ช่วงนี้มีฝนตกกระจายและบางพื้นที่ตกหนัก ส่งผลให้ไรกระเทียมระบาดได้ง่าย ขอให้เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมระมัดระวัง เนื่องจากสามารถทำลายได้ทั้ง ระยะต้นกล้า-ปลูกลงดิน และระยะหลังเก็บเกี่ยว

อาการที่พบ
* ใบมีด่างสีขาว/เหลืองเป็นหย่อม โดยเฉพาะขอบใบ
* ใบพับเข้าหากัน ปลายใบม้วนงอพันกัน
* ใบอ่อนด่างขาว บิดเป็นคลื่น ไม่ยืดตรง
* ระยะลงหัว → หัวเล็ก ไม่สมบูรณ์
* หลังเก็บเกี่ยว → ไรย้ายมาทำลายหัวกระเทียม ทำให้กลีบแห้ง เหี่ยว เปลี่ยนเป็นเหลือง–น้ำตาล และฝ่อเสียหาย
แนวทางป้องกัน
1. คัดเลือกพันธุ์
* ใช้หัวพันธุ์สมบูรณ์ จากแหล่งที่ไม่เคยมีการระบาด
* แยกเก็บหัวพันธุ์ออกจากหัวที่บริโภค
2. จัดการแปลง
* กำจัดวัชพืชในแปลงและคันนา ก่อนปลูก
3. สำรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอ
* เริ่มตรวจเมื่อกระเทียมอายุ 3 สัปดาห์
* หากพบใบเหลือง–ม้วนงอเกิน 25% → พ่นสารฆ่าไร พร้อมสารจับใบ
* ตรวจทุก 14 วัน และพ่นซ้ำหากยังพบการระบาด
สารที่แนะนำ
* อะมิทราซ 20% EC อัตรา 40 มล./น้ำ 20 ลิตร
* กำมะถันผง 80% WP อัตรา 55–70 กรัม/น้ำ 20 ลิตร
* ไตรอะโซฟอส 40% EC อัตรา 30 มล./น้ำ 20 ลิตร
4. ป้องกันช่วงเก็บรักษา
* แขวนหัวกระเทียมให้แห้ง แล้วรมด้วยอลูมิเนียมฟอสไฟด์ (ฟอสฟีน)
* อัตรา 1 เม็ด/1 ลบ.ม. คลุมด้วยพลาสติก รมทิ้งไว้ 5 วัน
* ถ้าเป็นหัวพันธุ์ → ควรรมซ้ำอีก 1 ครั้ง ก่อนนำไปปลูก
ข้อควรระวัง
* อะลูมิเนียมฟอสไฟด์/ฟอสฟีน เป็นสารพิษอันตราย
* หลีกเลี่ยงการสูดดม ขณะเปิดผ้าพลาสติกต้องทำในที่โล่ง อากาศถ่ายเท
📢 ขอให้เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมในทุกพื้นที่เฝ้าระวังและดำเนินการตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสียหายต่อผลผลิต
