“เกษตรฯ” ชูธงนโยบายเกษตร-อาหารปลอดภัย ระดมพล แก้เนื้อวัวปลอมระบาด
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรมาตรฐานฮาลาล เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสมาคมการค้าธุรกิจไทยมุสลิม ได้มาพบหารือเมื่อวันที่ 29 ก.ค. เกี่ยวกับปัญหาการระบาดของเนื้อวัวเทียมที่ใช้เนื้อหมูหมักเลือดวัวในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด จึงได้เชิญ 10 หน่วยงาน ประกอบด้วย ผู้แทนกรมปศุสัตว์ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานอาหารและยา นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค กรมสอบสวนคดีพิเศษ พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.คบ) ดร.ปกรณ์ ปรียากร ผู้อำนวยการสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย นายสมศักดิ์ เมดาน รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ดร.วินัย ดะห์ลัน ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมาคมการค้าธุรกิจไทยมุสลิม และคณะกรรมการส่งเสริมและ พัฒนาสินค้าเกษตรมาตรฐานฮาลาลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมหารือเป็นการเร่งด่วนในวันรุ่งขึ้นทันที
เนื่องจากปัญหาดังกล่าวเริ่มส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและพี่น้องมุสลิมในวงกว้างมากขึ้น เพราะนอกจากมีการขายตามเขียงและรถเร่ ยังมีการขายออนไลน์กระจายไปทั่ว ซึ่งตัวแทนคณะกรรมการกลางอิสลามฯและสถาบันมาตรฐานฮาลาลรวมทั้งสมาคมการค้าธุรกิจไทยมุสลิม แสดงความกังวลว่า ปัญหาเนื้อวัวปลอมที่ทำจากสุกรกระทบพี่น้องมุสลิมโดยตรง และจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในมาตรฐานฮาลาล โดยเฉพาะผู้ประกอบการกว่า 150,000 รายที่ได้มาตรฐานฮาลาลอละ ถ้าไม่จัดการโดยเฉียบขาดเร่งด่วนจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกอาหารของประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มประเทศมุสลิม 2,000 ล้านคน รวมทั้งชาวมุสลิมที่เดินทางมาท่องเที่ยวหรือมาใช้บริการทางการแพทย์ในประเทศไทย เพราะกลัวอาหารที่ปลอมปนเนื้อสุกร
โดยศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รายงานว่า มีการส่งตัวอย่างมาให้วิเคราะห์ 42 ตัวอย่าง ทั้งที่เป็นเนื้อสดและปรุงเป็นอาหารปนเนื้อวัวปลอมขายในโรงเรียน ผลปรากฏว่าเป็นเนื้อวัวปลอมที่ทำจากเนื้อหมูหมักเลือดวัว 70% ส่วนตัวอย่างที่ขายผ่านออนไลน์เป็นเนื้อวัวปลอม 100% และมีเชื้อโรคเป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค
ในส่วนกรมปศุสัตว์ร่วมกับ บก.คบ. รายงานว่า ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน-กรกฎาคม ได้จับกุมหลายรายในจังหวัดปราจีนบุรีและกรุงเทพมหานคร แต่ไม่มีเครื่องมือเพียงพอในการจัดการกับการค้าออนไลน์ ซึ่งดีเอสไอ สคบ. และ อย.ยินดีที่จะบูรณาการการทำงานกับ บก.คบ. และกรมปศุสัตว์ โดยใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับมาใช้ในการจัดการปัญหานี้ ได้แก่ ประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ร.บ.ควบคุมโรคระบาดสัตว์ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายและ พ.ร.บ.อาหารและยา ฯลฯ