของดินที่ให้ได้ผลผลิตที่ดีที่สุดคือ 5.5 - 8.9
- การปลูกในกระถาง: วัสดุปลูกในกระถางมีดังนี้ 1. ดินทั่วไป 2. ขุยมะพร้าว 3. กาบมะพร้าว 4. แกลบดิบ และ 5. ปุ๋ยขี้ไก่ ซึ่งเป็นดินสำหรับเพาะพันธุ์ขายมีน้ำหนักเบา แต่ถ้าเป็นการปลูกไว้ที่บ้านให้ใช้ดินเป็นส่วนผสมหลัก แล้วนำขุยมะพร้าว หรือกาบมะพร้าวรองก้นกระถาง ขนาดกระถาง 8×10 นิ้ว เน้นใส่ดินให้เยอะ และไม่ควรใช้ดินผสมใบไม้เพราะจะทำให้เกิดความชื้นมากเกินไป
- การให้น้ำ: เป็นหัวใจสำคัญของการปลูก โรสแมรี่เป็นพืชสมุนไพรที่ต้องการน้ำในปริมาณที่พอดี หากให้น้ำมากหรือน้อยเกินไปโคนต้นจะเน่าและไม่ติดราก สำหรับวิธีการรดน้ำที่เหมาะสมคือ การรดน้ำในแต่ละครั้งจะรดให้ชุ่มจนน้ำไหลออกมานอกกระถาง และเว้นระยะในการรดน้ำ ไม่จำเป็นต้องรดทุกวัน
- การใส่ปุ๋ย: โรสแมรี่ไม่ต้องการปุ๋ยมาก เว้นแต่ว่าดินจะขาดธาตุอาหาร สามารถใส่ปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 เสริมเพื่อบำรุงต้นให้เจริญเติบโต หรือใส่ปุ๋ยคอกและใส่ปุ๋ยตามผลการทดสอบดิน
จากระยะเริ่มการปลูกใช้เวลาในการติดรากประมาณ 1 เดือน และต้องใช้เวลาปลูกเลี้ยงต่อไปอีกประมาณ 4 เดือน รวมระยะเวลาการปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวใช้เวลาประมาณ 5 เดือน จึงสามารถขาย และนำมาขยายพันธุ์ต่อได้อีก
อุปสรรคการปลูก คือฤดูฝน กรณีฝนตกชุกจะทำให้ต้นรากเน่าติดเชื้อราได้ง่าย ควรมีโรงเรือนสำหรับปลูกในฤดูฝน
- การดูแลรักษา (Maintenance): เน้นการตัดแต่งทรงพุ่ม ทำให้เกิดการแตกกิ่งใหม่ออกมาเรื่อย ๆ และการกำจัดวัชพืช
พันธุ์
ชนิด/พันธุ์โรสแมรี่ สามารถจำแนกกว้าง ๆ ได้ 2 ประเภทตามลักษณะการเจริญเติบโต คือ
- โรสแมรี่พันธุ์เลื้อย (Trail rosemary/Creeping rosemary) ชื่อเรียกอื่น ๆ เช่น Prostrate rosemary, Rosemary Prostratus group, Rosmarinus Prostratus, Rosmarinus officinalis lavandulaceus, Rosmarinus officinalis repens ฯลฯ ลักษณะของต้นพันธุ์เลื้อย มีความสูงของต้นได้ถึง 1-2 ฟุต และขยายความกว้างได้ถึง 2-3 ฟุต โรสแมรี่พันธุ์เลื้อยเจริญเเติบโตค่อนข้างช้า สายพันธุ์ที่พบ เช่น Rosmarinus officinalis Prostratus และ Rosemary Santa Barbara (Carpet rosemary) จากลักษณะกิ่งใบที่เลื้อย จึงสามารถปลูกคลุมดิน หรือปลูกให้ห้อยระย้าได้ นิยมนำมาแต่งสวน และนำมาประกอบอาหารได้แต่กลิ่นหอมน้อยกว่าเท่าโรสแมรรี่พันธุ์พุ่ม
- โรสแมรี่พันธุ์ทรงพุ่มตรง (Upright Rosemary) แบ่งเป็น 2 แบบ คือ
2.1 โรสแมรี่ทรงพุ่มตรงสูงปานกลาง (Mid-Height Rosemary) เช่น Salvia rosmarinus Rosemary / Common Rosemary (คอมมอน โรสแมรี่), Spicy Island Rosemary และ Collingwood Ingram Rosemary นิยมนำมาประกอบอาหารเช่น การหมักเนื้อสัตว์โดยเฉพาะสายพันธุ์ Spice Islands Rosemary ที่มีกลิ่นฉุน ร้อนแรง ส่วนที่ดีที่สุดในการปรุงอาหารคือใบอ่อนสด ซึ่งสามารถใช้ทั้งแบบสดหรือแห้งก็ได้ สำหรับ Salvia rosmarinus (Common rosemary) เป็นชนิดที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย สายพันธุ์อื่น ๆ ที่นิยมนำมาประกอบอาหาร เช่น Blue Boy Rosemary และ White rosemary
2.2. โรสแมรี่ทรงพุ่มตรงสูง (Tall Rosemary) มีหลายชนิดพันธุ์ เช่น
Tuscan Blue เป็นโรสแมรี่ที่มีความสูงมากที่สุด ประมาณ 6-7 ฟุต มีดอกสีน้ำเงินเข้ม มีใบสีเขียวเข้ม
Blue Spires ชนิดนี้มีความสูงประมาณ 5-6 ฟุต และกว้างประมาณ 4-6 ฟุต
Miss Jessopp's Upright เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่จำกัด มีความสูงประมาณ 4-6 ฟุต และ กว้าง 2- 3 ฟุต ดอกมีสีฟ้าอ่อน
Golden Rain มีใบสีเหลืองทอง และดอกมีสีฟ้า สูงประมาณ 2-3 ฟุต
สำหรับชนิด/พันธุ์ในการนำมาใช้ประโยชน์กว้าง ๆ แบ่งเป็น
- สายพันธุ์โรสแมรี่ที่นิยมนำมาตกแต่งสวน เช่น Pink and White rosemary, Arp, Dancing Waters, Golden Rain, Rosmarinus Prostratus, Rosemary Santa Barbara และ Tuscan Blue
- สายพันธุ์โรสแมรี่ที่นิยมนำมาทำอาหาร เช่น Spice Islands Rosemary, Common Rosemary, Blue Boy Rosemary, White rosemary, Tuscan Blue, Blue Spires, Spice Island, Gorizia และ Miss Jessopp's Upright
ที่มา https://www.gardenia.net/plants/genera/rosmarinus-rosemary
การขยายพันธุ์
- การขยายพันธุ์โดยเมล็ด ไม่แนะนำวิธีนี้เพราะใช้เวลานานและมีปัญหาการผสมเกสรข้าม
- การขยายพันธุ์โดยการปักชำ สามารถปักชำได้ทั้งในดินและน้ำ โดยเลือกกิ่งที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป นำมาตัดจากปลายลำต้นที่กำลังเติบโตความยาว 12-15 ซม. ริดใบส่วนล่างออกจากกิ่ง ใช้วัสดุปลูกเป็นดิน ขุยมะพร้าวผสมทราย หรือ ดินผสมทราย อาจใช้ใช้น้ำยาเร่งรากช่วยให้รากงอก การสร้างรากใช้เวลา 2 ถึง 4 สัปดาห์ ส่วนการชำในน้ำเปล่า ใช้เวลาประมาณ 20 วัน นำไปวางไว้ที่ร่ม
- การขยายพันธุ์โดยการตอน: การตอน โดยการโน้มกิ่งลงมาตอนยึดติดกับพื้นดิน หรือตรึงกิ่งก้านด้านล่างไว้ใต้ดินทรายเล็กน้อย หลังจากรากงอกก็สามารถตัดออกจากต้นแม่ได้ พร้อมนำไปขยายพันธุ์ต่อไป ควรทำการขยายพันธุ์ในฤดูร้อน
ศัตรูพืช
แมลงศัตรูพืช ที่พบบ่อยในการปลูกโรสแมรี่เช่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ แมลงหวี่ขาว และไรแมงมุม
ลักษณะการเข้าทำลาย แมลงหวี่ขาวมีปากแบบเจาะหรือดูดน้ำเลี้ยงในใบพืช เช่นเดียวกับเพลี้ยแป้งตัวเมียดูดน้ำเลี้ยงในใบพืช เกาะติดกับต้นไม้และหลั่งชั้นขี้ผึ้งสีขาวที่เป็นแป้งออกมา ไรแมงมุมจะกินบริเวณก้านส่วนล่างก่อน แล้วค่อยไปกินส่วนบนของพืชและบนใบ ทำให้ใบอาจเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและร่วงหล่นในภายหลัง ส่วนเพลี้ยไฟกินใบโดยใช้ปากเจาะและดูด ทำลายพืช ทำให้เกิดสีน้ำตาลและใบร่วง พวกมันยังเป็นพาหะของโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย
การป้องกัน โดยการปลูกพืชหมุนเวียน ตลอดจนการใช้สบู่ฆ่าแมลงกับน้ำมันพืชที่มีน้ำหนักเบาช่วยในการควบคุมศัตรูพืชเหล่านี้ได้
โรคพืช
โรคที่พบบ่อยในโรสแมรี่ เช่นโรคจากเชื้อรา โรคราแป้ง และโรครากเน่าโคนเน่า โรสแมรี่มีความไวต่อโรคราแป้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพชื้นเมื่อการไหลเวียนของอากาศไม่ดีพอ นอกจากนี้อาจพบอาการรากเน่า อันเป็นผลมาจากการได้รับน้ำมากเกินไป การปลูกเลี้ยงในหน้าฝนควรมีหลังคาปกคลุมแต่ยังคงได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ ข้อแนะนำในกรณีนี้ควรใช้วิธีการย้ายกระถางเป็นครั้งคราว สำหรับในพื้นที่เขตหนาวโรสแมรี่ไม่สามารถจะเติบโตได้ในฤดูหนาว
การป้องกันโรค: การควบคุมโรคโรสแมรี่นั้นแทบไม่จำเป็นเลย เนื่องจากพวกมันสามารถต้านทานโรคพืชทั่วไปได้เกือบทั้งหมดตามธรรมชาติ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการดูแลที่ดีและการจัดวางที่เหมาะสม การตรวจและการจัดการโรคตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถป้องกันโรคที่สำคัญได้
การใช้ประโยชน์
- สารสกัดและสรรพคุณทางยา
- สารสกัดโรสแมรี่ มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและการต้านจุลชีพบางชนิด โดยองค์ประกอบสำคัญในโรสแมรี่ประกอบด้วย คาร์โนซอล โรสมานอล กรดเออร์โซลิก กรดคาร์โนซิก และสารสีฟ้าอมม่วง ขาว และชมพู ซึ่งเป็นสารประกอบหลักในการต้านอนุมูลอิสระ
- สารสกัดโรสแมรี่เป็นสารจากธรรมชาติมากมายหลายชนิด โดยสารสกัดที่ได้จัดเป็นสารในกลุ่มฟีนอลลิค ไดเทอร์ปีน (Phenolic Diterpene) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยในการกำจัดสารพิษชนิดต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น อนุมูลอิสระ (Free Radicals) ที่มีผลในการทำลายเซลล์และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะมะเร็ง สารสำคัญจากโรสแมรี่ที่มีการวิจัยอย่างแพร่หลายและให้ผลอย่างชัดเจน คือ กรดโรสมารินิค (Rosemarinic Acid) กรดคาร์โนซิก (Carnosic Acid) และคาร์โนโซล (Carnosol)
- ผลการศึกษาวิจัย พบว่าสารสกัดกรดคาร์โนซิกและคาร์โนโซล มีผลในการลดการทำลาย เยื่อหุ้มเซลล์และสารพันธุกรรม DNA จากความเป็นพิษของอนุมูลอิสระ และยังมีผลในการลดฤทธิ์การทำลายเซลล์ของอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น ไลปิดเปอร์ออกไซด์ (Lipidperoxide) เปอร์รอกซิล เรดิคัล (Peroxy Radicals) และไฮดรอกซิล เรดิคัล (Hydroxyl Radicals) ฯลฯ
- สารสกัดคาร์โนโซล และกรดเออร์โซลิค (Ursolic Acid) จากโรสแมรี่ มีผลในการต้านมะเร็ง หรือทูเมอร์ (Antitumerigenic Activity) ได้ในสัตว์ทดลองโดยเฉพาะในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
- กรดโรสมารินิค มีฤทธิ์ในการป้องกันหอบหืด การเกร็งของทางเดินอาหาร โรคแผลในกระเพาะอาหาร การอักเสบ หลอดเลือดแข็งตัว หัวใจขาดเลือด ต้อกระจก มะเร็ง และภาวะตัวอสุจิในเพศชายบกพร่อง ซึ่ง ผลต่างที่กล่าวถึงนี้พบว่าเป็นผลจากฤทธิ์ในการต้านความเป็นพิษจากอนุมูลอิสระ
- โรสแมรี่มีคุณสมบัติในการรักษาและถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมยาพื้นบ้าน ยารักษาโรค และเครื่องสำอาง มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ซึ่งเกิดจากการมีอยู่ของกรดคาร์โนโซล/คาร์โนซิก และกรดเออร์โซลิก มีการสำรวจการใช้โรสแมรี่เพื่อรักษาโรคอักเสบ อย่างไรก็ตาม ยังมีการศึกษาการใช้งานอื่น ๆ เช่น การรักษาบาดแผล มะเร็งผิวหนัง และการรักษาเชื้อรา เป็นต้น นอกจากการใช้รักษาโรคแล้ว โรสแมรี่ยังมีศักยภาพในการนำไปใช้ในสูตรเครื่องสำอาง และในการรักษาต่าง ๆ เช่น เซลลูไลท์ ผมร่วง ความเสียหายจากรังสีอัลตราไวโอเลต และการแก่ชรา
- โรสแมรี่มีประโยชน์ในการนำมาทำเป็นน้ำมันหอมระเหย ช่วยทำให้สมองแจ่มใส เยียวยาทางอารมณ์ ความรู้สึก ลดอาการเบื่อหน่ายและความเฉื่อยชา ลดความรู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ ใช้รักษาอาการทางกาย เช่น หวัด เยื่อบุทางเดินหายใจอักเสบ และโพรงจมูกอักเสบ (ไซนัส)
- ใช้กระตุ้นระบบการทำงานของเซลล์สมองได้อย่างดี เป็นตัวกระตุ้นความจำ โดยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและบำรุงหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยในการส่งโลหิตไปเลี้ยงสมองได้ดียิ่งขึ้น เป็นการลดความเหนื่อยล้าทางจิตใจได้
- โรสแมรี่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยคลายความเครียดและทำให้อารมณ์ดีขึ้น เพิ่มความแข็งแรงของภูมิคุ้มกัน ช่วยให้สบายท้อง ช่วยบรรเทาอาการปวด ช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกาย
- มีคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอย จึงดีต่อผิว มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ นอกจากนี้โรสแมรี่ยังใช้เป็นยาระงับกลิ่นปากได้ด้วย
- ประโยชน์ทางอาหาร
- การใช้โรสแมรี่ในการปรุงอาหาร โดยใบใช้เป็นเครื่องเทศในการปรุงอาหารซึ่งมีกลิ่นเฉพาะตัว ช่วยลดกลิ่นคาวของอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ใบมีรสฉุน ขมเล็กน้อย โดยทั่วไปจะใช้แบบแห้งหรือสดเพื่อปรุงรสอาหาร โดยเฉพาะเนื้อแกะ เป็ด ไก่ ไส้กรอก อาหารทะเล ใส่ไส้ สตูว์ ซุป มันฝรั่ง มะเขือเทศ หัวผักกาด และผักอื่น ๆ ตลอดจนเครื่องดื่ม ทำให้อาหารอร่อย กลมกล่อม
- นำใบโรสแมรี่ไปแช่ในเครื่องดื่มจะช่วยคลายความอ่อนเพลีย เพิ่มพลังและมีสมาธิ
- นำโรสแมรี่ไปแช่ในไวน์ หรือสปาร์คกลิ้งไวน์จะช่วยเพิ่มความหอมและลดอาการมึนเมา
- นำโรสแมรี่ไปผสมในแป้งขนมปังอบจะช่วยให้นิ่มฟูมากขึ้น
- โรสแมรี่มีสรรพคุณช่วยดับกลิ่นคาวปลา นำไปใช้โรยบนสเต็กเนื้อปลาจะช่วยเพิ่มความหอมไร้ความคาว
- ใบโรสแมรี่สามารถนำไปทำชาโรสแมรี่ได้
- การถนอมอาหารโดยการนำโรสแมรี่สดมาตากแห้งหรืออบเพื่อทำเป็นเครื่องเทศ
- การจัดสวน
ใช้เป็นไม้ประดับ นำไปปลูกประดับในพื้นที่สวนหิน หรือสวนดาดฟ้าที่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน ทั้งนี้เป็นการปลูกเน้นทรงพุ่มกลมตามธรรมชาติโดยไม่ต้องทำการตัดแต่งกิ่ง
- การใช้ประโยชน์อื่น ๆ
- น้ำมันหอมระเหยจากโรสแมรี่ใช้หยดลงในสบู่อาบน้ำช่วยลดกลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัวได้ และใช้หยดลงในแชมพูสระผมช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง และทำให้ผมนิ่ม
- โรสแมรี่บดนำไปแช่ในน้ำอาบช่วยลดกลิ่นตัว แช่เท้าช่วยขจัดกลิ่นเท้า
- สำหรับใบและดอกมีการสกัดน้ำมันเพื่อทำน้ำหอมสบู่ แชมพู โลชั่น และอุปกรณ์อาบน้ำอื่น ๆ
เอกสารอ้างอิง
- นววรรณ พรหมภักดี และคนอื่นๆ. (2564). ผลของการเสริมน้ำมันหอมระเหยจากโรสแมรี่ (Rosmarinus officinalis L.) ต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์เนื้อบดขึ้นรูปจากเนื้อสุกร. แก่นเกษตร, 49 (suppl. 2), 845-850
- บุญยาพร สระทองรอด และ ฤชุอร วรรณะ. (2564). ความเป็นพิษของน้ำมันหอมระเหยจากพืชวงศ์กะเพรา (Lamiaceae) ป้องกันกำจัดแมลงศัตรูในโรงเก็บ. วารสารเกษตรพระวรุณ, 18 (1), 112-119
- ฤชุอร วรรณะ และ กณิกนันต์ ร่วมจิตร. (2558). ประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหยจากดอกไม้ 5 ชนิดในการกำจัดด้วงงวงข้าวและด้วงงวงข้าวโพด. วารสารวิทยาศาสตร์เกษตร, 46 (suppl. 3/1), 367-370
- สุทัศน์ สุระวัง, ปิยวรรณ สิมะไพศาล, กัญญรัตน์ สุทธภักติ, และ วิญญู ศักดาทร. (2548). น้ำมันหอมระเหย: แนวทางการใช้ประโยชน์ในรูปของแผ่นหอมปรับอากาศ. สืบค้นเมื่อ 19 ตุลาคม 2566, จาก https://ebook.lib.ku.ac.th/item/2/20190112
- ธาวิดา ศิริสัมพันธ์. (2564). สาวเชียงใหม่ปลูกโรสแมรี่ สมุนไพรฝรั่งลูกค้านิยมซื้อตกแต่งมื้ออาหารสุดหรู ฟันรายได้เกือบแสนต่อเดือน. มติชนบทเทคโนโลยีชาวบ้าน, 33 (749), 24-26
- Muuyehn Studio. (2021, May 4). โรสแมรี่ หอมดี มีไว้คู่ครัว ดินดี มีแดด ตัดได้ทั้งปี Salvia rosmarinus หรือ Rosemary [Video]. YouTube.https://www.youtube.com/watch?v=Dlu6hm2tGQs
- Bunney, S., & Stodola, J. (1996). The Illustrated Encyclopedia of Herbs: Their Medicinal and Culinary Uses: Barnes & Noble Books.
- Britannica, The Editors of Encyclopaedia. "rosemary". Encyclopedia Britannica, 15 Sep. 2023, https://www.britannica.com/plant/rosemary. Accessed 24 November 2023.
- Jagdish. (2018). Rosemary cultivation information guide. (Online). Available : https://www.agrifarming.in/rosemary-cultivation [1 November 2023]
- Plant Families / Rosmarinus - Rosemary. (Online). Available : https://www.gardenia.net/plants/plant-family/rosmarinus-rosemary [8 November 2023]
- de Macedo, L.M.; Santos, E.M.d.; Militao, L.; Tundisi, L.L.; Ataide, J.A.; Souto, E.B.; Mazzola, P.G. Rosemary (Rosmarinus officinalis L., syn Salvia rosmarinus Spenn.) and Its Topical Applications: A Review. Plants 2020, 9, 651. https://doi.org/10.3390/plants9050651
- แอนดาการ์เด้น. เสน่ห์โรสแมรี่พันธุ์พุ่มและพันธุ์เลื้อยที่คุณควรรู้. (ออนไลน์). สืบค้นจาก https://anndagarden.com/rosemary/ [8 พฤศจิกายน 2565]
- โรสแมรี. (2565). (ออนไลน์). สืบค้นจาก https://th.wikipedia.org/wiki/โรสแมรี [8 พฤศจิกายน 2565]