ชันโรง มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่นเช่น คนเหนือเรียก ขี้ตังนี ขี้ตัวนี หรือ ขี้ย้าแดง ภาคใต้เรียก แมลงอุง ทางอีสานเรียก แมลงขี้สูด ภาคตะวันออกเรียก ตัวตุ้งติ้ง
ชันโรงหรือผึ้งจิ๋ว (Stingless bees) คือ แมลงผสมเกสรตัวเล็ก ๆ จัดอยู่ในจำพวกผึ้งแต่ไม่มีเหล็กในเหมือนผึ้ง ชันโรง มีวิวัฒนาการสูงกว่าผึ้งป่าและผึ้งหึ่ง นอกจากนี้ชันโรงยังให้น้ำผึ้งอีกด้วย น้ำผึ้งและเกสรของชันโรงมีราคาแพงกว่าน้ำผึ้งทั่วๆ ไป เนื่องจากเชื่อกันว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่า เพราะรังของชันโรงหายาก และมีปริมาณน้ำผึ้งน้อย ชันโรงช่วยผสมเกสรเพิ่มผลผลิตพืชเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพเพราะชันโรงมีพฤติกรรมการเก็บเกสรดอกไม้ 80 เปอร์เซ็นต์ เก็บน้ำหวาน 20 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ผึ้งมีอัตราส่วนเก็บดอกไม้และน้ำหวาน 50 : 50 เปอร์เซ็นต์ และมีความมั่นคงในการตอมดอกไม้อย่างสม่ำเสมอมีนิสัยไม่ชอบเลือก สรุปว่าชันโรงหรือผึ้งจิ๋วมีนิสัยแตกต่างจากผึ้งพันธุ์ ผึ้งหลวง ผึ้งมิ้ม และผึ้งโพรง ที่สำคัญคือ ชันโรงแพร่กระจายอยู่ทั่วทุกจังหวัดของประเทศไทย
วงจรชีวิตของชันโรง มี 4 ระยะ คือ ระยะไข่ ตัวอ่อน ดักแด้ และตัวเต็มวัย (เหมือนกับผึ้ง) นางพญาของชันโรง จะวางไข่ในหลอดรวง โดยมีชันโรงวรรณะงาน คอยเลี้ยงตัวอ่อนจนพัฒนาเป็นดักแด้ และเป็นตัวเต็มวัย ไข่จะพัฒนาไปเป็นชันโรงวรรณะใดนั้น ขึ้นอยู่กับว่าได้รับการผสมจากน้ำเชื้อหรือไม่ ถ้าไม่ก็จะพัฒนาไปเป็นชันโรงเพศผู้ แต่ถ้าได้รับการผสมก็จะพัฒนาไปเป็นชันโรงเพศเมีย คือ วรรณะงาน และนางพญา ประเภทของชันโรงที่นำมาเพาะเลี้ยงเป็นการค้าในประเทศไทยคือ กลุ่มชันโรงตัวเล็กขนาดไม่เกิน 4 มม. มีประมาณ 3- 4 ชนิด เช่น ชันโรงขนเงินหรือผึ้งจิ๋วขนเงิน เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์จากชันผึ้งหรือพรอพอลิส สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ เช่น
- ใช้ในทางการแพทย์นำมาสกัดสารที่ต่อต้านเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย เป็นส่วนประกอบในการทำยารักษาโรคมนุษย์และสัตว์ ใช้รักษาโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ใช้ผสมเป็นยารักษาโรคทางหู คอ จมูก รักษาโรคผิวหนัง
- ใช้เป็นส่วนผสมในการทำเครื่องสำอาง เพื่อรักษาโรคผิวหนัง และเสริมสร้างเซลล์ผิวหนังที่รับผลกระทบจากเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียเข้าทำลาย
- ใช้ทำยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบโลหิต การหายใจโรคฟัน และโรคผิวหนัง เช่น น้ำร้อนลวก เกิดบาดแผล เป็นต้น
- ใช้เป็นสมุนไพร มีการใช้ชันผึ้งเป็นสมุนไพรในทวีปยุโร และแอฟริกาในการสมานแผล ซึ่งใช้กันมาตั้งแต่สมัยอียิปต์ กรีกและโรมัน ในศตวรรตที่ 12 มีการนำชันผึ้งมารักษาโรคฟันผุและเจ็บคอ
- ใช้ในเทคโนโลยีการอาหาร โดยนำชันผึ้งมาเป็นส่วนผสมในการถนอมอาหาร ยับยั้งการหมักบูดที่เกิดจากเชื้อราและแบคทีเรียในอาหาร นอกจากนี้ยังนำมาใช้ในโภชนาการอาหารสัตว์ โดยผสมในอาหารสัตว์ได้
หากเกษตรกรผู้ใดสนใจหรือมีปัญหาข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงชันโรง และใช้ชันโรงผสมเกสรพืช กรุณาติดต่อโดยตรงกับทาง ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดชุมพร (ผึ้ง) โทรศัพท์ 077-574519-20 ได้ทุกวัน ในเวลาราชการ และในอนาคตไม่นานเกินรอ เราคงได้เห็น “ชันโรง” แจ้งเกิดในฐานะสัตว์เศรษฐกิจอีกตัวหนึ่งของประเทศ