ข่าวสาร
P10 ทรัพยากรน้ำ
24 มีนาคม 2563
กรมชลประทานย้ำปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์น้อย เหลือใช้เฉพาะเพื่อการอุปโภคอย่างเพียงพอไปจนถึงต้นฤดูฝนนี้

กรมชลประทานย้ำปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์น้อยคงเหลือน้ำใช้เฉพาะการอุปโภคอย่างเพียงพอไปจนถึงต้นฤดูฝนนี้

          นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทานในฐานะโฆษกกรมชลประทานเปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำครั้งที่ 12/2563 ผ่านระบบ VDOConference ไปยังผู้แทนจากกรมอุตุนิยมวิทยากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรมทรัพยากรน้ำสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และสำนักงานชลประทานเครือข่ายศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ทั่วประเทศ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำจากพื้นที่ต่าง ๆ ในช่วงฤดูแล้งปี 2562/63 พร้อมเตรียมแผนการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนที่กำลังจะมาถึงนี้

          ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์สภาพอากาศในช่วงวันที่ 23–26 มีนาคม 2563 ว่าทางตอนบนของประเทศ ได้แก่ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง อาจเกิดฝนฟ้าคะนองได้ โดยเฉพาะภาคอีสานบริเวณจังหวัดสกลนคร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ส่วนจันทรบุรี และตราด จะมีฝนบ้างบางพื้นที่ ซึ่งเกิดจากพายุฤดูร้อน จึงอาจจะมีปริมาณฝนไม่มากนักแต่พอจะทำให้เกิดความชุ่มชื้นแก่ภาคการเกษตรได้บ้าง

          สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศปัจจุบัน (23มี.ค.63) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกัน37,156 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้านลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 52 มีปริมาณน้ำใช้การได้ 13,809 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสัก-ชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 9,451 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 38 มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 2,755 ล้าน ลบ.ม. ในขณะที่มีการระบายน้ำรวมกันวันละประมาณ 15 ล้าน ลบ.ม. สำหรับใช้ในการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพาะยาเท่านั้น

          ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างน้อย มีปริมาณน้ำใช้การได้น้อยกว่าปีที่แล้วราว 7,600 ล้าน ลบ.ม. โดยมีอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำใช้การได้น้อยกว่าร้อยละ 30 จำนวน 20 แห่งกระจายอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทั้งนี้ขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้ร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัด


แหล่งที่มา

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
www.thainews.prd.go.th
© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู