นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) ครั้งที่ 1/2568 ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลเสถียรภาพสินค้าเกษตร โดยเฉพาะ “มันสำปะหลัง” ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ และเป็นหนึ่งใน 7 ประเด็นภายใต้นโยบาย “Quick Big Win” ของกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งแก้ปัญหาสินค้าเกษตรผ่านการบริหารสมดุลอุปสงค์–อุปทาน และลดภาระต้นทุนของเกษตรกร

ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางขับเคลื่อน 4 มาตรการสำคัญ รวม 8 โครงการ งบประมาณรวมกว่า 1,279.22 ล้านบาท เพื่อรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลังปี 2568/69 ครอบคลุมทั้งด้านการผลิต การตลาด และการควบคุมศัตรูพืช ดังนี้

🔹 4 มาตรการหลัก

1. การรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลัง
   ใช้งบประมาณ 453.15 ล้านบาท เพื่อชะลอการเก็บเกี่ยวและชดเชยดอกเบี้ยให้ลานมัน โรงแป้ง โรงงานเอทานอล และสถาบันเกษตรกร เพิ่มสภาพคล่องและลดแรงกดดันด้านราคาในช่วงผลผลิตออกมาก

2. ส่งเสริมการผลิตและการแปรรูป
   สนับสนุนให้เกษตรกรเข้าถึงพันธุ์มันคุณภาพดี ทนโรค และให้ผลผลิตสูง ผ่านโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกและโครงการยกระดับเครื่องสับมัน

3. เพิ่มช่องทางการตลาดและกระจายผลผลิต
   สนับสนุนค่าขนส่ง 500 บาทต่อตัน ให้ผู้รับซื้อนอกพื้นที่เพื่อเชื่อมโยงตลาดระหว่างภูมิภาค

4. ควบคุมโรคใบด่างมันสำปะหลัง
   อนุมัติโครงการสนับสนุนท่อนพันธุ์คุณภาพดี วงเงิน 25.75 ล้านบาท จากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และโครงการบริหารจัดการพันธุ์ต้านทานโรค วงเงิน 800.32 ล้านบาท จากงบกลาง เพื่อขยายพันธุ์รวมกว่า 262 ล้านลำ ระหว่างปี 2569–2571

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการ นบมส. 5 คณะ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานในระดับพื้นที่ ครอบคลุมด้านบริหารจัดการระดับจังหวัด การชดเชยดอกเบี้ย การควบคุมศัตรูพืช และจัดทำยุทธศาสตร์มันสำปะหลังระยะ 5 ปี (2569–2573)

จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดว่า ปีการผลิต 2568/69 จะมีพื้นที่เก็บเกี่ยว 8.12 ล้านไร่ ผลผลิตรวม 25.56 ล้านตัน แม้ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน แต่คุณภาพผลผลิตยังคงได้รับผลกระทบจากโรคใบด่างและการเก็บเกี่ยวก่อนอายุครบกำหนด โดยราคามันสำปะหลังเฉลี่ยต้นเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 2.18 บาทต่อกิโลกรัม

“รัฐบาลมุ่งสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกรในทุกมิติ ทั้งด้านราคา การผลิต และตลาด ผ่านการบูรณาการกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการได้รับประโยชน์สูงสุด และสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนในตลาดโลก”
— นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ — รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์