ตอบคำถามคุณ Worapot ทางภาควิชาปฐพีวิทยา มก. ได้ช่วยตอบดังนี้ค่ะ ข้อมูลผลการทดลองปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์กับซัลเฟตในทุเรียน 2508 มีข้อมูลบางส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ - ขาดแนวทางการวางแผนการทดลอง - ขาดข้อมูลอายุของทุเรียนที่ใช้ในการทดลอง - ขาดข้อมูลดินที่ใช้ในการทดลอง เนื่องจากถ้าดินนั้นมีปริมาณคลอไรด์สูง และมีการชะละลายด้วยน้ำต่ำ หรือดินเป็นที่ลุ่ม การใช้ปุ๋ยคลอไรด์อาจเกิดการสะสมเวลาจนเป็นพิษต่อพืชได้ - ขาดข้อมูลขนาดของดินที่ใช้ในการทดลอง (หม้อ) และปริมาณปุ๋ยที่ใช้ทั้งหมด จากการทดลองระบุว่าใส่ปุ๋ยครั้งละ 2 กรัม เดือนละ 2 ครั้ง จำนวน 4 เดือน รวมปริมาณปุ๋ยทั้งหมด 16 กรัมหม้อ - ผลจากการทดลองพบว่าต้นที่ไม่ใส่ปุ๋ย (ตำรับที่ 4) มีอัตราการตายใกล้เคียงกับตำรับที่ใช้ปุ๋ยโปแตสเซียมคลอไรด์ มีเพียงสำหรับที่ใช้ปุ๋ยโพแทสเซียมซัลเฟตที่มีต้นที่ปกติ - น้ำหนักรากของต้นที่ใส่ปุ๋ยคลอไรด์มีน้ำหนักใกล้เคียงกับต้นที่ไม่ใส่ปุ๋ยจากสาเหตุต่าง ๆ ดังกล่าว หากต้องการทราบคำตอบ อาจต้องใช้งานทดลองอื่นเทียบเคียง ส่วนคำถามที่ 2 สารประกอบคลอรีนละลายน้ำได้ง่ายมาก ถ้าดินมีการระบายน้ำดี มักไม่เกิดการสะสมคลอรีนจนเกินระดับที่เป็นพิษต่อพืช ยกเว้นในในอัตราสูงอย่างต่อเนื่อง หากสงสัยว่าจะเกิดความเป็นพิษ สามารถวิเคราะห์ปริมาณคลอรีนในดิน หรือในตัวอย่างใบพืชได้ค่ะ
สวัสดีครับ มี 2 คำถามเรื่องปุ๋ยโปแตสเซียมครับ
คำถามที่ 1 อยากสอบถามว่างานวิจัยเรื่องการใส่ปุ๋ยโปแตสเซียมคลอไรด์ 0-0-60 กับ ปุ๋ยโปแตสเซียมซัลเฟต 0-0-45 กับต้นทุเรียน ตั้งแต่ พ.ศ. 2506 (ข้อมูลที่อ่านมาจากลิงค์นี้ครับ http://www.lib.ku.ac.th/KUCONF/KC0401093.pdf) ยังมีความถูกต้องหรือไม่ครับ เพราะปุ๋ยโปแตสเซียมซัลเฟตราคาแพงกว่า โปแตสเซียมคลอไรด์และหายากกว่ามาก
คำถามที่ 2 จุลธาตุคลอรีน ซึ่งพืชต้องการน้อยมาก แต่มีอยู่ในปุ๋ย 0-0-60 เกือบครึ่งหนึ่ง ถ้าใส่ลงไปในดินทุกๆ ปี จะมีผลอันตรายอะไรต่อพืชหรือไม่ อย่างไรครับ