ข่าวสาร
F60 ชีวเคมีของพืช
9 ตุลาคม 2562
เพี้ยฟาน ตำนานผักเป็นยาป่า

เพี้ยฟาน เป็นพืชในวงศ์ ARALIACEAE มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Macropanax dispermus ktze. ทางภาคเหนือเรียก “เพี้ยฟาน” หรือ “ขี้ฮอก” หรือ “เหมือดหม่น” หรือ “เฮือดหม่น” ภาคกลางเรียก “ต่อไส้” หรือ “สันโสก” หรือ “ระงับพิษ” คนอีสานเรียก “หัสคุณเทศ” หรือ “สมัคน้อย” หรือ “สมัคขาว” เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 50-150 เซนติเมตร ลำต้นสีเขียว ผิวเปลือกต้นเรียบ แตกกิ่งก้านสลับกัน ใบจะแตกออกจากกิ่งสลับกัน เป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อยออกตามแกนใบตรงข้ามกัน ประมาณ 7-11 คู่ ใบย่อยรูปร่างกลมรี ใบหอก กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 3-4 เซนติเมตร โคนใบสอบ ปลายใบแหลมคล้ายใบผักหวานบ้าน ก้านใบยอดมีสีแดงคล้ำ มองเห็นสีสันชัดเจน สวยสง่าน่าเกรงขาม ดอกออกเป็นช่อ ดอกบานสีเขียวอมม่วง ออกตามซอกใบและปลายกิ่ง ปลูกขยายได้ด้วยวิธีแยกหน่อ ปักชำกิ่ง ชำราก ชำยอด เจริญเติบโตได้ง่ายและโตเร็ว โดยเฉพาะฤดูฝน มีพบในป่าละเมาะ ชาวบ้านนิยมนำมาปลูกข้างรั้วบ้าน แต่ยังไม่เคยพบเห็นนำมาขายตามท้องตลาด คงเป็นเพราะยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายมากนัก หรือมีคนส่วนน้อยที่ชื่นชอบรสชาติของเพี้ยฟาน หรืออาจจะเป็นเพราะยังไม่เป็นที่รู้จักกันก็เป็นได้ ผักชนิดนี้นับวันจะหายากขึ้นทุกที ด้วยเหตุว่าความนิยมไม่ค่อยแพร่หลายมากนัก มีหลายคนเจอใบพืชที่มีรสขมหลายอย่าง ก็เรียกว่าเพี้ยฟานไปด้วย ทำให้ความชัดเจนของผักเพี้ยฟาน กลายเป็นผักนอกตำราไปเสีย ทำให้เป็นผักที่ด้อยค่าราคาน้อย มีบันทึกว่าเพี้ยฟานเป็นพืชสมุนไพร เป็นยาพื้นบ้าน มีสรรพคุณบ่งบอกว่า นอกจากจะใช้ยอดอ่อนเป็นผักกับแกล้มลาบขม ยำ ส้าเนื้อ ชาวบ้านมีวิธีการลดความขม โดยการลวกเปลวไฟ ย่างไฟแรงๆ หรือกินสดเอาความขมเพรียวๆ ก็มี ชาวม้งกินแก้ท้องผูก

หมอชาวบ้าน โดยเฉพาะหมอชาวเผ่าชาวเขาต่างๆ ทั้งกะเหรี่ยง ม้ง ลีซอ ใช้ต้นเพี้ยฟานทั้งต้น ต้มน้ำอาบแก้ผื่นคัน กำจัดเหา ไร รักษาแผลเปื่อย แผลจากการคันและเกา แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก อาบแก้วิงเวียนศีรษะ ดื่มแก้สรรพพิษต่างๆ อาบแก้ไข้ ไม่สบาย โดยเฉพาะหญิงหลังคลอด ตำพอกแผลแก้อาการอักเสบ ช้ำบวมจากไฟ น้ำร้อนลวก เปลือกต้นมีสรรพคุณ มีสารต้านพิษที่จะทำลายตับ ต้านอาการปวดอักเสบ ใบและส่วนทั้งห้า แก้ไข้มาลาเรีย วัณโรค ห้ามเลือด ฆ่าเชื้อโรค รักษาโรคผิวหนัง แม้แต่นำมาใช้เป็นน้ำยาอาบกำจัดไรให้ไก่ และเชื่อแน่ว่าสักวันหนึ่งคงมีการวิจัยค้นพบสรรพคุณทางยาใหม่ๆ ออกมาได้อีกแน่ ซึ่งก็เหมือนผักที่มีรสขมทั่วไป ล้วนแต่มีสารที่มีรสขม ส่วนใหญ่แล้วผักที่มีรสขมมักจะเป็นยาที่หมอพื้นบ้านของเรานำมารักษาโรคต่างๆ หรือใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง เหมือนโบราณว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา ให้สังเกตว่าเพี้ยฟานทางภาคกลางเรียก “ต่อไส้” มีความหมายเป็นนัยสำคัญถึงความอยู่รอด คือการประทังชีวิตให้ยืนยาวต่อไปอีกชั่วระยะหนึ่ง หรือต่ออายุ ทำให้กินอาหาร และมีอาหารกิน สิ่งนั้นคงหมายถึงการเป็นยารักษาชีวิตได้อย่างแน่แท้


แหล่งที่มา

เทคโนโลยีชาวบ้าน
https://www.technologychaoban.com/thai-local-wisdom/article_126689
© 2017-2018 Office of the University Library, Kasetsart University.
forumถามกูรู