การเคหะแห่งชาติ ร่วมกับ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ ระหว่าง นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และนายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยมี เรืออากาศโท ชัยรัตน์ ทองบริบูรณ์ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และ ดร.ทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 ณ อาคารนวัตกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เพื่อร่วมมือกันทางวิชาการส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์ร่วมกันของข้อมูล โดยแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการเกษตรในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยของประชาชน ตลอดจนเชื่อมโยงการใช้ข้อมูลภูมิสารสนเทศเพื่อวางแผนพัฒนาพื้นที่ เช่น การปรับปรุงดิน การส่งเสริมการเพาะปลูก และพัฒนาตลาดเกษตรและสินค้าชุมชน ที่สำคัญคือ การให้บริการข้อมูลด้านการเกษตรด้วยระบบภูมิสารสนเทศ มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรมาปรับใช้ และร่วมกันพัฒนาบุคลากรของทั้ง 2 หน่วยงาน ตลอดจนส่งเสริมความสัมพันธ์ และพัฒนาด้านการเกษตรให้แก่ผู้อยู่อาศัยในชุมชนของการเคหะแห่งชาติร่วมกัน
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติ มุ่งพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบ ดังนั้นการส่งเสริมอาชีพ และสร้างรายได้ให้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนชุมชน จึงเป็นเป้าหมายสำคัญของการเคหะแห่งชาติ
ทั้งนี้ ด้วยความร่วมมือทางวิชาการกับสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จะทำให้ชุมชนของการเคหะแห่งชาติ เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการเกษตร โดยจะส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
เพื่อพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจของคนในชุมชนให้เข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยมีการพัฒนาเมืองและชุมชนให้มีสภาพแวดล้อมที่ดี พร้อมส่งเสริมการพัฒนาด้านการเกษตรในรูปแบบต่าง ๆ ร่วมกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนในชุมชนให้เกิดความมั่นคง และยั่งยืน
“การสร้างรายได้ทางการเกษตร ด้วยการผลิต การแปรรูป และสร้างการตลาดของพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงในพื้นที่ที่จำกัด นับเป็นสิ่งที่การเคหะแห่งชาติและประชาชนในพื้นที่มีความต้องการอย่างมาก เพราะทำให้มีทางเลือกและช่องทางการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้จากการทำการเกษตรมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มศักยภาพด้านการเกษตรให้แก่ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ของการเคหะแห่งชาติ และพื้นที่โดยรอบให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน” นายทวีพงษ์ กล่าว
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมที่จะสนับสนุนข้อมูลด้านการเกษตร ทั้งด้านพื้นที่ ข้อมูลพืชและสินค้าเกษตร Future crop ที่เหมาะสมกับพื้นที่ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีการปลูกพืชในโรงเรือน และอาคารปิด เพื่อแนะนำ ส่งเสริมการผลิตที่มีคุณภาพ และมูลค่าสูงในพื้นที่จำกัด ด้วยต้นทุนที่ต่ำ โดยจะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อถ่ายทอดความรู้ ข่าวสาร ให้เหมาะสมกับประชาชนในแต่ละพื้นที่ของการเคหะแห่งชาติต่อไป