ข่าวสาร
E13 การเงิน/สินเชื่อ
21 ตุลาคม 2565
ขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและชาวประมงที่ประสบภัยพิบัติ

การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินพ.ศ. 2562

คุณสมบัติของเกษตรกร

     เกษตรกรที่จะได้รับการช่วยเหลือต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนด้านประมงกับหน่วยงานของกรมประมง ก่อนเกิดภัยพิบัติแล้วเท่านั้น

ขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือ

     1. จังหวัดดำเนินการประกาศให้ท้องที่นั้นเป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน

     2. เกษตรกรแจ้งขอรับการช่วยเหลือตามแบบยื่นความจำนงขอรับการช่วยเหลือ (แบบ กษ 01) ซึ่งมีผู้ใหญ่บ้าน/กำนัน/อบต. หรือนายกเทศมนตรีประจำท้องที่ตรวจสอบรับรอง และยื่นขอรับความช่วยเหลือกับประมงอำเภอหรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

     3. ประมงอำเภอ ดำเนินการสำรวจ และตรวจสอบความเสียหายของเกษตรกรเป็นรายบุคคล และตรวจสอบกับทะเบียนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของกรมประมง

     4. ประมงอำเภอ นำรายชื่อเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายและผ่านการตรวจสอบแล้ว นำมาประมวลรวบรวม และคำนวณมูลค่าความช่วยเหลือพร้อมลงนามรับรองตามแบบประมวลรวบรวมการช่วยเหลือรายหมู่บ้าน (แบบ กษ 02)

     5. ประมงอำเภอ นำรายชื่อเกษตรกรตามแบบประมวลรวบรวมการช่วยเหลือรายหมู่บ้าน (แบบ กษ 02) นำไปติดประกาศในสถานที่ราชการเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 วัน เพื่อให้เกษตรกรตรวจสอบข้อมูล หรือดำเนินการประชาคมหมู่บ้าน กรณีมีผู้คัดค้านให้ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องใหม่ทั้งหมด 

     6. นำรายชื่อเกษตรกรที่ได้รับความเสียหาย ที่ผ่านการติดประกาศ หรือประชาคมหมู่บ้านแล้วเสนอคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยใช้เงินทดรองราชการในอำนาจอำเภอ

     7. หากวงเงินในอำนาจของอำเภอมีไม่เพียงพอให้นำเสนอคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือโดยใช้เงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด 20 ล้านบาท

     8. หากวงเงินในอำนาจของจังหวัดมีไม่เพียงพอสามารถขอใช้เงินทดรองราชการในอำนาจของปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (50 ล้านบาท)

อัตราการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้

     1. กุ้งก้ามกราม กุ้งทะเล หรือหอยทะเล ไร่ละ 11,780 บาท รายละไม่เกิน 5 ไร่

     2. ปลาหรือสัตว์น้ำอื่นนอกจากข้อ 1. ที่เลี้ยงในบ่อดิน นาข้าวหรือร่องสวน (คิดเฉพาะพื้นที่เลี้ยง) ไร่ละ 4,682  บาท รายละไม่เกิน 5 ไร่

     3. สัตว์น้ำตามข้อ 1. และข้อ 2. ที่เลี้ยงในกระชัง บ่อซีเมนต์ หรือที่เลี้ยงในลักษณะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ตารางเมตรละ 368 บาท รายละไม่เกิน 80 ตารางเมตร

     ทั้งนี้ หากคิดคำนวณพื้นที่เลี้ยงแล้ว ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ประสบภัยพิบัติรายใดจะได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินต่ำกว่า 368 บาท ให้ช่วยเหลือในอัตรารายละ 368 บาท

 

ดาวน์โหลดเอกสาร :

 คู่มือ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ด้านการเกษตร

 คู่มือ หลักเกณฑ์ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ด้านการเกษตร

 - ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดลองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562

 - หลักเกณฑ์การใช้จ้ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563

 - หลักเกณฑ์วิธีปฎิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการใช้จ้ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564

 

แบบฟอร์มรายงานความเสียหาย :

 บันทึกข้อความรายงานสถานการณ์อุทกภัย

 ตารางรายงานความเสียหายเบื้องต้นเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย

 แบบรายงานความก้าวหน้าการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ

แบบประมวลรวบรวมความเสียหายด้านประมง และการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัย

 แบบ กษ 01 / แบบ กษ 02 / แบบ กษ 03


แหล่งที่มา

กรมประมง กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
https://www4.fisheries.go.th/local/index.php/main/view_activities/1245/92627
© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู