สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ภายใต้การจัดสรรงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้พัฒนาพันธุ์ถั่วลิสง “KU-สวก.20” เพื่อเพิ่มผลผลิตสำหรับเขตภาคกลางและภาคเหนือของประเทศไทย โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปาริชาติ พรมโชติ เป็นหัวหน้าโครงการ
ถั่วลิสง “KU-สวก.20” มีจุดเด่นด้านการให้ผลผลิตสูง (393 กก./ไร่) มีอายุเก็บเกี่ยวเหมาะสมและมีการปรับตัวได้ดีในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต การป้องกันกำจัดวัชพืช รวมถึงการจัดการบริหารจัดการน้ำและธาตุอาหารที่เหมาะสม
คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าจากการผลิตถั่วลิสงในประเทศได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าปีละ 100 ล้านบาท ทั้งในด้านการบริโภค เมล็ดถั่วลิสงพันธุ์ KU-สวก.20 มีคุณภาพดี เหมาะสำหรับการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ถั่วลิสงอบกรอ มีขนาดเมล็ดได้มาตรฐานการแปรรูปถั่วเคลือบ
ทั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่วนราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้จัดกิจกรรมการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตถั่วลิสง (Field Day) ในวันศุกร์ที่ 3 มีนาคม 2566 ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรอำเภอโกรกพระ (ศพก.) หมู่ที่ 5 ตำบลเนินศาลา อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมเปิดตัวถั่วลิสงพันธุ์ใหม่ “KU-สวก.20” ดังกล่าวไปพร้อมกัน
ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรปี พ.ศ. 2564 พบว่าประเทศไทยมีความต้องการใช้ถั่วลิสงภายในประเทศปริมาณสูงถึง 113,498 ตัน แต่ผลิตได้เพียง 25,074 ตัน ส่งผลให้มีการนำเข้าถั่วลิสงจากต่างประเทศปริมาณสูงถึง 89,387 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,003 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลผลิตถั่วลิสงไม่เพียงพอต่อความต้องการ อันเนื่องมาจากเนื้อที่เพาะปลูกลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตของประเทศลดลง โดยพื้นที่เพาะปลูกถั่วลิสงหลักจะอยู่ในเขตภาคเหนือของประเทศ ได้แก่ พื้นที่จังหวัดลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ นครสวรรค์ และอุตรดิตถ์ อีกทั้งผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ของประเทศยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ (ผลผลิตเฉลี่ยปี พ.ศ. 2564/65 เท่ากับ 357 กิโลกรัม/ไร่)