9 ต้นไม้ปลูกในบ้าน ผู้ช่วยฟอกอากาศและดูดซับฝุ่นละออง
-ต้นยางอินเดีย (Rubber Plant)
ต้นยางอินเดีย เป็นต้นไม้ที่นิยมนำมาปลูกไว้ในบ้านเป็นไม้ประดับ ด้วยลักษณะใบที่มีความสวยงามโดดเด่น ใบมีรูปร่างกลมมน ผิวใบมันเงา หลังใบมีทั้งที่เป็นสีเขียวและสีแดงเข้ม การดูแลต้นยางอินเดียไม่ยุ่งยาก เพียงแต่ไม่ควรวางต้นยางอินเดียไว้ในตำแหน่งที่โดนแสงแดดจัดเกินไป หรืออุณหภูมิสูงเกินไป เหมาะกับการอยู่ในที่แสงแดดรำไร การรดน้ำไม่ควรรดจนดินชุ่ม รดน้ำอย่างมากวันละ 1 ครั้งก็เพียงพอ ต้นยางอินเดียช่วยในการดูดซับฝุ่นละอองและรวมถึงสารก่อมะเร็งอย่างสารฟอร์มาดีไฮด์ในอากาศได้อีกด้วย
-ตีนตุ๊กแก (English Ivy)
ต้นตีนตุ๊กแกเป็นต้นไม้อีกหนึ่งชนิดที่สามารถดูดซับฝุ่นละอองได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังช่วยลดปริมาณสารฟอร์มาดีไฮด์และสารเบนซีนในอากาศ ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง รวมทั้งยังมีสรรพคุณช่วยเกี่ยวกับโรคหอบหืดและโรคหลอดลมอักเสบ รวมถึงอาการแพ้ต่างๆ ได้ ต้นตีนตุ๊กแกเป็นไม่เลื้อยที่สามารถปลูกในบ้านได้โดยการปลูกลงกระถางที่มีโครงหรือเสาแนวตั้งเพื่อให้ต้นเลื้อยขึ้นไป ในการปลูกระยะแรก ควรรดน้ำให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอเพื่อให้ต้นหยั่งรากแข็งแรงก่อน เมื่อต้นแข็งแรงดีแล้วจะสามารถทนแล้งได้ดี และไม่ต้องการการดูแลมาก
-ลิ้นมังกร (Snake Plant)
ลิ้นมังกรเป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดจากแถบแอฟริกาตะวันตก ถือเป็นต้นไม้ที่มีความทนทานสูง ขยายพันธุ์ได้ง่าย ลักษณะใบตั้งตรง แบน การดูแลไม่ยุ่งยาก เพียงวางไว้ในที่ที่ไม่โดนแสงแดดโดยตรง ไม่ควรรดน้ำบ่อยเกินไป ควรปล่อยให้ดินแห้งบ้าง สำหรับการปลูกในกระถาง สามารถใส่ปุ๋ยเพื่อเพิ่มสารอาหารให้ต้นลิ้นมังกรได้ นอกจากจะดูแลง่ายแล้ว ต้นลิ้นมังกรยังเป็นพืชที่แนะนำให้ปลูกในบ้าน เพราะช่วยลดฝุ่นละออง และดูดซับสารพิษในอากาศได้ดี
-เดหลี (Peace Lily)
เดหลี เป็นพืชที่ช่วยดูดซับฝุ่นละอองเช่นกัน รวมไปถึงสารพิษอย่าง สารฟอร์มาดิไฮด์ เบนซีน อะซิโตน ไตรคลอโรเอทีลีน เป็นต้น ลักษณะใบมีสีเขียวเข้มเป็นมัน มีร่องใบชัดเจน ให้ดอกสีขาวคล้ายดอกหน้าวัว ต้นเดหลีเป็นไม้พุ่มที่ชอบแสงแดดรำไร และต้องการความชื้นสูง ควรฉีดน้ำเพื่อให้ความชื้นบริเวณใบ และควรเช็ดฝุ่นละอองบนผิวหน้าของใบบ่อยๆ ข้อควรระวังคือ ต้นเดหลีเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยงและคน ควรปลูกให้ห่างจากมือเด็กๆ และสัตว์เลี้ยงด้วยนะคะ
-หมากเหลือง (Butterfly Palm)
นอกจากเรื่องการดูดซับฝุ่นละอองแล้ว ต้นหมากเหลืองยังได้ชื่อว่าเป็นต้นไม้ที่ช่วยดูดซับสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งสารทูโลอีนและสารไซลีนได้ดีที่สุด ต้นหมากเหลืองสามารถคายไอน้ำออกมาเป็นจำนวนมาก จึงเหมาะกับการปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศค่อนข้างแห้ง เป็นพืชที่ค่อนข้างทนกับสภาพอากาศภายในอาคาร แต่จะดีที่สุดหากอยู่ในสภาพอากาศชื้น หากอากาศแห้งเกินไปปลายใบของต้นหมากเหลืองจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ดังนั้นการดูแลต้นหมากเหลืองจึงต้องรดน้ำและฉีดน้ำที่ใบให้เพียงพอเพื่อให้เกิดความชื้นอยู่เสมอ
-จั๋ง (Lady Palm)
ต้นจั๋งเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลปาล์ม ช่วยดูดซับฝุ่นละอองและสารพิษเช่นกัน ซึ่งต้นปาล์มแต่ละชนิดต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน ต้นจั๋งถือเป็นปาล์มที่มีความทนทานสูง เหมาะกับการนำมาปลูกในบ้าน ต้นจั๋งเป็นพืชที่โตช้า ชอบแดดรำไร และทนต่อโรคแมลงต่างๆ แต่ถ้าหากขาดน้ำนานเกินไป หรืออยู่ในที่อากาศแห้งจะทำให้ปลายใบเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลคล้ายต้นหมากเหลือง จึงต้องคอยดูเรื่องความชิ้นให้เพียงพอ และรดน้ำให้มากขึ้นในฤดูหนาว
-ปาล์มไผ่ (Bamboo Palm)
ปาล์มไผ่ เป็นปาล์มอีกหนึ่งชนิดที่นิยมนำมาปลูกในบ้าน ลักษณะใบเรียวยาว สีเขียวเป็นมัน ออกใบคู่กันบนก้านคล้ายต้นไผ่ ต้นปาล์มไผ่จัดเป็นพืชที่ช่วยเรื่องฟอกอากาศจากฝุ่นละออง รวมทั้งสารพิษโดยเฉพาะสารฟอร์มาดีไฮด์และสารเบนซีนในอากาศ คายความชื้นสูงเหมาะกับการเพิ่มความชื้นภายในห้อง เป็นพืชโตช้า การดูแลไม่ยุ่งยาก ต้นปาล์มไผ่ชอบที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอแต่ไม่ต้องโดนแดดจัด เมื่อนำมาปลูกในบ้านระยะแรก ใบของต้นปาล์มไผ่ที่ติดมากับต้นแต่แรก จะทยอยแห้งตาย เป็นการปรับตัวของต้นปาล์มไผ่ให้เข้ากับสภาพอากาศใหม่ๆ ให้เด็ดไปที่แห้งทิ้งและรอใบใหม่งอกออกมา
-ฟิโลเดนดรอน (Philodendron)
ฟิโลเดนดรอน เป็นพืชที่มีด้วยกันหลากหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีรูปร่างหน้าตาแตกต่างกันออกไป เช่น ฟิโลมรกตแดง ฟิโลใบหัวใจ ฟิโลหูช้าง เป็นต้น เป็นพืชที่ดูแลง่าย โตเร็ว และฟอกอากาศในบ้านจากฝุ่นละอองและสารพิษต่างๆ ได้เป็นอย่างดีตลอดปี ฟิโลเดนดรอนเป็นพืชที่สามารถเลี้ยงได้ในพื้นที่ที่มีแสงปานกลางไปจนถึงพื้นที่ที่มีแสงน้อย หลีกเลี่ยงการโดนแสงโดยตรง เพราะจะทำให้ใบไหม้และไม่เจริญเติบโต สำหรับการปลูกในบ้าน พยายามฉีดละอองน้ำบริเวณใบเพื่อเพิ่มความชื้นและเช็ดฝุ่นละอองออกจากหน้าใบอยู่เสมอ รดน้ำให้ชื้นแต่ไม่ต้องชุ่มเกินไป ในระหว่างที่ต้นกำลังเติบโต ผสมปุ๋ยกับน้ำและฉีดไปที่ต้นหนึ่งครั้งต่อสองสัปดาห์
-เฟิร์นบอสตัน (Boston Fern)
จากการศึกษาพบว่า เฟิร์นบอสตันเป็นพืชที่สามารถกำจัดสารฟอร์มาดิไฮด์ในอากาศได้ดีที่สุด ต้นเฟิร์นบอสตันสามารถสูงได้ถึง 4 ฟุตและก้านใบแผ่ออกคล้ายขนนกยาวได้ถึง 5 ฟุต นิยมปลูกในกระถางแขวนหรือตั้งบนชั้นก็ได้ ต้นเฟิร์นบอสตันชอบสภาพอากาศเย็น ในที่สว่างแต่ห้ามโดนแสงแดดโดยตรง รดน้ำให้ดินชื้นและฉีดพรมให้ทั่วเพื่อให้เฟิร์นบอสตันมีความชุ่มชื้น และเพื่อไม่ให้ใบแห้งเป็นสีน้ำตาล ควรเปลี่ยนกระถางเมื่อต้นและรากขยายใหญ่ขึ้นเพื่อให้ต้นเฟิร์นบอสตันเติบโตได้ต่อไป