ข่าวสาร
M12 การเพาะเลี้ยง
27 กุมภาพันธ์ 2563
"เลี้ยงกุ้งแม่น้ำในขวดพลาสติก" กินเองก็ได้ ขายก็ดี

ปัจจุบัน กุ้งแม่น้ำเป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้ตลาดมีความต้องการสูง ราคาจึงขยับขึ้นมาเรื่อยๆ จากเมื่อก่อน กิโลละ 200-500 บาท มาถึงทุกวันนี้ถ้าตัวใหญ่มาก ๆ สามารถขายได้ถึงกิโลละ 800-1,300 บาท เลยทีเดียว จึงอยากแนะนำอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ไม่น้อยให้คนเมืองที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งเราสามารถเลี้ยงตามระเบียงบ้านก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นทาวน์เฮาส์ หรืออพาร์ตเมนท์ คอนโดฯ มิเนียม ก็สามารถเลี้ยงกุ้งแบบคอนโดฯ ได้

การเลี้ยงกุ้งคอนโดฯ คือการเลี้ยงกุ้งในขวดพลาสติก หรือชั้นพลาสติก ใช้พื้นที่น้อยมาก โดยใช้ขวดน้ำ หรือชั้นพลาสติกทรงสี่เหลี่ยมให้กุ้งอยู่ แล้วใช้ท่อน้ำตัดเป็นท่อน ท่อนละ 3-4 นิ้ว สำหรับใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวของกุ้ง เพราะกุ้งชนิดนี้เป็นกุ้งขี้อาย ใช้พื้นที่ไม่กี่ตารางเมตรก็สามารถเลี้ยงได้ และที่เรียกว่า “กุ้งคอนโดฯ ”เพราะสามารถเลี้ยงในขวดน้ำพลาสติกได้ และสามารถตั้งซ้อนกันได้หลาย ๆ ขวดเป็นชั้น ๆ คล้ายคอนโดฯ นั่นเอง

วิธีการเลือกซื้อพันธุ์ ให้ซื้อลูกกุ้งขนาดประมาณ 4-5 ซม. พันธุ์กุ้งที่ดีควรมีการว่ายน้ำ ปราดเปรียว แข็งแรง สาเหตุที่ใช้ตัวประมาณนี้เพราะมีอัตราการรอดที่สูงกว่า ถ้าขนาดเล็กกว่านี้อัตราการรอดจะต่ำมาก โดยใช้พ่อพันธุ์และแม่พันธุ์กุ้งก้ามสัก 3 คู่ นำมาเลี้ยงไว้ในตู้ปลา และพอได้ลูกกุ้งครั้งแรกประมาณ 500 ตัว ก็นำ “ขวดพลาสติก” มาเจาะรูเป็นช่องเพื่อนำอาหารใส่ลงไปได้ และเจาะรูเล็ก ๆ สัก 4-5 รูเพื่อระบายอากาศในขวด

‘หมุนเวียนน้ำ’ หัวใจสำคัญของการเลี้ยงกุ้ง น้ำที่จะใช้เลี้ยงกุ้งจะใช้น้ำประปาก็ได้ แต่จะต้องผ่านกระบวนการกำจัดคลอรีนออกแล้ว น้ำมีค่าความเป็นกรด-ด่าง ประมาณ 7-8 (ค่า pH=7-8) ส่วนระบบการหมุนเวียนของน้ำนั้นจะใช้วิธีการสูบน้ำไปในท่อ พีวีซี แล้วเจาะรูให้น้ำหยดลงมาตรงช่องที่วางขวดไว้พอดี เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของน้ำในขวดพลาสติก อัตราการปล่อยน้ำในเวลา 1 นาที ควรจะให้น้ำไหลเข้าขวดได้ประมาณ 600-800 ซีซี น้ำที่ล้นออกมาจากขวดจะไหลตกลงสู่บ่อพักด้านล่าง ซึ่งทำเป็นบ่อคอนกรีตที่มีกรวดและหินช่วยกรองเศษอาหารไว้ น้ำที่ผ่านกระบวนการนี้จะใสสะอาดพร้อมที่จะสูบขึ้นมาใช้ใหม่

โดยในวันแรกที่ปล่อยกุ้งลงในขวดอย่าเพิ่งให้อาหารกุ้ง ค่อย ๆ ให้ในวันถัดมา โดยให้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ในอัตราส่วน 5% ของน้ำหนักตัวกุ้ง หลังจากเลี้ยงกุ้งแม่น้ำได้ประมาณ 4-6 เดือน ก็จะมีขนาดตัวที่ใหญ่พอจะสามารถจับขายได้ แล้วแต่ขนาดและความต้องการของตลาด

ถ้าต้องการเลี้ยงให้ตัวใหญ่ให้ใส่กุ้งเพียงขวดละ 1 ตัว แต่ถ้าไม่ต้องการขนาดใหญ่มากก็ใส่ได้ 3-4 ตัวได้ นอกจากนี้ถ้าเราอยากเลี้ยงจำนวนมาก ๆ ก็เพียงนำขวดพลาสติกมาวางซ้อนกัน เจาะรูด้านบนขนาดเท่าฝาขวดไว้เติมน้ำและให้อาหาร เลี้ยงได้ตัวยาวประมาณ 1 นิ้ว ก็นำมาขายตัวละ 10-17 บาทในแต่ละเดือน สามารถขายลูกกุ้งได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ตัว ก็จะมีรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ส่วนเลี้ยงในคอนโดฯ  หรือเลี้ยงในขวด จะขุนให้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เป็นการสร้างรายได้เสริมนอกจากเงินเดือนประจำ หากขายพ่อ-แม่พันธุ์ จะขายได้คู่ละ 1,300 บาทเลยทีเดียว

เทคนิคที่ช่วยให้กุ้งโตไว ทันใจเรา อาหารเสริมวิตามิน-อาหารที่เราใส่ให้กุ้ง ให้คลุกอาหารเสริมวิตามินเข้าไปด้วย กุ้งจะได้โตไวขึ้น

ทำระบบน้ำวน - ถ้าทำระบบน้ำวนได้จะดีมาก แต่ถ้าไม่ทำระบบน้ำวนก็ต้องอาศัยเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อย ๆ โดยถ้าน้ำเริ่มขุ่นให้รีบเปลี่ยนทันที และควรเติมผง “แร่ธาตุ” ลงไปในน้ำทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำ (ผงแร่ธาตุจะช่วยให้กุ้งลอกคราบได้เร็วขึ้น ทำให้กุ้งเพิ่มขนาดตัวเร็วขึ้น) น้ำต้องสะอาดและออกซิเจนในน้ำต้องเพียงพอ ที่สำคัญอย่าไปเปิดดูกุ้งบ่อยเกินไป เพราะเป็นการรบกวนกุ้ง กุ้งจะตกใจไม่กล้าออกมากินอาหารทำให้โตช้าได้

ต้นทุนเบื้องต้นของการเลี้ยงขึ้นอยู่กับปริมาณกุ้งที่เราเลี้ยง มีตั้งแต่หลัก100-หลักพันบาท ส่วนต้นทุนอาหารประมาณ 300 บาท/ตร.ม.

ระยะเวลาในการเลี้ยงประมาณ 5-6 เดือน จะเริ่มจับขายได้ มีผู้เลี้ยงบางรายที่ทดลองเลี้ยง 6 ชั้น 48 กล่อง สามารถจับขายได้ในเวลา 6 เดือน มีรายได้กว่า 50,000 บาท โดยราคาขายเป็นไปตามขนาด หากมีคนมารับซื้อราคาประมาณ 300-700 บาท ซึ่งพอไปถึงร้านอาหารราคาขายให้ลูกค้าในร้านอาจพุ่งไปถึงกิโลกรัมละ 800-1,300 บาท แต่ถ้าเราขายพ่อ-แม่พันธุ์ราคาขายจะสูงถึงคู่ละ 1,300 บาทเลยทีเดียว

สำหรับราคาขายขึ้นอยู่กับขนาดตัว สามารถขายได้ตั้งแต่กิโลกรัมละ 300-1,300 บาท การเลี้ยงกุ้งแม่น้ำนั้นอาจจะใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในแต่ละครั้ง แต่หากเราเลี้ยงไว้ในปริมาณที่มากพอสมควร ก็สามารถสร้างรายได้เสริมอย่างเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว เหมาะกับคนทำงานประจำมีเวลาน้อย เพราะกุ้งเลี้ยงดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน  


© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู