ข่าวสาร
L10 การปรับปรุงพันธุ์สัตว์
22 พฤศจิกายน 2562
นักวิจัยสถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล ม.มหิดล คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ด้านชีวโมเลกุลแปลงเพศกุ้งก้ามกรามปลอดโรค โตไว สายพันธุ์ MU1 เพื่อเพิ่มผลผลิต ช่วยเศรษฐกิจของประเทศ

นักวิจัยสถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล ม.มหิดล คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ด้านชีวโมเลกุลแปลงเพศ
กุ้งก้ามกรามปลอดโรค โตไว สายพันธุ์ MU1 เพื่อเพิ่มผลผลิต ช่วยเศรษฐกิจของประเทศ

มหาวิทยาลัยมหิดล โดย สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล และสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) ร่วมกันแถลงข่าวการเปิดตัว “แม่กุ้งก้ามกรามแปลงเพศต้นแบบ (MU 1) ขยายปริมาณสู่ตลาดผู้บริโภคเป็นผลสำเร็จ” ณ ห้องประชุมชั้น 1 สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ประธานแถลงข่าว กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมหิดลมีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็น World Class University และได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ของประเทศไทยติดต่อกันหลายปี เรามีนโยบายสนับสนุนให้นักวิจัยได้มีโอกาสทำงานวิจัยที่ครบวงจร จากต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ ต่อสังคมและเชิงพาณิชย์ได้อย่างครบวงจร

ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ภัทรชัย กีรติสิน ผู้อํานวยการสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล (iNT) กล่าวว่า ผลงานสำคัญเรื่องนี้ iNT ได้เข้ามาดูแลการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และสนับสนุนการนำผลงานกุ้งก้ามกรามแปลงเพศ MU1 ไปใช้ประโยชน์ โดยสถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล และ iNT ได้สร้างความร่วมมือกับบรรจงฟาร์ม ซึ่งได้สนับสนุนทุนเพื่อนำผลผลิตไปทดสอบและจำหน่ายกับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามต่อไป ซึ่งในอนาคตจะมีการขยายผลและพัฒนาเพิ่มเติม โดยมุ่งผลเพื่อช่วยสร้างรายได้แก่เกษตรกร และให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสู่ผู้บริโภคต่อไป

คุณสมประสงค์ เนตรทิพย์ เจ้าของฟาร์ม ลูกกุ้งเศรษฐี จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ลูกกุ้งก้ามกราม MU1 มีระยะการเจริญเติบโตที่สั้น และเข้าสู่ระยะคว่ำเร็วมาก โดยที่ฟาร์มใช้เวลาเลี้ยงเพียง 14 วัน พบลูกกุ้งก้ามกรามเริ่มตัวคว่ำ วันที่ 15 คว่ำร้อยละ 80 วันที่ 16 คว่ำเกือบหมด วันที่ 17 คว่ำ 100% หลังจากเช็คสุขภาพตัวลูกกุ้งก้ามกราม รอดูอาการหลังขาวจนครบ 21 วัน เราถึงจะจำหน่ายให้เกษตรกร โดยลูกกุ้งก้ามกราม MU1 แตกต่างจากสายพันธุ์ปกติค่อนข้างชัดเจน ตั้งแต่ใช้สายพันธุ์ MU1 มา ยังไม่เคยเจอชุดไหนที่ไม่คว่ำ หรือมีอาการของโรคหลังขาวเลย นอกจากนี้ เรายังพบว่า ลูกกุ้งก้ามกราม MU1 โตกว่าสายพันธุ์ปกติประมาณร้อยละ 30 โดยในบ่อชำมีตัวเลขที่ชัดเจนว่า ในอัตราการชำที่ 1 แสนตัวต่อไร่เท่ากัน ในขณะที่สายพันธุ์ปกติใช้เวลาถึง 60 วัน แต่ MU1 ใช้เวลาเพียง 55 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว

ส่วนปะการังฟาร์ม จ.ฉะเชิงเทรา คุณณัฐพล ขวัญจันทร์ ผู้จัดการฝ่ายผลิต กล่าวว่า ลูกกุ้งก้ามกราม MU1 เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับการพัฒนามาโดยมีลักษณะจุดเด่น คือ ปลอดโรค โตเร็ว และมีสัดส่วนเปอร์เซ็นต์เพศผู้ค่อนข้างสูง ซึ่งจากการสอบถามเกษตรกรพบว่าได้ตัวผู้ถึงประมาณร้อยละ 80 – 90 โดยลูกค้าที่ร่วมใช้ลูกกุ้งก้ามกรามสายพันธุ์ MU1 พร้อมกับเราตั้งแต่เริ่มโครงการ จนในปัจจุบันก็ยังมีการสั่งอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีการขยายผลไปยังกลุ่มผู้เลี้ยงรอบข้างอย่างต่อเนื่องอีกด้วย


แหล่งที่มา

เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์
https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article_131568
© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู