ข่าวสาร
F01 การผลิตพืช
30 พฤศจิกายน 2566
โรสแมรี่ (Rosemary):  น้ำค้างแห่งท้องทะเล

 

โรสแมรี่ (Rosemary):  น้ำค้างแห่งท้องทะเล

โรสแมรี่เป็นพืชสมุนไพรพื้นเมือง วงศ์เดียวกับกะเพรา (Lamiaceae) มีถิ่นกำเนิดในเขตเมดิเตอร์เรเนียนที่แห้งแล้งและเขตพื้นที่ภูเขาของยุโรปใต้สู่เอเชียตะวันตก มีชื่อสามัญ (Common Name) คือ Rosemary ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) คือ Salvia rosmarinus หรือ Rosmarinus officinalis สำหรับชื่อสกุล Salvia มาจากภาษาละติน Salveo มีความหมายว่า เพื่อการรักษาหรือเพื่อสุขภาพ สำหรับชื่อชนิดพันธุ์ Rosmarinus มีความหมายว่า น้ำค้างแห่งท้องทะเล เป็นการอ้างอิงถึงที่อยู่อาศัยที่เจริญเติบโตใกล้กับทะเลหรือถิ่นกำเนิดของพืชชนิดนี้ โรสแมรี่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในสวนที่มีสภาพอากาศอบอุ่น

ลักษณะทั่วไป

โรสแมรี่เป็นไม้พุ่มย่อยที่เขียวชอุ่มตลอดปี กิ่งก้านตั้งตรง มีสีเทาซีด มีขนอ่อนเมื่อต้นยังอ่อน เมื่ออายุมากขึ้นลำต้นมีสีน้ำตาลและมีเนื้อไม้ ลักษณะทั่วไปมีดังนี้

  • ลำต้น (Stems): ลักษณะลำต้นเป็นแบบทรงพุ่มเลื้อยและทรงพุ่มตรงสูง
  • ทรงพุ่ม (Height): มีความสูงประมาณ 50-180 ซม. ความกว้างของทรงพุ่ม: 50-120 ซม.
  • ใบ (Leaf): เป็นไม้ไม่ผลัดใบ เป็นใบเดียวรูปร่างคล้ายเข็ม ยาว 2-4 ซม. กว้าง 2-5 มล. ใบเขียวตลอดปี ด้านบนของใบมีสีเขียว ผิวใบมัน ด้านท้องใบเป็นสีขาวผิวใบสาก และมีขนปกคลุม ปลายใบมน เส้นกลางใบชัด ใบมีกลิ่นหอมมีเสน่ห์เฉพาะตัว  ใบเรียงตรงข้ามเรียบง่าย คล้ายหนังเป็นเส้น ๆ
  • ดอก (Flowers): มีดอกเล็ก ๆ สีฟ้าอ่อน สีม่วง สีชมพู หรือสีขาว ขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์ เจริญเติบโตเป็นกระจุกสองหรือสามดอกตามกิ่งก้าน ดอกเล็ก ๆ จะขึ้นเป็นกระจุกตามกิ่งก้าน หรือ Racemes (ช่อดอกไม้ที่มีดอกเล็ก ๆ แยกจากดอกใหญ่)
  • ผล (Fruits): มีผลประกอบแบบ nutlets สีน้ำตาล

ทุกส่วนของพืชมีกลิ่นหอม ปัจจุบันนิยมปลูกเพื่อใช้เป็นไม้ประดับ ประกอบอาหาร เป็นยาและทำน้ำหอม

 

ปัจจัยสภาพแวดล้อม

  • ความต้องการแสง (Sunlight): โรสแมรี่เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ปลูกที่มีแดดจัด แดดเต็มวันหรือแดดบางส่วนของวัน ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในร่ม จึงควรหลีกเลี่ยงการปลูกเลี้ยงในร่ม
  • ความต้องการน้ำ (Water): ต้องการน้ำน้อยจนถึงปานกลาง เป็นพืชที่ทนแล้งหรือทนการขาดน้ำหลายวันติดต่อกันได้ โรสแมรี่ไม่ชอบน้ำจัด หรือน้ำมากเกินเพราะจะทำให้ ใบเน่าเหี่ยวลง ควรปลูกในกระถางเพราะควบคุมน้ำได้ดีกว่า ถ้าฝนตกติดต่อกันหลายวัน ให้ย้ายกระถางมาไว้ในร่ม ไม่ชอบความชื้นที่มากเกินไปเพราะจะทำให้เกิดเชื้อรา

โรสแมรี่เป็นพืชที่ทนทานต่อการตัดแต่งกิ่ง  การตัดแต่งกิ่งจะช่วยให้เกิดการแตกกิ่งหรือยอดใหม่อย่างสม่ำเสมอ ต้นโรสแมรี่เป็นพืชที่ปรับตัวได้ดีและสามารถปลูกได้ในเกือบทุกพื้นที่ สามารถทนความเย็นได้เป็นอย่างดี เจริญเติบโตได้ดีที่อุณหภูมิกลางวัน 20-26 องศาเซลเซียส

  • วัสดุปลูก: ควรเป็นดินที่มีการระบายน้ำดี อาจมีส่วนผสมของดินร่วนผสมดินทราย ดินมีพีเอช เป็นกรดเล็กน้อย จนถึงปานกลาง

การปลูก

สามารถปลูกได้ 2 แบบ คือ

  1. การปลูกแบบลงดิน: ทำการเตรียมดินโดยการยกร่องปลูก เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้สะดวก ระยะห่างระหว่างต้น 50 ซม. เหมาะสำหรับต้นที่มีอายุ 4 เดือนขึ้นไป ควรใช้วิธีการปักชำกิ่ง เพราะเป็นวิธีที่รวดเร็ว ไม่กลายพันธุ์ โรสแมรี่เจริญเติบโตได้ดีที่สุดในสภาพดินร่วนปนทรายระบายน้ำ แต่ก็สามารถปลูกได้ในดินร่วนปนดินเหนียว (มีดินเหนียวไม่เกิน 25 % ) ค่า pH ของดินที่ให้ได้ผลผลิตที่ดีที่สุดคือ 5.5 - 8.9
  2. การปลูกในกระถาง: วัสดุปลูกในกระถางมีดังนี้ 1. ดินทั่วไป 2. ขุยมะพร้าว 3. กาบมะพร้าว 4. แกลบดิบ และ 5. ปุ๋ยขี้ไก่ ซึ่งเป็นดินสำหรับเพาะพันธุ์ขายมีน้ำหนักเบา แต่ถ้าเป็นการปลูกไว้ที่บ้านให้ใช้ดินเป็นส่วนผสมหลัก แล้วนำขุยมะพร้าว หรือกาบมะพร้าวรองก้นกระถาง ขนาดกระถาง 8×10 นิ้ว เน้นใส่ดินให้เยอะ และไม่ควรใช้ดินผสมใบไม้เพราะจะทำให้เกิดความชื้นมากเกินไป
  • การให้น้ำ: เป็นหัวใจสำคัญของการปลูก โรสแมรี่เป็นพืชสมุนไพรที่ต้องการน้ำในปริมาณที่พอดี หากให้น้ำมากหรือน้อยเกินไปโคนต้นจะเน่าและไม่ติดราก สำหรับวิธีการรดน้ำที่เหมาะสมคือ การรดน้ำในแต่ละครั้งจะรดให้ชุ่มจนน้ำไหลออกมานอกกระถาง และเว้นระยะในการรดน้ำ ไม่จำเป็นต้องรดทุกวัน
  • การใส่ปุ๋ย: โรสแมรี่ไม่ต้องการปุ๋ยมาก เว้นแต่ว่าดินจะขาดธาตุอาหาร สามารถใส่ปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 เสริมเพื่อบำรุงต้นให้เจริญเติบโต หรือใส่ปุ๋ยคอกและใส่ปุ๋ยตามผลการทดสอบดิน

จากระยะเริ่มการปลูกใช้เวลาในการติดรากประมาณ 1 เดือน และต้องใช้เวลาปลูกเลี้ยงต่อไปอีกประมาณ 4 เดือน รวมระยะเวลาการปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวใช้เวลาประมาณ 5 เดือน จึงสามารถขาย และนำมาขยายพันธุ์ต่อได้อีก

อุปสรรคการปลูก คือฤดูฝน กรณีฝนตกชุกจะทำให้ต้นรากเน่าติดเชื้อราได้ง่าย ควรมีโรงเรือนสำหรับปลูกในฤดูฝน

  • การดูแลรักษา (Maintenance): เน้นการตัดแต่งทรงพุ่ม ทำให้เกิดการแตกกิ่งใหม่ออกมาเรื่อย ๆ และการกำจัดวัชพืช

  

พันธุ์

ชนิด/พันธุ์โรสแมรี่ สามารถจำแนกกว้าง ๆ ได้ 2 ประเภทตามลักษณะการเจริญเติบโต คือ

  1. โรสแมรี่พันธุ์เลื้อย (Trail rosemary/Creeping rosemary) ชื่อเรียกอื่น ๆ เช่น Prostrate rosemary, Rosemary Prostratus group, Rosmarinus Prostratus, Rosmarinus officinalis lavandulaceus, Rosmarinus officinalis repens ฯลฯ ลักษณะของต้นพันธุ์เลื้อย มีความสูงของต้นได้ถึง 1-2 ฟุต และขยายความกว้างได้ถึง 2-3 ฟุต โรสแมรี่พันธุ์เลื้อยเจริญเเติบโตค่อนข้างช้า สายพันธุ์ที่พบ เช่น Rosmarinus officinalis Prostratus และ Rosemary Santa Barbara (Carpet rosemary) จากลักษณะกิ่งใบที่เลื้อย จึงสามารถปลูกคลุมดิน หรือปลูกให้ห้อยระย้าได้ นิยมนำมาแต่งสวน และนำมาประกอบอาหารได้แต่กลิ่นหอมน้อยกว่าเท่าโรสแมรรี่พันธุ์พุ่ม
  2. โรสแมรี่พันธุ์ทรงพุ่มตรง (Upright Rosemary) แบ่งเป็น 2 แบบ คือ

   2.1 โรสแมรี่ทรงพุ่มตรงสูงปานกลาง (Mid-Height Rosemary) เช่น Salvia rosmarinus Rosemary / Common Rosemary (คอมมอน โรสแมรี่),  Spicy Island Rosemary และ Collingwood Ingram Rosemary  นิยมนำมาประกอบอาหารเช่น การหมักเนื้อสัตว์โดยเฉพาะสายพันธุ์ Spice Islands Rosemary ที่มีกลิ่นฉุน ร้อนแรง ส่วนที่ดีที่สุดในการปรุงอาหารคือใบอ่อนสด ซึ่งสามารถใช้ทั้งแบบสดหรือแห้งก็ได้ สำหรับ Salvia rosmarinus  (Common rosemary) เป็นชนิดที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย สายพันธุ์อื่น ๆ ที่นิยมนำมาประกอบอาหาร เช่น Blue Boy Rosemary และ White rosemary

  2.2. โรสแมรี่ทรงพุ่มตรงสูง (Tall Rosemary) มีหลายชนิดพันธุ์ เช่น

Tuscan Blue เป็นโรสแมรี่ที่มีความสูงมากที่สุด ประมาณ 6-7 ฟุต มีดอกสีน้ำเงินเข้ม มีใบสีเขียวเข้ม

Blue Spires ชนิดนี้มีความสูงประมาณ 5-6 ฟุต และกว้างประมาณ 4-6 ฟุต

Miss Jessopp's Upright เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่จำกัด มีความสูงประมาณ 4-6 ฟุต และ กว้าง 2- 3 ฟุต ดอกมีสีฟ้าอ่อน

Golden Rain มีใบสีเหลืองทอง และดอกมีสีฟ้า สูงประมาณ 2-3 ฟุต

สำหรับชนิด/พันธุ์ในการนำมาใช้ประโยชน์กว้าง ๆ แบ่งเป็น

  1. สายพันธุ์โรสแมรี่ที่นิยมนำมาตกแต่งสวน เช่น Pink and White rosemary, Arp, Dancing Waters, Golden Rain, Rosmarinus Prostratus, Rosemary Santa Barbara และ Tuscan Blue
  2. สายพันธุ์โรสแมรี่ที่นิยมนำมาทำอาหาร เช่น Spice Islands Rosemary, Common Rosemary, Blue Boy Rosemary, White rosemary, Tuscan Blue, Blue Spires, Spice Island, Gorizia และ Miss Jessopp's Upright

 

ที่มา https://www.gardenia.net/plants/genera/rosmarinus-rosemary

การขยายพันธุ์

  1. การขยายพันธุ์โดยเมล็ด ไม่แนะนำวิธีนี้เพราะใช้เวลานานและมีปัญหาการผสมเกสรข้าม
  2. การขยายพันธุ์โดยการปักชำ สามารถปักชำได้ทั้งในดินและน้ำ โดยเลือกกิ่งที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป นำมาตัดจากปลายลำต้นที่กำลังเติบโตความยาว 12-15 ซม. ริดใบส่วนล่างออกจากกิ่ง ใช้วัสดุปลูกเป็นดิน ขุยมะพร้าวผสมทราย หรือ ดินผสมทราย อาจใช้ใช้น้ำยาเร่งรากช่วยให้รากงอก การสร้างรากใช้เวลา 2 ถึง 4 สัปดาห์ ส่วนการชำในน้ำเปล่า ใช้เวลาประมาณ 20 วัน นำไปวางไว้ที่ร่ม
  3. การขยายพันธุ์โดยการตอน: การตอน โดยการโน้มกิ่งลงมาตอนยึดติดกับพื้นดิน หรือตรึงกิ่งก้านด้านล่างไว้ใต้ดินทรายเล็กน้อย หลังจากรากงอกก็สามารถตัดออกจากต้นแม่ได้ พร้อมนำไปขยายพันธุ์ต่อไป ควรทำการขยายพันธุ์ในฤดูร้อน

ศัตรูพืช

แมลงศัตรูพืช ที่พบบ่อยในการปลูกโรสแมรี่เช่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ แมลงหวี่ขาว และไรแมงมุม

ลักษณะการเข้าทำลาย แมลงหวี่ขาวมีปากแบบเจาะหรือดูดน้ำเลี้ยงในใบพืช เช่นเดียวกับเพลี้ยแป้งตัวเมียดูดน้ำเลี้ยงในใบพืช เกาะติดกับต้นไม้และหลั่งชั้นขี้ผึ้งสีขาวที่เป็นแป้งออกมา ไรแมงมุมจะกินบริเวณก้านส่วนล่างก่อน แล้วค่อยไปกินส่วนบนของพืชและบนใบ ทำให้ใบอาจเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและร่วงหล่นในภายหลัง ส่วนเพลี้ยไฟกินใบโดยใช้ปากเจาะและดูด ทำลายพืช ทำให้เกิดสีน้ำตาลและใบร่วง พวกมันยังเป็นพาหะของโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย

การป้องกัน โดยการปลูกพืชหมุนเวียน ตลอดจนการใช้สบู่ฆ่าแมลงกับน้ำมันพืชที่มีน้ำหนักเบาช่วยในการควบคุมศัตรูพืชเหล่านี้ได้

โรคพืช

โรคที่พบบ่อยในโรสแมรี่ เช่นโรคจากเชื้อรา โรคราแป้ง และโรครากเน่าโคนเน่า โรสแมรี่มีความไวต่อโรคราแป้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพชื้นเมื่อการไหลเวียนของอากาศไม่ดีพอ นอกจากนี้อาจพบอาการรากเน่า อันเป็นผลมาจากการได้รับน้ำมากเกินไป การปลูกเลี้ยงในหน้าฝนควรมีหลังคาปกคลุมแต่ยังคงได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ ข้อแนะนำในกรณีนี้ควรใช้วิธีการย้ายกระถางเป็นครั้งคราว สำหรับในพื้นที่เขตหนาวโรสแมรี่ไม่สามารถจะเติบโตได้ในฤดูหนาว

การป้องกันโรค: การควบคุมโรคโรสแมรี่นั้นแทบไม่จำเป็นเลย เนื่องจากพวกมันสามารถต้านทานโรคพืชทั่วไปได้เกือบทั้งหมดตามธรรมชาติ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการดูแลที่ดีและการจัดวางที่เหมาะสม  การตรวจและการจัดการโรคตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถป้องกันโรคที่สำคัญได้

การใช้ประโยชน์

  1. สารสกัดและสรรพคุณทางยา
  • สารสกัดโรสแมรี่ มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและการต้านจุลชีพบางชนิด โดยองค์ประกอบสำคัญในโรสแมรี่ประกอบด้วย คาร์โนซอล โรสมานอล กรดเออร์โซลิก กรดคาร์โนซิก และสารสีฟ้าอมม่วง ขาว และชมพู ซึ่งเป็นสารประกอบหลักในการต้านอนุมูลอิสระ
  • สารสกัดโรสแมรี่เป็นสารจากธรรมชาติมากมายหลายชนิด โดยสารสกัดที่ได้จัดเป็นสารในกลุ่มฟีนอลลิค ไดเทอร์ปีน (Phenolic Diterpene) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยในการกำจัดสารพิษชนิดต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น อนุมูลอิสระ (Free Radicals) ที่มีผลในการทำลายเซลล์และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะมะเร็ง สารสำคัญจากโรสแมรี่ที่มีการวิจัยอย่างแพร่หลายและให้ผลอย่างชัดเจน คือ กรดโรสมารินิค (Rosemarinic Acid) กรดคาร์โนซิก (Carnosic Acid) และคาร์โนโซล (Carnosol)
  • ผลการศึกษาวิจัย พบว่าสารสกัดกรดคาร์โนซิกและคาร์โนโซล มีผลในการลดการทำลาย เยื่อหุ้มเซลล์และสารพันธุกรรม DNA จากความเป็นพิษของอนุมูลอิสระ และยังมีผลในการลดฤทธิ์การทำลายเซลล์ของอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น ไลปิดเปอร์ออกไซด์ (Lipidperoxide) เปอร์รอกซิล เรดิคัล (Peroxy Radicals) และไฮดรอกซิล เรดิคัล (Hydroxyl Radicals) ฯลฯ
  • สารสกัดคาร์โนโซล และกรดเออร์โซลิค (Ursolic Acid) จากโรสแมรี่ มีผลในการต้านมะเร็ง หรือทูเมอร์ (Antitumerigenic Activity) ได้ในสัตว์ทดลองโดยเฉพาะในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
  • กรดโรสมารินิค มีฤทธิ์ในการป้องกันหอบหืด การเกร็งของทางเดินอาหาร โรคแผลในกระเพาะอาหาร การอักเสบ หลอดเลือดแข็งตัว หัวใจขาดเลือด ต้อกระจก มะเร็ง และภาวะตัวอสุจิในเพศชายบกพร่อง ซึ่ง ผลต่างที่กล่าวถึงนี้พบว่าเป็นผลจากฤทธิ์ในการต้านความเป็นพิษจากอนุมูลอิสระ
  • โรสแมรี่มีคุณสมบัติในการรักษาและถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมยาพื้นบ้าน ยารักษาโรค และเครื่องสำอาง มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ซึ่งเกิดจากการมีอยู่ของกรดคาร์โนโซล/คาร์โนซิก และกรดเออร์โซลิก มีการสำรวจการใช้โรสแมรี่เพื่อรักษาโรคอักเสบ อย่างไรก็ตาม ยังมีการศึกษาการใช้งานอื่น ๆ เช่น การรักษาบาดแผล มะเร็งผิวหนัง และการรักษาเชื้อรา เป็นต้น นอกจากการใช้รักษาโรคแล้ว โรสแมรี่ยังมีศักยภาพในการนำไปใช้ในสูตรเครื่องสำอาง และในการรักษาต่าง ๆ เช่น เซลลูไลท์ ผมร่วง ความเสียหายจากรังสีอัลตราไวโอเลต และการแก่ชรา
  • โรสแมรี่มีประโยชน์ในการนำมาทำเป็นน้ำมันหอมระเหย ช่วยทำให้สมองแจ่มใส เยียวยาทางอารมณ์ ความรู้สึก ลดอาการเบื่อหน่ายและความเฉื่อยชา ลดความรู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ ใช้รักษาอาการทางกาย เช่น หวัด เยื่อบุทางเดินหายใจอักเสบ และโพรงจมูกอักเสบ (ไซนัส)
  • ใช้กระตุ้นระบบการทำงานของเซลล์สมองได้อย่างดี เป็นตัวกระตุ้นความจำ โดยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและบำรุงหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยในการส่งโลหิตไปเลี้ยงสมองได้ดียิ่งขึ้น เป็นการลดความเหนื่อยล้าทางจิตใจได้
  • โรสแมรี่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยคลายความเครียดและทำให้อารมณ์ดีขึ้น เพิ่มความแข็งแรงของภูมิคุ้มกัน ช่วยให้สบายท้อง ช่วยบรรเทาอาการปวด ช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกาย
  • มีคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอย จึงดีต่อผิว มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ นอกจากนี้โรสแมรี่ยังใช้เป็นยาระงับกลิ่นปากได้ด้วย
  1. ประโยชน์ทางอาหาร
  • การใช้โรสแมรี่ในการปรุงอาหาร โดยใบใช้เป็นเครื่องเทศในการปรุงอาหารซึ่งมีกลิ่นเฉพาะตัว ช่วยลดกลิ่นคาวของอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ใบมีรสฉุน ขมเล็กน้อย โดยทั่วไปจะใช้แบบแห้งหรือสดเพื่อปรุงรสอาหาร โดยเฉพาะเนื้อแกะ เป็ด ไก่ ไส้กรอก อาหารทะเล ใส่ไส้ สตูว์ ซุป มันฝรั่ง มะเขือเทศ หัวผักกาด และผักอื่น ๆ ตลอดจนเครื่องดื่ม ทำให้อาหารอร่อย กลมกล่อม
  • นำใบโรสแมรี่ไปแช่ในเครื่องดื่มจะช่วยคลายความอ่อนเพลีย เพิ่มพลังและมีสมาธิ
  • นำโรสแมรี่ไปแช่ในไวน์ หรือสปาร์คกลิ้งไวน์จะช่วยเพิ่มความหอมและลดอาการมึนเมา
  • นำโรสแมรี่ไปผสมในแป้งขนมปังอบจะช่วยให้นิ่มฟูมากขึ้น
  • โรสแมรี่มีสรรพคุณช่วยดับกลิ่นคาวปลา นำไปใช้โรยบนสเต็กเนื้อปลาจะช่วยเพิ่มความหอมไร้ความคาว
  • ใบโรสแมรี่สามารถนำไปทำชาโรสแมรี่ได้
  • การถนอมอาหารโดยการนำโรสแมรี่สดมาตากแห้งหรืออบเพื่อทำเป็นเครื่องเทศ
  1. การจัดสวน

ใช้เป็นไม้ประดับ นำไปปลูกประดับในพื้นที่สวนหิน หรือสวนดาดฟ้าที่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน ทั้งนี้เป็นการปลูกเน้นทรงพุ่มกลมตามธรรมชาติโดยไม่ต้องทำการตัดแต่งกิ่ง

  1. การใช้ประโยชน์อื่น ๆ
  • น้ำมันหอมระเหยจากโรสแมรี่ใช้หยดลงในสบู่อาบน้ำช่วยลดกลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัวได้ และใช้หยดลงในแชมพูสระผมช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง และทำให้ผมนิ่ม
  • โรสแมรี่บดนำไปแช่ในน้ำอาบช่วยลดกลิ่นตัว แช่เท้าช่วยขจัดกลิ่นเท้า
  • สำหรับใบและดอกมีการสกัดน้ำมันเพื่อทำน้ำหอมสบู่ แชมพู โลชั่น และอุปกรณ์อาบน้ำอื่น ๆ

เอกสารอ้างอิง

  1. นววรรณ พรหมภักดี และคนอื่นๆ. (2564). ผลของการเสริมน้ำมันหอมระเหยจากโรสแมรี่ (Rosmarinus officinalis L.) ต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์เนื้อบดขึ้นรูปจากเนื้อสุกร. แก่นเกษตร, 49 (suppl. 2), 845-850
  2. บุญยาพร สระทองรอด และ ฤชุอร วรรณะ. (2564). ความเป็นพิษของน้ำมันหอมระเหยจากพืชวงศ์กะเพรา (Lamiaceae) ป้องกันกำจัดแมลงศัตรูในโรงเก็บ. วารสารเกษตรพระวรุณ, 18 (1), 112-119
  3. ฤชุอร วรรณะ และ กณิกนันต์ ร่วมจิตร. (2558). ประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหยจากดอกไม้ 5 ชนิดในการกำจัดด้วงงวงข้าวและด้วงงวงข้าวโพด. วารสารวิทยาศาสตร์เกษตร, 46 (suppl. 3/1), 367-370
  4. สุทัศน์ สุระวัง, ปิยวรรณ สิมะไพศาล, กัญญรัตน์ สุทธภักติ, และ วิญญู ศักดาทร. (2548). น้ำมันหอมระเหย: แนวทางการใช้ประโยชน์ในรูปของแผ่นหอมปรับอากาศ. สืบค้นเมื่อ 19 ตุลาคม 2566, จาก https://ebook.lib.ku.ac.th/item/2/20190112
  5. ธาวิดา ศิริสัมพันธ์. (2564). สาวเชียงใหม่ปลูกโรสแมรี่ สมุนไพรฝรั่งลูกค้านิยมซื้อตกแต่งมื้ออาหารสุดหรู ฟันรายได้เกือบแสนต่อเดือน. มติชนบทเทคโนโลยีชาวบ้าน, 33 (749), 24-26
  6. Muuyehn Studio. (2021, May 4). โรสแมรี่ หอมดี มีไว้คู่ครัว ดินดี มีแดด ตัดได้ทั้งปี Salvia rosmarinus หรือ Rosemary [Video]. YouTube.https://www.youtube.com/watch?v=Dlu6hm2tGQs
  7. Bunney, S., & Stodola, J. (1996). The Illustrated Encyclopedia of Herbs: Their Medicinal and Culinary Uses: Barnes & Noble Books.
  8. Britannica, The Editors of Encyclopaedia. "rosemary". Encyclopedia Britannica, 15 Sep. 2023, https://www.britannica.com/plant/rosemary. Accessed 24 November 2023.
  9. Jagdish. (2018). Rosemary cultivation information guide. (Online). Available : https://www.agrifarming.in/rosemary-cultivation [1 November 2023]
  10. Plant Families / Rosmarinus - Rosemary. (Online). Available : https://www.gardenia.net/plants/plant-family/rosmarinus-rosemary [8 November 2023]
  11. de Macedo, L.M.; Santos, E.M.d.; Militao, L.; Tundisi, L.L.; Ataide, J.A.; Souto, E.B.; Mazzola, P.G. Rosemary (Rosmarinus officinalis L., syn Salvia rosmarinus Spenn.) and Its Topical Applications: A Review. Plants 2020, 9, 651. https://doi.org/10.3390/plants9050651
  12. แอนดาการ์เด้น. เสน่ห์โรสแมรี่พันธุ์พุ่มและพันธุ์เลื้อยที่คุณควรรู้. (ออนไลน์). สืบค้นจาก https://anndagarden.com/rosemary/ [8 พฤศจิกายน 2565]
  13. โรสแมรี. (2565). (ออนไลน์). สืบค้นจาก https://th.wikipedia.org/wiki/โรสแมรี [8 พฤศจิกายน 2565]

แหล่งที่มา

ฝ่ายสารสนเทศ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู