เรียกว่ามีกระแสมาให้ตื่นเต้น และอยากทดลอง (ชิม) อยู่ตลอดเวลา กับเมนูอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา ซึ่งได้รับการปลดล็อก อนุญาตให้นำมาประกอบอาหารรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นของคาว ของหวาน เมนูหลากหลายที่ชวนให้คนที่สนใจในประโยชน์ของกัญชา รวมถึงคนที่อยากลอง ได้ไปลิ้มรสดูสักครั้ง
อีกร้านที่เรียกว่าเป็นกระแสชั่วข้ามวัน ได้รับการตอบรับแบบอุ่นหนาฝาคั่งจากคนให้ความสนใจเรื่องของกัญชา และคนที่ชอบลองของใหม่ กับ 420 Cannabis Bar Bangkok บาร์ที่หลายคนนิยามว่า เป็นบาร์ลับๆ ตั้งอยู่ที่ย่านศรีนครินทร์ บาร์เครื่องดื่มที่นำใบกัญชา มาสกัดด้วยกรรมวิธีตามสูตรที่ได้มาจากแคนาดา จนกลายมาเป็น ...ชากัญชา... ที่ช่วยดับกระหาย ผ่อนคลาย และไม่มีอันตรายกับร่างกาย

จุดเริ่มต้น “คาเฟ่ กัญชา”

เปอติ๊ด-ญาดา โกเมศ เล่าถึงจุดเริ่มในการทำ 420 Cannabis Bar Bangkok ให้ฟังว่า ร้านนี้มีหุ้นส่วน 3 คน คือตัวเธอ, นิชชิน ประสาระเอ และ สุพัฒนา อัยยะพิพัฒน์ ซึ่งทั้งสามคน มีความสนใจเกี่ยวกับกัญชาอยู่แล้วและติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการปลดล็อกกัญชามาโดยตลอด จนเมื่อมีการปลดล็อกส่วนของใบ ลำต้น และรากของกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 จึงปิ๊งไอเดียให้เริ่มทำคาเฟ่กัญชา เนื่องจากมองว่า ในประเทศไทย ยังไม่มีใครทำคาเฟ่เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชาเป็น base หรือเป็นฐานตั้งต้น

ซึ่งหากนำส่วนของกัญชาที่ได้รับการปลดล็อกมาประกอบอาหาร หรือนำมาเป็นส่วนผสมในอาหาร สามารถทำได้เลย โดยเธอและเพื่อนๆ ปรับพื้นที่ส่วนหนึ่งของสำนักงานมาทำเป็นคาเฟ่ ทดลองตลาดในช่วงแรก เพราะตอนนี้เรายังไม่รู้มูลค่าการตลาดที่แท้จริง เนื่องจากกัญชายังเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับบ้านเรา ส่วนกลุ่มลูกค้าของร้าน ก็จะมีทั้งลูกค้าที่สนใจในเรื่องของกัญชาอยู่แล้ว กับลูกค้าที่ชอบทดลองอะไรใหม่ๆ ถ้าถามว่ามันจะกลายเป็นแค่กระแสหรือไม่ เธอเชื่อว่าไม่ เพราะหากได้ลองศึกษาสาร CBD (cannabidiol) ที่สกัดได้จากใบกัญชา จะรู้ว่ามีประโยชน์มากในทางการแพทย์ อีกทั้งสูตรการอบใบกัญชาก็นำมาจากแคนาดา ประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ใช้กัญชาอย่างถูกต้อง ซึ่งเปอติ๊ดบอกว่า สูตรในการอบ ถือเป็นท็อปซีเคร็ต

“เชื่อว่าหลายคนคิดแค่ว่า กัญชา เท่ากับเมา แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ สาร CBD ที่สกัดออกมาจากใบกัญชา มีปริมาณน้อยมาก ไม่ทำให้เมา สามารถขับรถได้ ลูกค้าบางคนมาถึงร้าน ถามคำถามแรก ดื่มแบบไหนเมาสุด ซึ่งเราก็อธิบายว่า เป็น CBD ช่วยในเรื่องเมดิคอล และไม่มีสาร THC (Tetrahydrocannabinol) หรือสารเมา ซึ่งลูกค้าที่คาดหวังว่าจะดื่มแล้วเมา ก็ต้องชี้แจงว่า มันเป็นไปไม่ได้

นอกจากนี้ เปอติ๊ด ยังฝากเตือนด้วยว่า กัญชา ไม่ได้มีประโยชน์สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอย่าง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคตับ ไตบกพร่อง หรือผู้ที่ใช้ยาลิ่มเลือด ซึ่งเป็นข้อต้องห้าม ต้องหลีกเลี่ยงการใช้ประโยชน์จากกัญชาทุกกรณี

ขณะที่ นิชชิน หุ้นส่วนของ 420 Cannabis Bar Bangkok อีกคน บอกว่า สำหรับกัญชาที่เรานำมาใช้เป็นส่วนผสมในชากัญชานั้น มาจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี หนึ่งในสถานที่ที่ได้รับอนุญาตในการปลูกเพื่อการแพทย์ และได้รับอนุญาตให้นำส่วนอื่นๆ นอกจากช่อดอกมาทำผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ซึ่งกัญชาที่นี่จะปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ คือ การทำการเกษตรด้วยกรรมวิธีทางธรรมชาติ ไม่มีสารพิษหรือสารเคมีตกค้าง ผลผลิตที่ได้ตรวจในห้องปฏิบัติการแล้ว ไม่พบค่าโลหะ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกกัญชาที่ประเทศไทยปลูกได้

สนใจเรื่องกัญชามาประมาณ 2 ปีแล้ว พอรู้ว่าจะมีการปลดล็อกกัญชา ก็ติดตามว่าจะออกราชกิจจานุเบกษาเมื่อไร พอมีประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 14 ธันวาคม 2563 เราก็ศึกษาว่า มีแหล่งไหนที่ปลูกบ้าง จากนั้นก็ทำหนังสือสอบถามไปหลายๆ แหล่ง สุดท้ายก็ไปจบที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ซึ่งมีการเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการรายย่อย

ซึ่งขั้นตอนการติดต่อขอซื้อกัญชาเพื่อนำมาใช้ในธุรกิจไม่ได้ยากอย่างที่คิด นิชชินบอกว่า ยังอยากให้เกิดเทรนด์กัญชาในบ้านเรา โดยทุกคนสามารถติดต่อไปขอข้อมูลที่มหาวิทยาลัยได้ ด้วยการเขียนแผนธุรกิจเสนอเข้าไป หลักๆ คือ ต้องอธิบายได้ว่า เราจะนำมาใช้แบบไหน อย่างไร ทำให้เชื่อมั่นว่าผู้บริโภคจะได้รับความปลอดภัย รวมถึงโรงงานที่ผลิต ชากัญชา ให้ ก็ต้องมีใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามหลักสากล จากนั้น ทางมหาวิทยาลัย ก็จะคอยติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ความปลอดภัยของผู้บริโภค คือ สิ่งสำคัญ

เมื่อถามว่า มองตลาดกัญชาในบ้านเราเป็นอย่างไร นิชชินมองว่า กัญชาต้องมาจากแหล่งที่ถูกต้องและได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภค เพราะบางแหล่งอาจไม่สามารถควบคุมคุณภาพของผลผลิตได้ อาจทำให้มีค่า THC สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พอนำมาทำเครื่องดื่มก็จะกลายเป็นสารเสพติด หรือเครื่องดื่มที่เป็นอันตราย อีกทั้งถ้ากัญชาที่ปลูกในแหล่งที่ไม่ดีหรือมีโลหะหนัก แทนที่จะได้ประโยชน์ ก็กลายเป็นเครื่องดื่มที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

จริงๆ กัญชามีประโยชน์มากกว่าโทษ แต่หลายคนนำไปใช้ในทางที่ผิด นำไปเสพ ไปสูบ ก็กลายเป็นสารเสพติด แทนที่จะนำใบมาสกัดเอา CBD ไปทำเป็นเครื่องดื่ม ซึ่งประโยชน์ดีกว่าสมุนไพรอีกหลายๆ ตัวด้วยซ้ำ

เมนู ซิกเนเจอร์ จังหวัดอื่นๆ มีโอกาสได้ลิ้มลอง

เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน คือ The Original หรือ ชากัญชา 100% นิชชินบอกว่า เมนูนี้ ผู้ดื่มจะสัมผัสได้ถึงความเป็นกัญชาแท้ๆ รสชาติไม่ต่างจากชาเขียว ใครกินชาเขียวได้ก็กินชากัญชาได้ แต่หากใครรู้สึกว่ากินยากไป จะมีเมนูที่ชื่อว่า Herbs Party CBD ซึ่งจะมีชากัญชาเป็นเบส ผสมด้วยน้ำตาลหญ้าหวาน ดอกเก๊กฮวย ทำให้ดื่มง่ายกว่า

ถามว่าการดื่มครั้งแรกจะรู้สึกอย่างไร ขึ้นอยู่กับระบบภายในร่างกายของแต่ละคนเลย ที่แน่ๆ คือดับกระหาย บางคนก็ผ่อนคลาย แต่ไม่มีอาการเมาแน่นอน” นิชชินกล่าว

นิชชินบอกด้วยว่า ในอนาคตมีแพลนที่จะขยายร้าน เนื่องจากตอนนี้ที่คาเฟ่ไม่สามารถรองรับลูกค้าได้เพียงพอ เพราะตอนแรกตั้งใจว่าจะเปิดร้านเล็กๆ เพื่อดูกระแส แต่กลับกลายเป็นไวรัล มีคนแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย ลูกค้าหลายคนเกิดพฤติกรรมซื้อซ้ำ ซึ่งวางแผนไว้ว่า เร็วๆ นี้จะขยายสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และตามหัวเมืองต่างจังหวัด โดยช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ จะมีสาขาใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม รองรับจำนวนลูกค้าได้มากขึ้น ที่ซอยปรีดีพนมยงค์ ซึ่งถือว่าเป็นการขยายสาขาที่ไวมากๆ เพียงแค่สิบกว่าวันหลังจากเปิดตัวสาขาแรกไป

ใครที่เป็นสายเบเกอรี นิชชิน บอกด้วยว่า ในอนาคต ที่ร้านก็มีขนมที่มีกัญชาเข้ามาเป็นส่วนประกอบ ซึ่งตอนแรกวางแผนจะเปิดในเร็วๆ นี้ แต่เพราะคำนึงในเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก หลังจากที่คิดสูตรแล้วลองทำขึ้นมา ต้องส่งไปทดสอบก่อนเพื่อความปลอดภัย ก่อนที่จะนำมาจำหน่าย

สำหรับ 420 Cannabis Bar Bangkok ตั้งอยู่ที่ถนนศรีนครินทร์ 57 พรีเมียร์ 1 แยก 8 เปิดให้บริการทุกวัน โดยวันอาทิตย์-พฤหัสฯ จะเปิดเวลา 10.30-20.00 น. และวันศุกร์-เสาร์ ในเวลา 10.30-22.00 น.

ผู้เขียน : เจ๊ดา วิภาวดี
กราฟฟิก : Phantira Thongcherd
ภาพ : เอกลักษณ์ ไม่น้อย