ช่วงสภาพอากาศฝนตกชุกและฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ เป็นช่วงเสี่ยงที่มะเขือเทศอาจเผชิญโรค เหี่ยวเขียวหรือเหง้าเน่า ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Ralstonia solanacearum โรคนี้สามารถเกิดได้ทุกระยะการเจริญเติบโตและสร้างความเสียหายรุนแรงจนต้นมะเขือเทศตายในที่สุด

|
อาการสำคัญ - ใบล่างเหี่ยวลู่ลง ใบแก่เหลือง ขอบใบม้วนลง - ช่วงแรกเหี่ยวเฉพาะตอนกลางวัน สุดท้ายเหี่ยวถาวรจนลามถึงยอด - เมื่อถอนต้น พบว่ารากเน่า และเมื่อตัดลำต้นแช่น้ำ จะมีเมือกสีขาวขุ่นไหลออกมา - ต้นที่อาการรุนแรงจะกลวงภายในจากการถูกทำลายของเนื้อเยื่อ
แนวทางป้องกันและแก้ไข - เลือกพื้นที่ปลูกที่ไม่เคยมีการระบาด และมีการระบายน้ำดี - อบดินฆ่าเชื้อด้วยยูเรีย (80 กก./ไร่) ร่วมกับปูนขาว (800 กก./ไร่) ทิ้งไว้ 2–3 สัปดาห์ก่อนปลูก - ทำความสะอาดอุปกรณ์ด้วยแอลกอฮอล์ 70% หรือคลอรอกซ์ 10% ทุกครั้งก่อนใช้ - ตรวจแปลงสม่ำเสมอ หากพบต้นเป็นโรคให้ขุดออกไปทำลายนอกแปลงและโรยปูนขาวในหลุม - หลีกเลี่ยงปลูกพืชอาศัย เช่น พืชตระกูลมะเขือ พริก ขิง และถั่วลิสง ใกล้แปลงปลูก - ปรับระบบให้น้ำ ไม่ให้ดินชื้นเกินไป - ใช้การปลูกพืชหมุนเวียนที่ไม่เป็นพืชอาศัย เช่น ข้าวโพด ข้าว ฝ้าย หรือถั่วเหลือง อย่างน้อย 1 ปี
|