สภาพอากาศช่วงนี้ อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนตกบางพื้นที่ ความชื้นสูง และหมอกลงจัด เตือนผู้ปลูกมันฝรั่ง โรคนี้สามารถเกิดได้ทุกระยะการเจริญเติบโต ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

✅ อาการของโรค
เริ่มต้นที่ใบล่าง จุดแผลฉ่ำน้ำสีเขียวหม่นคล้ายถูกน้ำร้อนลวก
ลุกลาม แผลขยายใหญ่ กลางแผลแห้งสีน้ำตาล ขอบแผลฉ่ำน้ำสีดำ
อาการใต้ใบ พบละอองน้ำเล็ก ๆ สีขาวใส (สปอร์เชื้อรา)
ผลสุดท้าย ใบไหม้แห้งสีน้ำตาลทั้งต้น
ลำต้น/กิ่ง แผลสีน้ำตาลหรือดำ ทำให้หักพับและแห้งตาย
หัวมันฝรั่ง เน่าเสียเมื่อถูกเชื้อเข้าทำลาย
🛡️ แนวทางป้องกัน
1. หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่เคยมีการระบาด
2. ไถพลิกดินตากแดด 1–2 สัปดาห์
3. ใช้พันธุ์ปลอดเชื้อ
4. ปรับระยะปลูกให้โปร่ง
5. ไม่ให้น้ำมากเกินไป และหลีกเลี่ยงการให้น้ำตอนเย็น
6. ตรวจแปลงสม่ำเสมอ
⚔️ วิธีแก้ไขเมื่อพบโรค
- ถอนต้นที่เป็นโรครุนแรงและทำลายนอกแปลง
- พ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อราให้ทั่วทั้งบนใบและใต้ใบ ทุก 5 วัน
ตัวอย่างสารและอัตราการใช้
ไดเมโทมอร์ฟ 50% WP (30–40 กรัม/น้ำ 20 ลิตร)
ไซมอกซานิล + ฟามอกซาโดน 30%+22.5% WG (40 กรัม/น้ำ 20 ลิตร)
ไซมอกซานิล + แมนโคแซบ 8%+64% WP (50–60 กรัม/น้ำ 20 ลิตร)
เมทาแลกซิล-เอ็ม + แมนโคเซบ 4%+64% WG (40–50 กรัม/น้ำ 20 ลิตร)
โพรพิเนบ + ไอโพรวาลิคาร์บ 61.3%+5.5% WP (40–50 กรัม/น้ำ 20 ลิตร)
โพรพิเนบ + ฟลูโอพิโคไลด์ 66.7%+6% WP (20–30 กรัม/น้ำ 20 ลิตร)
สิ่งสำคัญ ควรสลับชนิดสาร อย่าใช้ซ้ำชนิดเดียวกัน เพื่อป้องกันเชื้อราดื้อยา
📝 หลังเก็บเกี่ยว เก็บซากพืชและหัวมันฝรั่งตกค้างไปทำลายนอกแปลง เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อ
