ข่าวดี พาณิชย์ถก 3 สมาคมปุ๋ยเคมี ปรับราคาหลังต้นทุนนำเข้าลด กำชับต้องขายปุ๋ยเคมีปลายทางลดลง ย้ำหากพบการเอารัดเอาเปรียบ ทั้งจำทั้งปรับ
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือสถานการณ์สินค้าปุ๋ยเคมี ร่วมกับสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร ว่า ขณะนี้ราคาปุ๋ยเคมี โดยเฉพาะปุ๋ยยูเรียที่มีการใช้มาก ราคาปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งนับตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค.2565 ที่ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด จนถึงปัจจุบันราคาปรับลดลงมาแล้วประมาณ 20% จึงได้ขอความร่วมมือให้สมาคมฯ กำชับไปยังผู้จำหน่ายปุ๋ยเคมีให้ขายในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุน ห้ามฉวยโอกาสขายในราคาแพงกว่าต้นทุน
“สมาคมฯ และผู้ผลิตปุ๋ยเคมียืนยันว่าราคาปุ๋ยเคมีตลาดโลกได้ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง และจะช่วยกำชับให้ผู้จำหน่ายปรับลดราคาให้สอดคล้อง เพราะต้นทุนที่ออกจากโรงงานได้ลดราคาลงมาแล้ว ปลายทางก็ต้องลดลงมาด้วย”
โดยกรมฯ จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป หากพบมีการฉวยโอกาส ไม่ปรับลดราคาให้สอดคล้องกับต้นทุน จะดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด มีโทษสูงสุดจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ราคาจำหน่ายปุ๋ยยูเรียซึ่งเป็นปุ๋ยที่เกษตรกรใช้มาก ราคาเคยขึ้นไปสูงสุดประมาณ 1,600 บาทต่อกระสอบ ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 1,300 บาทต่อกระสอบ
ด้านนายกองเอก เปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย กล่าวว่า ปัจจุบันปุ๋ยยูเรีย ปุ๋ยโพแทส และปุ๋ยฟอสเฟต ไม่มีปัญหาขาดแคลน เพราะกระทรวงพาณิชย์ช่วยประสานกับผู้ผลิตปุ๋ยในซาอุดีอาระเบียจำหน่ายปุ๋ยให้ไทยในราคาพิเศษ ซึ่งเกษตรกรมั่นใจได้ว่าฤดูกาลผลิตที่จะถึงนี้จะมีปุ๋ยเพียงพออย่างแน่นอน
ส่วนราคาจำหน่ายก็ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสมาคมฯ พร้อมที่จะร่วมมือกับกรมการค้าภายใน ในการกำชับให้สมาชิกปรับลดราคาลงมาให้สอดคล้องกับต้นทุนที่ลดลง เพื่อไม่ให้เกษตรกรถูกเอาเปรียบ และคาดว่าราคาปุ๋ยในระยะต่อไปคงจะไม่รุนแรงเหมือนที่ผ่านมา เพราะขณะนี้ทางฝั่งยุโรปไม่ได้เป็นฤดูกาลเพาะปลูก ทำให้ปริมาณปุ๋ยมีเกินความต้องการ แต่ยังต้องจับตาสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อ และอาจมีผลกระทบต่อราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นที่มาของปุ๋ยเคมี อาจจะทำให้ปุ๋ยเคมีราคาสูงขึ้น และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าจะเป็นต้นทุนสำคัญที่จะเพิ่มขึ้น เพราะปุ๋ยเคมีต้องนำเข้า