กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ชี้เป้าของทานเล่นที่ทำด้วยผลไม้ของไทยมีโอกาสโตในตลาดสหรัฐฯ ตามกระแสรักสุขภาพ ตอกย้ำสับปะรด-มะละกอ- มะม่วง-ฝรั่ง-มะขามตากแห้งสุดฮอต พยากรณ์ตลาดขยายตัวแรงยาวถึงปี 2569 แนะบุกตลาดออนไลน์
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก สหรัฐ ได้รายงานผลการวิจัยตลาดขนมขบเคี้ยวและของทานเล่น พบว่าตลาดสินค้าของทานเล่นที่ทำด้วยผลไม้ในตลาดภูมิภาคอเมริกาเหนือ มีมูลค่าถึง 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2569 และอัตราการเติบโตต่อปี 3.6% ในช่วงระหว่างปี 2563-2569
"ถือเป็นโอกาสสำหรับการส่งออกของทานเล่นที่ทำด้วยผลไม้ของไทย เพราะไทยเป็นประเทศที่ผลิตผลไม้เมืองร้อนที่สำคัญของโลก หากวางแผนการผลิตได้ตรงตามความต้องการของตลาด ก็จะทำให้ไทยมีโอกาสส่งออกผลไม้แปรรูปไปยังตลาดสหรัฐได้เพิ่มขึ้นและคาดว่าความนิยมจะขยายตัวไปจนถึงปี 2569"
น.ส.อุษาศรี เขียวระยับ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ ชิคาโก สหรัฐฯ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพ มีความต้องการอาหารที่ดีกว่าหรืออาหารที่ให้คุณประโยชน์ต่อสุขภาพ และให้ความสนใจสินค้าในกลุ่มผลไม้ซึ่งให้ไฟเบอร์ โดยมีกลุ่มผู้บริโภคมิลเลนเนียลเป็นกำลังขับเคลื่อนตลาดสินค้าของทานเล่นทำจากผลไม้
สำหรับการนำเข้าสินค้าผลไม้แห้งจากทั่วโลกของสหรัฐฯ ในปี 2562 มีมูลค่า 2,075.08 ล้านเหรียญสหรัฐ มีแหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ บราซิล อินเดีย และไทย โดยสหรัฐฯ นำเข้าจากไทยเป็นมูลค่า 36.81 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 11.85% หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.77% สินค้าสำคัญของไทย ได้แก่ สับปะรดอบแห้ง มะละกอตากแห้ง มะพร้าวเกล็ด มะม่วงตากแห้ง ฝรั่งตากแห้ง มะขามแห้ง เป็นต้น
ส่วนช่องทางการจำหน่าย มีซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านชำ ร้านขายของเฉพาะ ร้านค้าแบบเป็นสมาชิก ปั๊มน้ำมัน ร้านจำหน่าย สินค้าเพื่อสุขภาพ เป็นช่องทางหลัก แต่ช่องทางการจำหน่ายทางออนไลน์มีการขยายตัวเร็วที่สุด คาดว่าจะขยายตัวมากกว่า 4.6% จนถึงปี 2569 ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ผู้ผลิตรายสำคัญ ได้มีการร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ในการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น