หวายทะนอย จัดเป็นเฟินดิน อิงอาศัยขึ้นตามพื้นดินที่มีการทับถมของอินทรียวัตถุ หรืออาจพบตามคาคบไม้ หรือตามต้นเฟินชายผ้าสีดา ลำต้นเล็กเป็นเหลี่ยมเหนือดิน มีสีเขียว สังเคราะห์แสงได้ แต่ไม่มีใบ ต้นสูงประมาณ 20-50 ซม. แตกแขนงออกด้านข้างไปเรื่อย ๆ อาจยาวถึง 80 ซม. โดยแยกสาขาเป็นคู่ ๆ 3-5 ครั้ง ผิวต้นมีติ่งเป็นเกล็ดเล็ก ๆ แตกเจริญออกมา มีอับสปอร์ที่กิ่ง เป็นเกล็ดเล็ก ๆ ไม่มีราก แต่มีไรซอยด์ทำหน้าที่ดูดน้ำและเกลือแร่ รูปร่างเกือบกลม และมี 3 พู สีเขียว เมื่อแก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส่วนลำต้นใต้ดินสีน้ำตาลมีขนเล็ก ๆ ปกคลุม
การนำต้นมาตรวจสอบสายพันธุ์ด้วยหลักพฤกษศาสตร์และพันธุศาสตร์ ทำให้ทราบว่าหวายทะนอยมีมานานร่วมล้านปี และคาดว่าเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่ไดโนเสาร์กินเป็นอาหาร ปัจจุบันหวายทะนอยเป็นพืชที่ค่อนข้างหายาก และพบขึ้นเป็นจำนวนน้อย ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย โดยในธรรมชาติมักขึ้นเป็นกอเล็ก ๆ ตามซอกหิน คบไม้ หรือตามพื้นดินที่มีใบไม้ผุสะสมไม่หนานัก ส่วนต้นแก่มีโตไฟต์ หรือรากที่มีลักษณะเป็นแผ่นเล็ก ๆ เจริญอยู่ติดผิวดินไม่มีคลอโรฟิลล์ ปลูกเลี้ยงได้ค่อนข้างยาก อาจต้องใช้ดินที่มีอินทรียวัตถุมากๆ กับเศษไม้ผุ ๆ ในการขยายพันธุ์ โดยต้นที่เห็นเป็นสปอร์มีอับสปอร์ที่กิ่ง เมื่อสปอร์แก่จะร่วงลงสู่ดิน จะงอกเป็นต้น สร้างเซลล์สืบพันธุ์ต่อไป
สำหรับผู้ที่สนใจ หวายทะนอย เป็นพืชโบราณอีกชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาจัดโชว์ไว้ในงาน “ปู่ไดโนเสาร์ตะลุยพืชโบราณถิ่นล้านนา” ณ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2562